Posted on November 2, 2020 by adminน้ำค้างกับยอดหญ้า 露珠与绿叶 ในทุ่งดอกหญ้า มีบ้านกระจกหลังเล็กๆหลังหนึ่ง เจ้าของบ้านคือสาวน้อยน้ำค้างแสนสวยสาวน้อยน้ำค้างกลัวแสงแดดมาก แต่บ้านกระจกของเธอ ไม่สามารถบังแสงแดดได้เลยแม้แต่นิดเดียวสาวน้อยน้ำค้างจึงไปขอร้องต้นใบยา เธอทำเสียงหวานว่า “ท่านพี่ใบยาเจ้าขา ใบของท่านพี่ช่างใหญ่โตนัก ขอให้ท่านพี่ชูใบขึ้น จะได้บังแดดให้เรือนกระจกของหนูหน่อยจะได้ไหมเจ้าคะ”ต้นใบยาหันหลังมามอง มันกำลังเตรียมตัวเล่นตบแปะอยู่กับเด็กกลุ่มหนึ่ง ใบใหญ่ของต้นใบยาเป็นฝ่ามือของต้นใบยา เมื่อเล่นตบแปะ มือของใบยาก็ไม่ว่างเสียแล้ว ต้นใบยาโบกไม้โบกมือแล้วบอกว่า “เอ้อ…ดูนี่สิ ตัวฉันเตี้ยมาก บังแดดให้เธอไม่ได้หรอก เอาอย่างงี้ก็แล้วกัน เธอลองไปหาท่านพี่ต้นหางหมาดูสิ ตัวเขาสูงมาก รับรองได้ผลแน่ๆ”สาวน้อยน้ำค้างก็รีบไปหาท่านพี่ต้นหางหมา ขอร้องว่า “พี่ท่าน ช่วยบังแดดให้เรือนกระจกของหนูหน่อยเถิดนะเจ้าคะ”ต้นหางหมากำลังพลอดรักอยู่กับดอกเบญจมาศแสนสวย ดอกเบญมาศสะบัดกลีบไหวๆไปมา บ่นว่า “เฮ้อ อากาศช่างร้อนอะไรเช่นนี้” ต้นหางหมาก็รีบโค้งตัวลงมา “มาสิจ๊ะ เดี๋ยวพี่พัดให้ พี่พัดให้เองนะจ๊ะ” พูดไปพร้อมกับออกแรงพัดใบให้กับคุณเบญจมาศผู้เลอโฉม พอได้ยินเสียงออดอ้อนของสาวน้อยน้ำค้าง ต้นหางหมาไม่ทันจะเงยหน้าขึ้นมามอง ก็ร้องบอกว่า “เฮ่อ ต้องขอโทษด้วยนะ ช่วงนี้พี่ปวดเอวมาก ยืนบังแดดให้กับเธอไม่ไหวหรอกนะ เธอควรจะไปหาต้นหางเหยี่ยวดูจะดีกว่านะ”สาวน้อยน้ำค้างก็รีบไปหาต้นดอกหางเหยี่ยว แต่คุณพี่หางเหยี่ยวกำลังแต่งหน้าอยู่พอดี เพราะอีกสักครู่ คุณพี่ผีเสื้อจะมาเยี่ยม เพราะว่าคุณพี่ผีเสื้อเป็นแขกคนพิเศษ การต้อนรับคุณผีเสื้อเป็นเรื่องที่สำคัญมากของบรรดาดอกไม้ ดอกหางเหยี่ยวจึงไม่มีเวลาช่วยเหลือสาวน้อยน้ำค้างสายมากแล้ว แสงแดดก็ยิ่งร้อนขึ้นๆ เรือนกระจกของสาวน้อยน้ำค้างก็ถูกแดดส่องเสียจนร้อนระอุไปหมดแล้ว “โอ้ย…แย่แล้วๆ ” สาวน้อยน้ำค้างอึดอัดอยู่ในเรือนน้ำค้างที่ร้อนระอุและเริ่มหายใจไม่ออก หน้าก็ถูกแดดเผาจนแดง ตัวเกร็งไปหมดดอกไวโอเลตมองลอดเข้าไปในเรือนกระจกเห็นสาวน้อยน้ำค้างทุรนทุรายก็รีบกางใบของตัวเองทั้งหมดออกเพื่อบังแสงแดดให้กับสาวน้อยน้ำค้าง แต่ใบของดอกไวโอเลตก็เรียวเล็กเกินไป บังแสงแดดไม่มิด จึงได้ร้องบอกท่านพี่ใบยา ท่านพี่ต้นหางหมา ท่านพี่ดอกหางเหยี่ยว ด้วยความร้อนใจว่า“อย่ามัวแต่สนใจเรื่องของตัวเองอยู่เลยนะ ยื่นใบของพวกพี่ออกมาหน่อยเถิด ไม่ต้องมากมายอะไร เพียงแต่ละคนยื่นใบออกมาคนละใบ ช่วยบังแดดให้กับน้องน้ำค้าง ก็ไม่เป็นการรบกวนอะไรพวกท่านมากนักหรอก รีบยื่นใบออกมากันหน่อยเถิด”ดอกไม้ใบหญ้าได้ยินเสียงร้องของดอกไวโอเล็ต จึงพากันตื่นจากการหลับใหล พากันกางใบออกคนละใบสองใบ ช่างน่าตื่นตาตื่นใจจริงๆ แม้จะเป็นเพียงแค่คนละใบ แต่พอมารวมกันเข้า สูงๆต่ำๆ ยาวๆ เรียวๆ ทั้งเล็กทั้งใหญ่ เรียงร้อยซับซ้อนกันไป ก็สามารถบังเรือนกระจกจนสนิท กลายเป็นร่มเงาที่ร่มเย็นให้กับเรือนกระจกของสาวน้อยน้ำค้างได้เป็นอย่างดีสาวน้อยน้ำค้างได้รับการช่วยเหลือ จนสามารถรอดมาได้ ก็ขอบคุณต้นไม้ใบหญ้าอย่างจริงใจ “ขอบคุณทุกท่านมากเจ้าค่ะ”นับแต่นี้ไป เรือนกระจกของสาวน้อยน้ำค้างก็มีหลังคากำบังแสงแดดให้ความร่มเย็น หลังคานี้ก็คือพี่ๆต้นไม้ใบหญ้านั่นเองเพื่อเป็นการขอบคุณ สาวน้อยน้ำค้างจะมอบความชุ่มชื้นของหยาดน้ำค้างให้กับต้นไม้ ต้นหญ้าทุกต้น ในยามเช้าของทุกวัน อย่าคิดว่าน้ำค้างเป็นเพียงแค่หยดน้ำเล็กๆธรรมดาเพียงหยดเดียวเท่านั้น หากเรามองดูให้ดีๆ จะพบว่า ในทุกหยาดหยดของสาวน้อยน้ำค้าง สามารถมอบแสงสว่างแวววาวให้กับหัวใจของเราทุกคน野花丛中,有一座小小的彩色玻璃房子,房子里住着美丽的露珠姑娘。露珠姑娘特别怕晒太阳,可是她的房子是玻璃的,一点儿也挡不住太阳光。露珠姑娘只好请求车前草,她说:”车前草哥哥,你的叶子大,请你把叶子举起来,帮我的玻璃房子遮遮太阳好吗?”车前草转动着眼珠,他正准备同顽皮的风孩子玩击掌游戏,那些叶片,全都是他的巴掌,玩起游戏来,他的巴掌可没空,车前草把叶片胡乱举了举说:”唉,瞧,我的个子太矮,没法儿遮住你的玻璃房子,这样吧,你找狗尾巴草哥哥,他个子高,准行。”露珠姑娘去叫狗尾巴草哥哥,她说:”请你帮我的玻璃房子遮遮阳光好吗?”狗尾巴草同一朵漂亮的雏菊正在热恋中,雏菊娇滴滴地说:”哎,天真热。”狗尾巴草赶快弯下腰说:”来,我给你扇扇,我给你扇扇。”他卖力地挥动叶片给雏菊扇风。听见露珠姑娘的请求,狗尾巴草头也不抬地说:”哎,真对不起,这几天我腰痛,没法儿站起来帮你遮太阳,你最好找鸢尾姐姐帮忙吧。”露珠姑娘又去找鸢尾草,鸢尾草姐姐正在化妆,等会儿蝴蝶小姐要来拜访她,蝴蝶小姐是尊贵的客人,迎接蝴蝶小姐来访可是件大事情,她没有工夫来帮助露珠姑娘。太阳光越来越强烈,露珠姑娘的玻璃房子被晒得发烫,哎呀,不好啦,露珠姑娘住在发烫的玻璃房子里呼吸困难起来,她脸儿烧得通红,浑身抽搐。紫花地丁妹妹透过玻璃房子看见露珠姑娘的模样,她着急地举起自己全部的叶子为露珠姑娘遮挡阳光,可是紫花地丁的叶子太纤细,遮挡不了太阳,她只好对车前草、狗尾巴、鸢尾和其他花草喊起来:”别光顾你们自己呀,伸出你们的叶片吧,不要多了,只要每人伸出一片叶子帮露珠姑娘遮遮太阳,这不会影响你们干各自的事,快伸出一片绿叶吧!”花儿草儿们听见喊声,猛然醒悟过来,纷纷伸出一片绿叶——哇,不得了,虽然只是一片叶子,一合起来只见高高低低、长长圆圆、大大小小的叶片密密层层盖在玻璃房子上,一片浓密的绿阴遮住了骄阳!露珠姑娘得救了,她缓过气来,感激地说:”谢谢,谢谢你们大家!”从此露珠姑娘的玻璃房子上有了一片绿阴,它由野花丛中不同的绿叶组成。为了感谢大家,露珠姑娘每天清晨都将千千万万颗露珠分送给每一棵花草,别以为露珠只是一滴水,仔细看看,这每一滴水里都放进了露珠姑娘面赠大家的亮晶晶的心。ผู้เขียน Yi Ming(ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง)แปลและเรียบเรียง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เมชฌ สอดส่องกฤษ