ล่อเป็นลูกใครหนอ 小骡子是谁的孩子

ภาพแห่งความสนุกสนานบนผืนหญ้าเขียวขจี
วัวน้อยมอๆ สะบัดกีบวิ่งเล่นอยู่ข้างหลังแม่ของมัน แกะน้อยแบ๊ะ ๆ ซุกอยู่ในอ้อมกอดของแม่ดูดนมแม่อยู่ ส่วนพ่อแม่หมูอู๊ดๆ พาเหล่าลูกหมูเล่นเกมส์สนุกสนาน ส่วนเจ้ากระต่ายน้อยกำลังวิ่งประลองความเร็วกับพ่อแม่ของมัน
ล่อตัวน้อย แสนโดดเดี่ยวยืนน้ำตาคลอ มองดูอยู่ข้างๆ กระต่ายน้อยเห็นเข้า ก็เลยวิ่งเข้ามาหาถามว่า “เจ้าล่อน้อยเอ๋ย แกร้องไห้ทำไมเหรอ มาเร็ว มาเล่นด้วยกันนะ”
ล่อน้อยก็เอาแต่ก้มหน้าตอบว่า “ไม่ พวกแกมีพ่อ มีแม่วิ่งเล่นด้วยกัน แต่ฉัน….ฮือ ๆ ” พูดยังไม่ทันจบ เจ้าล่อน้อยก็ร้องไห้โฮ..
“แล้วพ่อแม่ของแกล่ะ เจ้าล่อน่อย”
“ตั้งแต่เกิดมา ฉันไม่เคยรู้เลยว่าพ่อแม่ของฉันเป็นใคร” เจ้าล่อน้อยส่ายหัว เสียงกระดิ่งที่คล้องคออยู่ดังก๊องแก๊งๆเบาๆ
“ไปกันเถอะ เราไปตามหาพ่อแม่ของล่อน้อยกัน” กระต่ายน้อยร้องเรียกวัว และแกะเข้ามาร่วมด้วย เพื่อนทั้งสองเมื่อรู้ว่าเจ้าล่อน้อยจะตามหาพ่อแม่ ก็เต็มใจช่วยเหลือ เพื่อนทั้งสี่ก็พากันออกเดินทางด้วยความเบิกบาน เพื่อไปตามหาพ่อแม่ของเจ้าล่อตัวน้อย
พอพวกมันเดินทางถึงถนนใหญ่ เจอคุณลุงล่อตัวโตกำลังลากรถเดินมา กระต่ายน้อยรีบวิ่งเข้าไปถาม “คุณลุงล่อครับ เจ้าล่อน้อยนี่ เป็นลูกของลุงรึเปล่าครับ”
“ไม่ใช่ ๆ ข้าไม่เคยมีลูกเลย” คุณลุงล่อพูดจบก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วก็ลากรถผ่านกลุ่มเด็ก ๆ ทั้งสี่ไป
เพื่อนรักทั้งสี่ พากันเดินต่อไป จนถึงตรอกเล็กๆแห่งหนึ่ง เห็นคุณป้าล่อตัวโต กำลังแบกเสบียงอาหารมาเต็มหลัง แกะน้อยรีบวิ่งเข้าไปถาม “คุณป้าครับ ป้าช่วยหันกลับไปดูหน่อยสิครับว่า เจ้าล่อตัวน้อยนั่น เป็นลูกของป้าหรือเปล่า”
คุณป่าล่อหัวเราะเสียงดัง “ฮา ๆ ๆ ล่ออย่างพวกเรา มีลูกไม่ได้หรอกไอ้หนู จะไปมีลูกมาจากไหนกัน”
“อะไรนะ” เจ้าแกะน้อยทำตาโต “ล่อ มีลูกไม่ได้อย่างงั้นเหรอ”
“แล้ว เจ้าล่อน้อยตัวนี้ล่ะ เป็นลูกใครเหรอ” เจ้ากระต่ายน้อยและเจ้าแกะน้อยถามด้วยความฉงนสงสัย
ส่วนเจ้าล่อน้อย รู้สึกสิ้นหวัง บอกกับเพื่อนๆด้วยเสียงเศร้าสร้อยว่า “ไม่ต้องหาแล้วล่ะ ฉันไม่มีพ่อ ไม่มีแม่”
“พวกเรายังมีพ่อ มีแม่เลย แกก็ต้องมีเหมือนกัน”
“ใช่แล้ว เจ้าล่อน้อย อย่าเพิ่งหมดกำลังใจ พวกเราไปตามหากันต่อเถอะนะ”
เพื่อนๆตัวน้อยก็พากันเดินฝ่าแสงแดดจ้า เดินทางต่อไป พอเดินผ่านบ่อน้ำแห่งหนึ่ง มีม้าสีแดงตัวหนึ่ง กำลังกินน้ำอยู่ พอเห็นพวกเด็ก ๆ ก็ทักทายอย่างเป็นมิตร “เด็กๆ มาดื่มน้ำกันเร็ว”
พวกเด็กๆก็พากันเดินไปที่บ่อน้ำ พอม้าสีแดงเห็นลูกล่อ ก็เดินเข้ามาใกล้ เดินด้อมๆมองๆ แล้วก็ได้ยินเสียงม้าตะโกนลั่น “นี่ไม่ใช่ลูกของฉันหรอกหรือ”
เจ้าล่อตัวน้อยถอยออกไปทีละก้าว ๆ “คุณเข้าใจผิดหรือเปล่า ผมไม่ใช่ม้าน้อย ผมเป็นล่อนะฮะ”
“ไม่ผิดหรอก ลูกแม่ กระดิ่งที่แขวนอยู่ที่คอเจ้า เป็นของที่แม่แขวนเอาไว้ตอนที่ลูกเกิด ในกระดิ่งมีหินอยู่สามลูก”
เพื่อนๆ ต่างร้อนใจ รีบเปิดกระดิ่งออกดู —– ในกระดิ่งก็มีลูกหินอยู่สามลูกจริงๆ พวกเพื่อนๆ ก็พากันกระโดดโลดเต้นดีอกดีใจกันใหญ่ “เจ้าล่อน้อย รีบเรียกแม่สิ รีบเรียกแม่สิ”
“แม่ฮะ แม่” เจ้าล่อน้อยวิ่งเข้าสู่อ้อมกอดของแม่ม้า เอาหัวคลอเคลียตัวแม่ม้า แม่ม้าก็ใช้ลิ้นเลียเจ้าล่อน้อยด้วยความโอบอ้อมอารี
“แม่ฮะ แล้วพ่อผมล่ะฮะ” ล่อน้อย ถามแม่ม้าด้วยความสงสัย
“พ่อเจ้าโม่แป้งอยู่ในห้องโม่โน่นแน่ะ ไป แม่จะพาเจ้าไปหาพ่อ”
พอไปถึงห้องโม่แป้ง ก็เห็นลาหนุ่มสีดำกำลังขะมักเขม้นกับการโม่แป้งอยู่
“ดูนั่น นั่นล่ะพ่อของเจ้า”
“พ่อฮะ พ่อฮะ”
อ้อ ที่แท้เจ้าล่อน้อยเป็นลูกของแม่ม้า กับพ่อลา พ่อลา แม่ม้า ลูกล่อพูดคุยกันด้วยความคิดถึง เจ้ากระต่ายน้อย แกะน้อย และวัวน้อยก็ค่อยๆย่องเดินจากไป
草地上,一片欢乐的情景。
小牛蹶着蹄子在妈妈跟前撒着欢,小羊偎在妈妈怀里吃奶,猪爸爸猪妈妈领着一群小猪在做游戏,小兔和爸爸妈妈一起赛跑。
小骡子孤单地站在一旁,悄悄地掉眼泪。小兔见了,蹦到他跟前,问道:”小骡子,你怎么哭了?来,我们一块儿玩吧!”
小骡子低下头:”不,你们都有爸爸妈妈和你们玩,可我……”他伤心地哭了起来。
“你的爸爸妈妈呢?”
“我从来不知道我的爸爸妈妈是谁。”小骡子摇着头,脖子上的铃铛清脆地响着。
“走,我们一块儿找去!”小兔唤来了小牛和小羊,他俩一听小骡子要找爸爸妈妈,都非常愿意帮助他。四个小伙伴欢欢喜喜上了路。
他们来到大路上,一匹老骡子正拉着大车走过来。小兔忙迎上去:”骡大伯,这小骡子是你的孩子吗?”
“不,不!我从来就没有过孩子。”老骡子喘着气,大车从他们身旁过去了。
他们走在小道上,见一匹骡子驮着粮食在前边走。小羊忙追上去:”骡大妈,请您转过头去看看,那小骡子是您的孩子吗?”
骡大妈哈哈大笑,说:”我们骡子根本就不会生孩子,哪有什么孩子呢?”
“什么?”小牛把眼睛瞪得大大的,”骡子不会生孩子?”
“那小骡子究竟是谁生的?”小兔和小羊也感到很奇怪。
小骡子失望极了,对小伙伴说:”别找了,我没有爸爸妈妈。”
“我们都有爸爸妈妈,你也一定会有的。”
“对,小骡子,别泄气,我们继续找吧!”
他们顶着火辣辣的太阳,又上了路。路过一口井时,一匹棕红色的马正在那里饮水,看见他们,热情地招呼道:”孩子们,请过来喝水!”
他们来到井口。棕红色的马一见到小骡子,就走近他,上上下下仔细地打量着,只听她惊喜地叫道:”这不是我的孩子吗?”
小骡子连连后退:”你弄错了吧?我不是小马驹儿,我是小骡子。”
“没错,孩子。你脖子上的铃铛是我生下你时给你戴上的,铃铛里面有三颗红石子。”
性急的小伙伴们争着打开了小铃铛——里面果真有三颗红石子。小伙伴们高兴得又蹦又跳:”小骡子,快叫妈妈!”
“妈——妈!”小骡子奔到妈妈身边,用头蹭着妈妈。妈妈也用舌头温柔地舔着小骡子。
“妈妈,我爸爸呢?”小骡子抬起头来问道。
“你爸爸在磨坊里磨面!走,我带你去见他!”
磨坊里,一匹黑色的驴子正埋头拉磨。
“瞧,那就是你的爸爸。”
“爸——爸!”
哦,原来小骡子是马妈妈和驴爸爸生的孩子。看着小骡子一家亲亲热热地说着知心话儿,小兔、小牛和小羊悄悄地走了。
ผู้เขียน Yi Ming(ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง)
แปลและเรียบเรียง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เมชฌ สอดส่องกฤษ