Posted on November 2, 2020 by adminแพนด้าน้อยมิ๊มี๊ผู้โดดเดี่ยว 孤独的熊猫咪咪 บนภูเขาสูงแห่งหนึ่ง มีต้นไผ่ขึ้นหนาแน่นเต็มไปหมด ที่นี่เป็นบ้านของคุณแพนด้า ในบ้านมีคุณพ่อแพนด้า คุณแม่แพนด้า แล้วก็น้องแพนด้าน้อยชื่อว่า มิ้มิ้เพราะว่าครอบครัวแพนด้ามีลูกคนเดียว พ่อแม่จึงรักและห่วงใยน้องมิ้มิ้มาก ดูแลเหมือนกับไข่ในหินเลยทีเดียว ไม่ว่ามิ้มิ้อยากได้อะไร พ่อแม่ก็หามาให้ทุกอย่าง แม้กระทั่งดวงดาวบนท้องฟ้าก็อยากจะเอามาให้น้องมิ้มิ้ ตั้งแต่เช้าจรดเย็น พ่อแม่ก็จะอยู่ข้างกายตลอดเวลาไม่เคยห่าง น้องมิ้มิ้เป็นเหมือนกับเทวดาตัวน้อยๆเลยเชียวล่ะเช้าวันสดใสวันหนึ่ง คุณแม่หมีดำพาน้องหมีดำมาเยี่ยมครอบครัวแพนด้า คุณแม่แพนด้าก็ต้อนรับแขกที่มาเยือนด้วยความอบอุ่น แถมยังเอากล้วยสีเหลืองทองหวีโตๆ มาให้น้องหมีดำกินอีกด้วย แต่น้องแพนด้ากลับวิ่งไปแย่งกล้วยมาจากมือของแม่แพนด้า “นี่เป็นกล้วยของผมนะฮะแม่ ” น้องมิ้มิ้กอดกล้วยเอาไว้แน่น ปอกเปลือกกล้วยกินทีละลูก ๆ แล้วยังแกล้งทำเสียงจ๊อบแจ๊บๆ ๆ กินอย่างเอร็ดอร่อยพ่อแพนด้าเอาลูกบอลมาให้น้องหมีดำเล่น น้องมิ้มิ้เห็นดังนั้นก็โยนกล้วยทิ้งรีบวิ่งไปแย่งลูกบอลคืนมา “ไม่ให้ ไม่ให้”“น้องมิ้มิ้จ๊ะ อย่าเสียมารยาทแบบนี้สิจ๊ะ” คุณแม่แพนด้าดุน้องมิ้มิ้น้องมิ้มิ้เห็นว่าวันนี้พ่อแม่ไม่ยอมเอาใจ น้องมิ้มิ้ร้องไห้โฮเสียงดังลั่น กลิ้งไปกลิ้งมา ไม่ว่าพ่อแม่จะปลอบยังไง น้องมิ้มิ้ก็ไม่ยอมหยุดร้องเสียทีช่างน่ารำคาญจริงๆ คุณแม่หมีดำก็พาน้องหมีดำกลับบ้านน้องมิ้มิ้ทำเรื่องเสียมารยาทในครั้งนี้ ไม่มีใครอยากมาเที่ยวบ้านของครอบครัวแพนด้าอีกเลย แต่ว่า น้องมิ้มิ้ก็ชอบความสนุกสนาน เพราะว่าอยู่ที่บ้านคนเดียวเหงามาก น้องมิ้มิ้ก็เลยวิ่งออกไปเล่นกับเพื่อนๆข้างนอกบ้านเพิ่งจะเดินออกจากประตูบ้าน น้องมิ้มิ้ก็ได้ยินนกคีรีบูนร้องเพลงเสียงหวานเจื้อยแจ้ว“ตะวันกลมๆ ปีนขึ้นภูเขา….ลา ลัน ลา”น้องมิ้มิ้มองไปทางตะวันออก ก็เห็นพระอาทิตย์สีแดงโผล่ขึ้นมาครึ่งดวง เชอะ เห็นชัดๆว่าแบนนี่นา เจ้านกนี่ร้องเพลงมั่วจริงๆ ดังนั้น น้องมิ้มิ้ก็ตะโกนดุด้วยเสียงดังว่า “หยุดเดี๋ยวนี้นะ พระอาทิตย์แบนจะตาย ไม่ใช่กลมซะหน่อย”“อะไรนะ พระอาทิตย์แบนเหรอ ฮ่า ๆๆ” นกร้องเพลงที่เกาะอยู่บนต้นไม้หัวเราะเสียงดังลั่น“แกกล้าหัวเราะฉันเหรอ” น้องมิ้มิ้วิ่งไปที่ใต้ต้นไม้ เขย่าต้นไม้สุดแรง แล้วก็พูดว่า “ฉันว่าแบนก็ต้องแบนสิ” นกคีรีบูนตกใจจนบินหนีไปน้องมิ้มิ้เดินมาถึงสนามหญ้า น้องลิงและเพื่อนๆกำลังขี่รถเล่นกัน น้องมิ้มิ้เดินเข้าไป “เรามาแข่งขี่รถกันเอามั้ย”การแข่งขันเริ่มต้นขึ้นแล้ว น้องลิงขี่จักรยานอย่างคล่องแคล่วว่องไว แต่น้องมิ้มิ้ยังขี่ไม่คล่องรั้งท้ายอยู่ตั้งไกล ด้วยความโกรธ น้องมิ้มิ้โยนจักยานทิ้ง “ขี่จักรยานไม่นับ เรามาแข่งปีนต้นไม้กันดีกว่า”“หนึ่ง สอง สาม….” น้องมิ้มิ้เพิ่งปีนขึ้นไปได้สามก้าว แต่น้องลิงปีนขึ้นไปจนถึงยอดไม้แล้ว“น้องมิ้มิ้ขี้แพ้ น้องมิ้มิ้ขี้แพ…”น้องมิ้มิ้โกรธมาก ชกเข้าไปที่หน้าน้องลิงหนึ่งครั้ง จนน้องลิงเอามือกุมหน้าร้องไห้โฮๆ น้องมิ้มิ้ก็เดินโยกไปย้ายมาจากไปเหมือนกับเป็นผู้ชนะยังไงยังงั้นนับแต่นั้นมา ไม่มีใครสนใจน้องมิ้มิ้อีกเลย แค่เห็นน้องมิ้มิ้เดินมา ทุกคนก็จะพากันหนีไปไกลๆ น้องมิ้มิ้เสียเพื่อนไปหมด รู้สึกว่าตัวเองโดดเดี่ยวเดียวดายมาก น้องมิ้มิ้ไปหาคุณปู่ช้างงวงยาว แล้วก็เล่าเรื่องความในใจให้คุณปู่ช้างฟัง เล่าไปก็น้ำตาไหลไปด้วยความเสียใจ คุณปู่ช้างใจดีมองดูน้องมิ้มิ้ด้วยดวามสงสาร แล้วก็พูดอบรมสั่งสอนน้องมิ้มิ้ว่า “เจ้าเด็กโง่ ลองคิดดูดีๆสิ ว่าทำไมเพื่อนๆถึงไม่ยอมเล่นด้วย เมื่อคิดออกแล้ว หนูก็จะไม่โดดเดี่ยวอีกแล้วนะ”在一座高高的山上,长满了密密的竹子。这里住着熊猫的家。家里有熊猫爸爸、熊猫妈妈和他们的小宝宝——咪咪。因为只有咪咪这么一个孩子,爸爸妈妈把他看做是掌上明珠,对他百般宠爱。咪咪要什么,就给他什么,恨不得把天上的星星也摘下来给他。从早到晚,爸爸妈妈都围着他转,听他使唤,咪咪简直成了家里的小霸王。一个晴朗的日子,黑熊妈妈带着小黑熊来到熊猫家做客。熊猫妈妈十分热情地接待了他们,还拿出一串黄澄澄的香蕉请小黑熊吃,咪咪猛地从妈妈手里夺下香蕉:”这是我的!”他把香蕉全抱在怀里,一根接一根地剥着吃,嘴里还故意发出”叭叭”的声响。爸爸又拿出花皮球给小黑熊玩,咪咪扔下香蕉,又抢过皮球:”不给!不给!”“咪咪,不许这么没礼貌!”妈妈生气了。看着爸爸妈妈今天没依着他,咪咪放声大哭,遍地乱滚,无论对他说多少好话他都不肯起来。真扫兴!黑熊妈妈只好带着小黑熊回家了。咪咪这般无礼,谁也不愿再到他家做客了。可是,咪咪偏偏爱热闹,家里太寂寞了,他就跑出去找小伙伴玩。刚走出门,他听见一只百灵鸟在歌唱:“圆溜溜的太阳爬上坡……”他朝东边一看,鲜红的太阳才露出一半儿,明明是扁的嘛!这小小的百灵乌竟敢乱唱,咪咪大喝一声:”住嘴!太阳是扁的,不是圆的。”“什么,太阳是扁的?哈哈哈!”树上的百灵鸟大笑起米。“你敢笑我?”咪咪抱着树猛摇起来,一边摇一边叫:”我说扁的就是扁的:”百灵鸟被吓跑了。咪咪来到草地上,一群小猴子正在那里骑车玩。咪咪走过去:”我们来比赛骑车!,比赛开始了。小猴子们把车蹬得飞快,咪咪笨拙地蹬着丰,远远地落在了后面,他把车重重地摔在地上:”骑车不算数,我们来比爬树!”“一、二、三……”咪咪才爬了三步,小猴子们已上了树顶。“咪咪输了!咪咪输了!”咪咪恼羞成怒,他一掌打在一个小猴子的脸上,小猴子捂着脸呜呜直哭,他却像一个胜利者似的,大摇大摆地走了。从此,没有谁再理睬咪咪了,只要见他来了,大家都躲得远远的。味咪失去了所有的朋友,感到十分孤独。他找到老象爷爷,向他诉说心中的痛苦,还流下了伤心的眼泪。老象爷爷慈爱地看着他,语重心长地说:”孩子,好好想一想,大伙为什么不愿和你在一起?想明白了,你就不再是孤独的咪咪了。”ผู้เขียน Yi Ming(ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง)แปลและเรียบเรียง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เมชฌ สอดส่องกฤษ