แพนด้าน้อยมิ๊มี๊ผู้โดดเดี่ยว 孤独的熊猫咪咪

บนภูเขาสูงแห่งหนึ่ง มีต้นไผ่ขึ้นหนาแน่นเต็มไปหมด ที่นี่เป็นบ้านของคุณแพนด้า ในบ้านมีคุณพ่อแพนด้า คุณแม่แพนด้า แล้วก็น้องแพนด้าน้อยชื่อว่า มิ้มิ้
เพราะว่าครอบครัวแพนด้ามีลูกคนเดียว พ่อแม่จึงรักและห่วงใยน้องมิ้มิ้มาก ดูแลเหมือนกับไข่ในหินเลยทีเดียว ไม่ว่ามิ้มิ้อยากได้อะไร พ่อแม่ก็หามาให้ทุกอย่าง แม้กระทั่งดวงดาวบนท้องฟ้าก็อยากจะเอามาให้น้องมิ้มิ้ ตั้งแต่เช้าจรดเย็น พ่อแม่ก็จะอยู่ข้างกายตลอดเวลาไม่เคยห่าง น้องมิ้มิ้เป็นเหมือนกับเทวดาตัวน้อยๆเลยเชียวล่ะ
เช้าวันสดใสวันหนึ่ง คุณแม่หมีดำพาน้องหมีดำมาเยี่ยมครอบครัวแพนด้า คุณแม่แพนด้าก็ต้อนรับแขกที่มาเยือนด้วยความอบอุ่น แถมยังเอากล้วยสีเหลืองทองหวีโตๆ มาให้น้องหมีดำกินอีกด้วย แต่น้องแพนด้ากลับวิ่งไปแย่งกล้วยมาจากมือของแม่แพนด้า “นี่เป็นกล้วยของผมนะฮะแม่ ” น้องมิ้มิ้กอดกล้วยเอาไว้แน่น ปอกเปลือกกล้วยกินทีละลูก ๆ แล้วยังแกล้งทำเสียงจ๊อบแจ๊บๆ ๆ กินอย่างเอร็ดอร่อย
พ่อแพนด้าเอาลูกบอลมาให้น้องหมีดำเล่น น้องมิ้มิ้เห็นดังนั้นก็โยนกล้วยทิ้งรีบวิ่งไปแย่งลูกบอลคืนมา “ไม่ให้ ไม่ให้”
“น้องมิ้มิ้จ๊ะ อย่าเสียมารยาทแบบนี้สิจ๊ะ” คุณแม่แพนด้าดุน้องมิ้มิ้
น้องมิ้มิ้เห็นว่าวันนี้พ่อแม่ไม่ยอมเอาใจ น้องมิ้มิ้ร้องไห้โฮเสียงดังลั่น กลิ้งไปกลิ้งมา ไม่ว่าพ่อแม่จะปลอบยังไง น้องมิ้มิ้ก็ไม่ยอมหยุดร้องเสียที
ช่างน่ารำคาญจริงๆ คุณแม่หมีดำก็พาน้องหมีดำกลับบ้าน
น้องมิ้มิ้ทำเรื่องเสียมารยาทในครั้งนี้ ไม่มีใครอยากมาเที่ยวบ้านของครอบครัวแพนด้าอีกเลย แต่ว่า น้องมิ้มิ้ก็ชอบความสนุกสนาน เพราะว่าอยู่ที่บ้านคนเดียวเหงามาก น้องมิ้มิ้ก็เลยวิ่งออกไปเล่นกับเพื่อนๆข้างนอกบ้าน
เพิ่งจะเดินออกจากประตูบ้าน น้องมิ้มิ้ก็ได้ยินนกคีรีบูนร้องเพลงเสียงหวานเจื้อยแจ้ว
“ตะวันกลมๆ ปีนขึ้นภูเขา….ลา ลัน ลา”
น้องมิ้มิ้มองไปทางตะวันออก ก็เห็นพระอาทิตย์สีแดงโผล่ขึ้นมาครึ่งดวง เชอะ เห็นชัดๆว่าแบนนี่นา เจ้านกนี่ร้องเพลงมั่วจริงๆ ดังนั้น น้องมิ้มิ้ก็ตะโกนดุด้วยเสียงดังว่า “หยุดเดี๋ยวนี้นะ พระอาทิตย์แบนจะตาย ไม่ใช่กลมซะหน่อย”
“อะไรนะ พระอาทิตย์แบนเหรอ ฮ่า ๆๆ” นกร้องเพลงที่เกาะอยู่บนต้นไม้หัวเราะเสียงดังลั่น
“แกกล้าหัวเราะฉันเหรอ” น้องมิ้มิ้วิ่งไปที่ใต้ต้นไม้ เขย่าต้นไม้สุดแรง แล้วก็พูดว่า “ฉันว่าแบนก็ต้องแบนสิ” นกคีรีบูนตกใจจนบินหนีไป
น้องมิ้มิ้เดินมาถึงสนามหญ้า น้องลิงและเพื่อนๆกำลังขี่รถเล่นกัน น้องมิ้มิ้เดินเข้าไป “เรามาแข่งขี่รถกันเอามั้ย”
การแข่งขันเริ่มต้นขึ้นแล้ว น้องลิงขี่จักรยานอย่างคล่องแคล่วว่องไว แต่น้องมิ้มิ้ยังขี่ไม่คล่องรั้งท้ายอยู่ตั้งไกล ด้วยความโกรธ น้องมิ้มิ้โยนจักยานทิ้ง “ขี่จักรยานไม่นับ เรามาแข่งปีนต้นไม้กันดีกว่า”
“หนึ่ง สอง สาม….” น้องมิ้มิ้เพิ่งปีนขึ้นไปได้สามก้าว แต่น้องลิงปีนขึ้นไปจนถึงยอดไม้แล้ว
“น้องมิ้มิ้ขี้แพ้ น้องมิ้มิ้ขี้แพ…”
น้องมิ้มิ้โกรธมาก ชกเข้าไปที่หน้าน้องลิงหนึ่งครั้ง จนน้องลิงเอามือกุมหน้าร้องไห้โฮๆ น้องมิ้มิ้ก็เดินโยกไปย้ายมาจากไปเหมือนกับเป็นผู้ชนะยังไงยังงั้น
นับแต่นั้นมา ไม่มีใครสนใจน้องมิ้มิ้อีกเลย แค่เห็นน้องมิ้มิ้เดินมา ทุกคนก็จะพากันหนีไปไกลๆ น้องมิ้มิ้เสียเพื่อนไปหมด รู้สึกว่าตัวเองโดดเดี่ยวเดียวดายมาก น้องมิ้มิ้ไปหาคุณปู่ช้างงวงยาว แล้วก็เล่าเรื่องความในใจให้คุณปู่ช้างฟัง เล่าไปก็น้ำตาไหลไปด้วยความเสียใจ คุณปู่ช้างใจดีมองดูน้องมิ้มิ้ด้วยดวามสงสาร แล้วก็พูดอบรมสั่งสอนน้องมิ้มิ้ว่า “เจ้าเด็กโง่ ลองคิดดูดีๆสิ ว่าทำไมเพื่อนๆถึงไม่ยอมเล่นด้วย เมื่อคิดออกแล้ว หนูก็จะไม่โดดเดี่ยวอีกแล้วนะ”
在一座高高的山上,长满了密密的竹子。这里住着熊猫的家。家里有熊猫爸爸、熊猫妈妈和他们的小宝宝——咪咪。
因为只有咪咪这么一个孩子,爸爸妈妈把他看做是掌上明珠,对他百般宠爱。咪咪要什么,就给他什么,恨不得把天上的星星也摘下来给他。从早到晚,爸爸妈妈都围着他转,听他使唤,咪咪简直成了家里的小霸王。
一个晴朗的日子,黑熊妈妈带着小黑熊来到熊猫家做客。熊猫妈妈十分热情地接待了他们,还拿出一串黄澄澄的香蕉请小黑熊吃,咪咪猛地从妈妈手里夺下香蕉:”这是我的!”他把香蕉全抱在怀里,一根接一根地剥着吃,嘴里还故意发出”叭叭”的声响。
爸爸又拿出花皮球给小黑熊玩,咪咪扔下香蕉,又抢过皮球:”不给!不给!”
“咪咪,不许这么没礼貌!”妈妈生气了。
看着爸爸妈妈今天没依着他,咪咪放声大哭,遍地乱滚,无论对他说多少好话他都不肯起来。
真扫兴!黑熊妈妈只好带着小黑熊回家了。
咪咪这般无礼,谁也不愿再到他家做客了。可是,咪咪偏偏爱热闹,家里太寂寞了,他就跑出去找小伙伴玩。
刚走出门,他听见一只百灵鸟在歌唱:
“圆溜溜的太阳爬上坡……”
他朝东边一看,鲜红的太阳才露出一半儿,明明是扁的嘛!这小小的百灵乌竟敢乱唱,咪咪大喝一声:”住嘴!太阳是扁的,不是圆的。”
“什么,太阳是扁的?哈哈哈!”树上的百灵鸟大笑起米。
“你敢笑我?”咪咪抱着树猛摇起来,一边摇一边叫:”我说扁的就是扁的:”
百灵鸟被吓跑了。
咪咪来到草地上,一群小猴子正在那里骑车玩。咪咪走过去:”我们来比赛骑车!,
比赛开始了。小猴子们把车蹬得飞快,咪咪笨拙地蹬着丰,远远地落在了后面,他把车重重地摔在地上:”骑车不算数,我们来比爬树!”
“一、二、三……”咪咪才爬了三步,小猴子们已上了树顶。
“咪咪输了!咪咪输了!”
咪咪恼羞成怒,他一掌打在一个小猴子的脸上,小猴子捂着脸呜呜直哭,他却像一个胜利者似的,大摇大摆地走了。
从此,没有谁再理睬咪咪了,只要见他来了,大家都躲得远远的。味咪失去了所有的朋友,感到十分孤独。他找到老象爷爷,向他诉说心中的痛苦,还流下了伤心的眼泪。老象爷爷慈爱地看着他,语重心长地说:”孩子,好好想一想,大伙为什么不愿和你在一起?想明白了,你就不再是孤独的咪咪了。”
ผู้เขียน Yi Ming(ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง)
แปลและเรียบเรียง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เมชฌ สอดส่องกฤษ