หิ่งห้อยกับดวงดาว萤火虫和小星星

บนท้องฟ้าข้างๆก้อนเมฆ ดาวดวงหนึ่งกระพริบแสงวับวาว บนพื้นดิน ข้างๆแม่น้ำ หิ่งห้อยกลุ่มหนึ่งส่องแสงสว่างระยิบระยับ
“เฮ้ ขึ้นมาบนนี้สิ มาเล่นซ่อนหากันมั้ย” ดาวดวงน้อยบนฟ้าแอบเอาหน้าซ่อนอยู่ในเมฆ แต่อีกตาหนึ่งกระพริบปริบๆ หยอกล้อกับฝูงหิ่งห้อยที่บินอยู่บนพื้นดิน
“ได้สิ เธอรออยู่นั่นแหละ” ว่าแล้ว เจ้าหิ่งห้อยก็รีบถือโคมไฟเดินไปเดินมาอยู่ที่พงหญ้า
“เธอทำอะไรอยู่น่ะ” ดาวบนฟ้าค่อยๆเผยตัวออกมาจากหลังก้อนเมฆ แล้วทำตาโต ร้องถามหิ่งห้อย
“ฉันกำลังหาเข็มกับด้ายอยู่น่ะ” หิ่งห้อยร้องตอบดวงดาว แล้วก้มหน้าก้มตาหาต่อไป
“หาเข็มกับด้ายไปทำไมเหรอ” ดาวตะโกนถามลงมาอีก
“เย็บชุดนักบิน”
“เย็บชุดนักบินไปทำไม”
“อ้าว ก็เธอชวนฉันขึ้นไปเล่นกับเธอบนฟ้าไม่ใช่เหรอ”
“อ้อ งั้นฉันลงมาช่วยหาดีกว่า” เสียงดังฟี้ว ดาวตกลงมาจากฟ้ามาช่วยหิ่งห้อยหาเข็มกับด้าย
น้องหนูนั่งเล่นอยู่ในสวน ได้ยินเสียงหิ่งห้อยกับดาวคุยกัน จึงออกมาดู ก็เห็นแค่พงหญ้า ที่ใต้ร้านแตง มีแสงระยิบระยับอยู่เต็มพื้น ดาวล่ะหายไปไหนแล้ว มันบินขึ้นไปบนฟ้าแล้วล่ะ แต่น้องหนูก็ไม่รู้เลย น้องหนูแหงนหน้ามองฟ้า “ท้องฟ้านี่ช่างสวยจริงเลย”
คืนต่อมา น้องหนูก็เดินมาที่ข้างแม่น้ำ แต่ก็ไม่เจอหิ่งห้อยอีกเลย ที่แท้เจ้าหิ่งห้อยหาเข็มกับด้ายเจอแล้ว เย็บชุดนักบิน สวมชุดแล้ว ก็บินขึ้นไปบนฟ้ากับดวงดาวนี่เอง
มองดูบนฟ้าก็เห็นหิ่งห้อยกับดวงดาวกระพริบแสงระยิบระยับ อันไหนเป็นหิ่งห้อย อันไหนเป็นดวงดาว น้องหนูก็ดูไม่ออกเลยจริงๆ  

天上,白云边,一颗小星星在一闪一闪。地上,小河边,一群萤火虫在一亮一亮。”喂,上来吧,我们来玩藏猫猫好吗?”天上的小星星把半个脸躲进白云里,向地上的萤火虫眨着眼睛。
“好啊,你等着吧!”地上的萤火虫忙起来了,提着盏小灯笼,在草丛里走来走去。
  ”你在干什么?”天上的小星星从白云后面走出来,把眼睛睁得大大的。
  ”在找针线呢。”萤火虫回答说,头也不抬。
  ”找针线干什么?”小星星又问。
  ”缝航天衣。”
  ”缝航天衣干什么?”
  ”咦,你不是邀请我到天上去玩儿吗?”
  ”那好,我帮你一起来找吧。”小星星”呼”的一下,从天上落下来,帮萤火虫找针线。
  小妹妹在院子里,听到了小星星和萤火虫的谈话,出来一看,只见草丛里,瓜棚下,到处一闪一闪的。小星星呢?它和萤火虫在一起飞来飞去,怎么也认不出来。小妹妹想:天上多美啊。
  第二天晚上,小妹妹来到小河边,可再也看不见萤火虫了。原来,萤火虫找到了针线,缝好了航天衣,穿在身上,跟着小星星一起飞上天去了。
  它们在天上眨着眼睛,哪是萤火虫,哪是小星星,小妹妹看来看去分不清。

ผู้เขียน Yi Ming(ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง)
แปลและเรียบเรียง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เมชฌ สอดส่องกฤษ

เม่นผู้กล้าหาญ勇敢的小刺猬

ในบรรดาเพื่อนเล่นทั้งหลาย เจ้าลิงเกเรเหยียดหยามน้องเม่นเป็นที่สุด ดูซิว่ามันขี้เหร่แค่ไหน ทั้งตัวมีแต่หนาม หัวก็ทั้งเล็กทั้งแหลม วันๆก็หดหัวอยู่ในท้อง ขี้ขลาดตาขาว
อยู่มาวันหนึ่ง พวกเด็กๆตกลงจะเล่นซ่อนหากัน น้องเม่นก็อยากจะเข้าร่วมวงด้วย เจ้าลิงโมโห ไล่น้องเม่น “ไป ไป ไป แกจะมาประสมโรงอะไรกับเค้าเนี่ย”
เจ้ากวางน้อยและเจ้ากระรอกน้อยต่างพากันช่วยน้องเม่นอ้อนวอนเจ้าลิง “ให้น้องเม่นเล่นด้วยเถอะนะ พี่ลิงนะ”
“เชอะ ให้มันมาเล่น มันจะทำอะไรได้ โง่เง่าเต่าตุ่น” เจ้าลิงบ่นพึมพำๆ
ช่างไม่ยุติธรรมเลย เจ้ากระต่ายน้อยกระโดดออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม “น้องเม่นไม่ได้โง่ซะหน่อย ทุกๆวัน ตอนกลางคืนก็ยังจับหนูได้ตั้งหลายตัว”
“ก็แค่จับหนู มีอะไรดีเหรอ” เจ้าลิงโวยวายลั่น “มันวิ่งได้เร็วเหมือนฉันมั้ยล่ะ ปีนต้นไม้ได้เหมือนฉันมั้ยล่ะ”
ได้ยินดังนั้น บรรดาพรรคพวกเพื่อนฝูงทั้งหลายก็เลยพากันปิดปากเงียบกริบ ส่วนน้องเม่นผู้น่าสงสารก็ได้แต่ม้วนตัว เดินละห้อย หลบไปอยู่ข้างๆ เงียบๆคนเดียว
การเล่นซ่อนหาเริ่มต้นขึ้น เจ้ากระต่ายก็รีบวิ่งไปซ่อนอยู่ในพงหญ้า กระต่ายขนฟูก็ถูกต้นหญ้าใบเรียวหนาปิดจนมิด ใครก็หาไม่เจอ แต่ทันใดนั้นเอง เจ้ากระต่ายก็ร้องเสียงหลง “งู งู งู”
เพื่อนๆที่ซ่อนตัวอยู่ในซอกมุมต่างๆก็พากันวิ่งออกมาถามว่า งูอยู่ไหนเหรอ เจ้ากระต่ายน้อยยังไม่ทันได้ตอบอะไร ก็ได้ยินเสียง “แกวกๆ ๆ” แหวกพงหญ้าออกมาอยู่หน้าสัตว์ทั้งหลาย ตัวงูทั้งใหญ่ทั้งยาว มีรูปสามเหลี่ยมบนแม่เบี้ยด้วย แถมยังพ่นพิษออกมาจากปาก และก็ส่งเสียงขู่ฟู่ๆ อีกต่างหาก น่ากลัวมาก
เจ้าลิงตะโกนร้องด้วยความตกใจ “วิ่งหนีเร็ว เจี๊ยก ๆ ” แล้วก็วิ่งหนีไปเป็นคนแรกเลย ตามไปด้วยเจ้ากระต่าย เจ้ากวาง และก็เจ้ากระรอก แต่งูที่ดุร้ายก็ยืดตัวยาวเลื้อยไล่ตามไปติด ๆ ทันใดนั้นเอง น้องเม่นก็กัดที่หางของงูไว้แน่น แล้วก็ม้วนหัวเข้าไว้ใต้ท้องตัวเอง งูก็โกรธ ชูแม่เบี้ยส่ายไปมา มุ่งจะกัดน้องเม่นให้ตาย แต่น้องเม่นก็ไม่กลัวเลยสักนิด และก็ยังกัดหางของงูเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย งูใหญ่ขดเป็นวง หมายจะรัดน้องเม่นให้ตาย แต่น้องเม่นรวบรวมพลัง โก่งตัวขึ้น หนามแหลมบนตัวตั้งขึ้น พุ่งใส่งู เจ้างูใหญ่ถูกหนามเม่นแทงเป็นรูนับไม่ถ้วน เจ้างูใหญ่ดิ้นอยู่พักหนึ่ง ก็สิ้นฤทธิ์ไม่ขยับเขยื้อนเลย
เมื่องูตาย พวกเพื่อนๆก็วิ่งกลับมา เห็นน้องเม่นฆ่างูร้ายด้วยหนามแหลม ต่างพากันชมเชยน้องเม่นกันใหญ่
“ดีนะที่เจ้าช่วยพวกเราไว้”
“น้องเม่น ไม่เพียงแค่จับหนูได้ ยังจะสู้กับงูพิษได้อีก ช่างเก่งกาจจริงๆ “
เจ้าลิงเกเรหน้าแดงด้วยความอับอาย ก้มหน้าก้มตาพูดว่า “น้องเม่น เจ้าช่างกล้าหาญจริง ยกโทษให้ฉันด้วยนะ ที่แต่ก่อนเคยดูถูกเจ้า”

在这么多的小伙伴中,小猴顶顶瞧不起的就是小刺猬了。瞧他那丑样儿:满身插着大针,又尖又小的脑袋,老是缩在肚子下面,一副胆小怕事的样子。
   有一天,小伙伴们在玩捉迷藏,小刺猬也想参加,小猴不高兴了:”去去去,你凑什么热闹?”
  小鹿和小松鼠都为小刺猬求情道:”让小刺猬来吧,小猴!”
  ”哼,让他来,他能干什么?呆头笨脑的。”小猴叽咕道。
  这话太不公平了!小白兔跳出来打抱不平:”小刺猬并不笨,每天夜里他都能捉几只老鼠。”
  ”捉老鼠有什么了不起?”小猴提高了嗓门窗道,”他能像我跑得那样快吗?能像我一样爬上这棵树吗?”
  大伙儿不吭声了。小刺猬那圆乎乎的身子动了动,悄悄地退到一边去了。
  捉迷藏开始了。小白兔撒腿往草丛里跑,雪白的身子被长长的草遮住了。忽然,小白兔惊惶地尖叫起来:”蛇!蛇!”
  小伙伴们都从藏身的地方跑出来,问蛇在哪儿?不等小白兔回答,只听得”刚刚”一阵响,那条蛇已经爬到他们跟前了,身体又粗又长,三角形脑袋,嘴里的毒芯一伸一伸,还发出了”唿唿”的声音,怪吓人的。
  小猴大喊一声”快跑!”他第一个转身就跑。小白兔、小松鼠和小鹿跟在后边。蛇拉直了身体,拼命朝前追。经过小刺猬跟前,小刺猬一下子咬住了蛇的尾巴,然后把头缩进肚子底下。蛇把头抬得高高的,凶狠地摇了摇,想咬死小刺猬。小刺猬一点儿也不害怕,还是紧紧地咬住蛇尾巴不放,蛇盘成一团,想绞死小刺猬。小刺猬鼓足劲,弓起背,全身的尖刺都竖起来。蛇的身上被刺了无数个小洞,挣扎几下,最后一动也不动了。
  小伙伴们都回来了,看到小刺猬把凶恶的大毒蛇给刺死了,七嘴八舌地夸奖起来:
  ”多亏你救我们!”
  ”小刺猬不但能捉老鼠,还能斗毒蛇,真了不起!”
 小猴红着脸,低着头说:”小刺猬,你勇敢,我以前小看你了,请原谅我吧!”

ผู้เขียน Yi Ming(ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง)
แปลและเรียบเรียง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เมชฌ สอดส่องกฤษ

คุณป้าพระจันทร์มาเป็นเพื่อน月亮姑姑来做伴

อุทกภัยครั้งใหญ่พัดพาเอาบ้านพี่กระต่ายน้องกระต่ายพังเสียหาย สองพี่น้องกระต่ายก็เลยพากันหนีภัยไปที่อื่น
ม่านอันมืดมิดของราตรีกาลปกคุลมไปทั่วแผ่นดิน ทั่วขุนเขา ทั่วผืนป่า กระต่ายพี่น้องนั่งร้องไห้อยู่บนเนินเขา ร้องจนตาทั้งสองข้างแดงก่ำ
ทันใดนั้น “อย่าร้องเลย อย่าร้องเลยจ้ะ เด็กดีเขาไม่ร้องไห้กันหรอกนะ”
“ใครพูดกับเราอยู่เหรอ ช่างเป็นเสียงที่ไพเราะเหลือเกิน” พี่กระต่ายพูด
“เหมือนกับเสียงแม่เลยนะพี่ เสียงนี้มาจากบนสวรรค์โน่นแน่ะ” น้องกระต่ายตอบ
พี่กระต่าย น้องกระต่ายมองไปตามเสียงนั้น แหงนขึ้นมองบนฟ้า ก็เห็นแต่เพียงคุณป้าพระจันทร์กำลังส่งยิ้มให้อยู่
“คุณป้าพูดกับเราเหรอครับ” น้องกระต่ายถาม
“ใช่แล้วจ้ะ ฟ้ากำลังจะมืดลง ป้ามาส่องแสงนำทางให้หนูนะจ้ะ” คุณป้าพระจันทร์ตอบ
“คุณป้าพระจันทร์ครับ เราไม่มีบ้านแล้ว เราจะทำยังไงกันดีครับ” น้องกระต่ายเอ่ยถาม
“บ้านเก่าไม่มีแล้ว เราก็ลงมือสร้างบ้านใหม่ได้นี่นา บนเนินนี้เหมาะที่จะอาศัยอยู่พอดีเลย” คุณป้าพระจันทร์พูด
“ตกลงครับ” ทั้งน้องกระต่ายและพี่ก็ลงมือขุดโพรงสร้างบ้านใหม่ทันที
ลมเอื่อยพัดโชยเนินเขา กระต่ายพี่น้องยิ่งสร้างยิ่งมีพลัง ไม่มีใครรู้สึกว่าเหนื่อยเลยสักนิด เพราะว่ามีคุณป้าพระจันทร์คอยอยู่เป็นเพื่อนตลอดเวลา
และแล้วบ้านใหม่ก็สร้างเสร็จอย่างรวดเร็ว กระต่ายพี่น้องกระโดดเข้าบ้านใหม่ คุณป้าพระจันทร์พูดกับพวกมันว่า ลูกทั้งสอง ขออวยพรให้อยู่เย็นเป็นสุขนะจ๊ะ

洪水冲塌了兔兄、兔弟的家。他俩哭着到外边去逃荒。
夜幕笼罩了大地、山野和森林,兔兄和兔弟哭着坐在山坡上休息,他俩连眼睛都哭红了。”别哭!别哭!好孩子决不哭鼻子!”
  ”是谁在对我们讲话?这声音真好听!”兔兄说。
  ”好像妈妈在讲话,这声音是从天上来的!”兔弟说。
  兔兄、兔弟顺着声音向天上望去,天上只有月亮姑姑微笑着望着他们。
  ”是您在对我们说话吗?”兔弟问。
  ”是的。天刚黑下来,姑姑就为你们引路了。”月亮姑姑说。
  ”月亮站姑,我们没有家了,怎么办?”兔兄问。
  ”旧房塌了,可以动手造个新家呀!山坡上正好可以安家。”月亮姑姑说。
  ”好的!”兔兄、兔弟说干就干,在山坡上开始挖洞造屋。
  微风轻轻掠过山坡,兔兄、兔弟盖房造屋干得可带劲儿了,他们谁也不觉得累,因为,天上有月亮姑姑一直陪伴着他们。
新屋很快就造好了,兔兄、兔弟住进了新家。月亮姑姑笑着对他们说:”孩子们,祝你们安居乐业!”

ผู้เขียน Yi Ming(ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง)
แปลและเรียบเรียง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เมชฌ สอดส่องกฤษ

คุณครูมีปีกสีน้ำเงิน长着蓝翅膀的老师

โรงเรียนอนุบาลดอกเบญมาศน้อยมีคุณครูที่บินได้เข้ามาทำงาน
สร้างความตกอกตกใจให้กับคุณย่าครูใหญ่มาก เดิมทีโรงเรียนอนุบาลก็ยุ่งมากพออยู่แล้ว เจ้าหนูน้อยทั้งหลายก็ซุกซน กลิ้งไปทั่วพื้น วิ่งสาละวนรอบโต๊ะเก้าอี้ มีคุณครูที่บินได้มาเพิ่มอีกคน จะทำยังไงกันดีล่ะเนี่ย
แต่เด็กๆ ดีใจกันยกใหญ่ ไม่เอะอะโวยวายเหมือนก่อน เบิกตาโพลงมองคุณครูคนใหม่ด้วยความประหลาดใจ ปีกสีฟ้าพับอยู่ที่ด้านหลังของคุณครู
“พวกหนูๆชอบปีกของคุณครูมั้ยเอ่ย”
คุณครูพูดไปก็ค่อยๆกางปีกสีฟ้านั้นออก แล้วก็กระพือปีกให้ลมแผ่วเบาๆ ทันใดนั้น ห้องเรียนทั้งห้องก็เต็มไปด้วยแสงระยิบระยับแพรวพราว
“ว้าว สวยจังเลย ” เด็กๆ ตะลึงในความสวย อ้าปากค้าง
“พวกหนูๆอยากบินมั้ยคะ” คุณครูถามเด็ก ๆ
“อยากสิครับคุณครู แต่ว่า พวกเราไม่ปีกนี่นา”
“เด็กๆทุกคน มีปีกกันทั้งนั้นนะคะ เพียงแค่เราคิดอยากจะบิน เราก็จะบินได้” คุณครูบอกเด็ก ๆ
“จริงเหรอคะคุณครู ”
“ใช่แล้วจ้ะ บินกันเถอะ บินกันเถอะ”
ทันใดนั้น ที่หลังของเด็กๆ ก็มีปีกสีสันสวยงาม บินตามคุณครูออกจากห้องเรียนตามๆกันไป บินไปสู่โลกกว้าง ไปชมความมหัศจรรย์ และความงดงามของฟากฟ้า
คุณย่าครูใหญ่เห็นดังนั้นก็ตกอกตกใจ วิ่งตามเด็กๆไป ร้องเรียก “ลงมาเร็ว ลงมาเดี๋ยวนี้” แต่เด็ก ๆ ก็บินว่อนอย่างสนุกสนาน พวกเราไม่ลงไปง่ายๆหรอก
เด็กพากันบินไปเรื่อย ต้นไม้ต้นใหญ่ยิ้มต้อนรับ โบกมือเรียก “หนูๆ มาทำรังที่ต้นของฉันเถอะนะ”
ได้ยินดังนั้น คุณครูก็พาเด็กๆร่อนลงที่ต้นไม้กันพรึ่บพรั่บ ร้องเพลงให้กับคุณปู่ต้นไม้ฟัง จนคุณปู่ต้นไม้หัวเราะร่าด้วยความสุข
นับแต่นั้นมา เด็ก ๆที่โรงเรียนอนุบาลดอกเบญมาศน้อยก็บินเล่นกันบ่อยๆ บางครั้งก็บินไปใกล้ ๆ บางครั้งก็บินไปไกลๆ พวกเด็ก ๆ บินไปเรียนรู้พบเห็นเมืองใหญ่ ผืนแผ่นดิน แม่น้ำ ภูเขา และก็ยังผูกมิตรเป็นเพื่อนรักกับเมฆขาวและบรรดานกน้อยด้วย
นับตั้งแต่เด็กๆบินได้เป็นต้นมา เด็กๆก็ไม่วิ่งเล่นเกเร โต๊ะ เก้าอี้ที่โรงเรียนก็เชื่อฟัง ทุกวันยืนตรงเรียงแถวกันเป็นระเบียบเรียบร้อยอยู่ในห้องเรียนของเด็ก ๆ และก็ไม่แอบหนีไปวิ่งเล่นเกเรข้างนอกอีกเลย
ทุกวันนี้ คุณย่าครูใหญ่ก็ชอบคุณครูมีปีกมากด้วยเหมือนกัน

小雏菊幼儿园里来了个会飞的老师。
园长奶奶急坏了。幼儿园已经够乱的了,小家伙们满地爬,桌子椅子四处跑,再来一个长翅膀的老师,怎么办?
  孩子们可高兴了。他们不吵不闹,睁大眼睛奇怪地看着新老师,一对蓝翅膀叠放在她的背上呢!
  ”你们喜欢我的翅膀吗?”
  老师说着,慢慢地张开那对天蓝色的翅膀。翅膀轻轻地扇起一阵温柔的风,教室里一下子就充满了透明的五色。
  ”真美呀!”孩子们说。
  ”你们想飞吗?”老师问。
  ”想啊。可是我们没有翅膀呀!”
  ”所有的孩子都是有翅膀的,只要想飞就能飞。”老师说。
  ”真的吗?”
  ”真的!飞吧,飞吧!”
  孩子们背上果然扑扇着五颜六色的翅膀,一个接一个紧跟着蓝感膀老师,飞出了教室,飞向广阔、神奇、美丽的天空。
  园长奶奶吓坏了,追着孩子们喊:”快下来!快下来!”孩子们飞得正高兴,才不会下来呢!
  孩子们飞着,飞着,一棵大树热情地招手:”孩子们,到我的树上来做窝吧!”
  老师领着孩子们齐刷刷地落到树上,为树爷爷唱了一支好听的歌,唱得树爷爷哈哈笑。
  从这以后,小雏菊幼儿园的孩子经常飞。他们有时飞得近,有时飞得远。他们认识了大地上的城市、河流和山脉,还同天空中的白云、小鸟交上了朋友。
  自从孩子们会飞以后,再也不满地乱爬。小雏菊幼儿园的桌子、椅子也变乖了,它们每天干干净净,排着整齐的队伍站在幼儿园教室里,不再到处乱跑。
如今,园长奶奶也喜欢那位长着蓝翅膀的老师了。

ผู้เขียน Yi Ming(ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง)
แปลและเรียบเรียง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เมชฌ สอดส่องกฤษ

เค้กที่อร่อยที่สุด最好吃的蛋糕

เจ้าหนูพี่ใหญ่พูดขึ้นมาว่า “พรุ่งนี้วันเกิดแม่ พวกเราซื้อเค้กให้แม่ ให้แม่ดีใจซะหน่อย”
หนูน้องกลางกับน้องเล็กพูดขึ้นพร้อมกันว่า “ดีสิ ดีสิ ”
หนูพี่ใหญ่ น้องกลาง น้องเล็กแคะกระปุกรวบรวมเงินกันได้หนึ่งกำมือ
ว่าแล้วก็พากันไปร้านเค้ก หนูพี่ใหญ่บอกคนขายว่า “เราจะซื้อเค้กที่อร่อยที่สุด”
คนขายรับเงินเหรียญไปนับ แล้วก็บอกว่า “เงินไม่พอนะ แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวขายขนมเปี๊ยะให้แผ่นนึงก็ได้ ” ว่าแล้ว คนขายใจดีก็หยิบขนมเปี๊ยะที่หน้าตาไม่เลวให้แผ่นนึง
หนูพี่น้องทั้งสามตัว พากันเดินคอตกกลับบ้าน
น้องเล็กถอนหายใจเฮือกใหญ่ “เฮ้อ….” น้องกลางก็ถอนหายใจตามมาอีกเฮือก “เฮ้อ…”
หนูพี่ใหญ่ลุกพรวด เคาะกะโหลกป๊อกๆๆ แล้วยืดอก ร้องลั่นว่า “เรามาคิดหาวิธีเปลี่ยนขนมเปี๊ยะนี้ให้เป็นเค้กกันเถอะ”
หนูน้องกลาง น้องเล็ก จ้องพี่ใหญ่ตาใสแป๋ว “ทำไงเหรอ ทำไงเหรอ”
ว่าแล้ว หนูพี่ใหญ่ก็เอาลูกอมรสนมที่เก็บไว้มานานออกมา แล้วเอามาทาบนหน้าขนมเปี๊ยะ “ว้าว ดีจังเลย ช่างหอมอะไรเช่นนี้”
หนูน้องกลาง คิดไปคิดมา ก็วิ่งไปหยิบใส้กรอกมาวางบนขนมเปี๊ยะก้อนโตนั้น แต่ก็ยิ้มแหยะๆ ว่า “ฮิฮิ ผมแอบแทะไปนิดเดียวเองครับ”
“แม่ไม่รู้หรอกน่า” หนูพี่ใหญ่พูดอย่างมั่นอกมั่นใจ
หนูน้องเล็กเก็บดอกไม้หลากสีมาโปรยลงบนหน้าขนม ทีละดอก ทีละดอก
โอ้โห…ดูไม่ออกว่าเป็นขนมเปี๊ยะเลยนะเนี่ย หนูน้อยทั้งสามยืนมองด้วยความภูมิใจ ดูแล้วดูอีก ก็ยิ่งดีใจ
แล้วก็พากันถือเค้กไปที่ห้องแม่ ค่อยเปิดประตูห้องแม่เบาๆ แล้วก็ร้องเพลง “สุขสันต์วันเกิด”
“ว้าว ไปได้เค้กมาจากไหนกันเนี่ย ” แม่หนูถามด้วยความประหลาดใจ
“พวกเราทำเองครับแม่” หนูพี่ใหญ่พูด
“ชิมเลยแม่ ชิมเลยแม่” หนูน้องกลาง กับหนูน้องเล็กเร่งให้แม่หนูชิม
ว่าแล้วแม่หนูก็ แทะเค้กหนึ่งคำเบาๆ ก็เข้าใจ แล้วก็พูดกับลูกๆว่า “โอ้ว ดีจังเลย ดีจังเลย” นี่เป็นเค้กที่อร่อยที่สุดที่แม่เคยกินมาเลยนะเนี่ย แม่หนูพูดไปก็หัวเราะชอบใจ
“จริงเหรอแม่” หนูน้อยทั้งสามตัว ก็พากันหัวเราะด้วยความสุขใจ

鼠老大说:”今天是妈妈的生日,我们给她买个蛋糕,让她高兴高兴。”
   “好呀,好呀!”鼠老二和鼠老三齐声说。
  老大、老二、老三好不容易凑起了一小把硬币。
  来到商店,鼠老大说,”我们要买个最好吃的蛋糕。”
  售货员数了数硬币,说:”钱不够呀,不过可以卖给你们一张大饼。”好心的售货员给了他们一张挺不错的大饼。
  老大、老二、老三垂头丧气地回了家。
  鼠老三叹了口气说:”咳……”
  鼠老二也叹了口气说:”咳……”
  鼠老大拍拍脑袋说:”我们想办法把大饼变成蛋糕!”
  ”怎么变?怎么变?”鼠老二、鼠老三瞪圆了小眼睛。
  鼠老大拿出自己一直舍不得吃的奶糖,融化开浇在大饼上。嗨,多好呀,一股香甜香甜的奶油味儿。
  鼠老二想了想,拿来一大片红肠,轻轻地放在大饼上,他不好意思地说:”嘿嘿,我只咬过一点点……”
  ”妈妈看不出的!”鼠老大很肯定地说。
  鼠老三采来一把五彩缤纷的野花,一朵朵摆在大饼上。
  哎呀,好像看不出这是一张大饼啦!三只小老鼠非常满意,越看心里越高兴。
  轻轻推开妈妈的门,三只小老鼠齐声唱起来:”祝你生日快乐……”
  ”哟,哪儿来的蛋糕呀?”妈妈惊奇地说。
  ”我们做的!”鼠老大说。
  ”快尝尝吧!快尝尝吧!”鼠老二、鼠老三一起说。
  妈妈轻轻地咬了一口,她一下子就明白了:”喔,真好!真好!这是我吃过的最好的蛋糕!”妈妈开心地笑起来。
“是吗?”三只小老鼠也开心地笑起来。

ผู้เขียน Yi Ming(ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง)
แปลและเรียบเรียง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เมชฌ สอดส่องกฤษ

พ่อหมีซื้อรองเท้า 熊爸爸买鞋

ฤดูใบไม้ผลิ ช่างงดงามเหลือเกิน เป็นวันเกิดของลูกหมีน้อย พ่อหมีซื้อรองเท้ากีฬาสีน้ำเงิน รองเท้าแตะสีขาว และก็รองเท้าบู๊ทสีแดงให้ลูกหมี
ลูกหมีน้อยแสนดีใจ ตีลังกาม้วนไปม้วนมาอยู่บนสนามหญ้า
อยู่มาวันหนึ่งพ่อหมีพาลูกหมีไปที่ยวที่สวนสนุก ลูกหมีน้อยก็เอารองเท้ากีฬาสีน้ำเงินที่พ่อซื้อให้มาใส่ แต่ว่า ใส่ไปใส่มา ยังไงก็ใส่ไม่ได้
ลูกหมีน้อยยืนมองรองเท้าที่วางอยู่บนสนามหญ้า เสียอกเสียใจร้องไห้สะอึกสะอื้น พ่อหมีก็เลยเอารองเท้าคู่เก่ามาให้ใส่ แต่รองเท้าคู่เก่า พื้นสึกหมดแล้ว เดินไปเดินไป เจ้าลูกหมีเกือบจะลื่นหกล้มตั้งหลายครั้งแน่ะ วันนี้ลูกหมีไปเที่ยวไม่สนุกเลยสักนิดเดียว พ่อหมีน่ะเหรอ ก็เอาแต่ถอนหายใจเฮือก ๆ
อีกไม่นานก็ถึงหน้าร้อนแล้ว พ่อหมีก็จะพาลูกหมีไปเที่ยวชานเมือง ลูกหมีก็หารองเท้าแตะออกมาใส่ แต่พอเอาเท้าใส่เข้าไป ยังไงก็ใส่ไม่ได้ ลูกหมีโกรธมาก เอารองเท้าโยนทิ้งไปซะไกลเลย
พ่อหมีก็ได้แต่บอกว่า “หน้าร้อนนี่นา ไม่ต้องสวมรองเท้าก็ได้ โล่งสบายเสียอีก ”
ลูกหมีน้อยก็ได้แต่ทำตามพ่อเดินเท้าเปล่าไปเที่ยวชานเมืองกับพ่อ แต่ว่าเดินมากเกินไป ฝ่าเท้าก็เริ่มเจ็บ ขากลับบ้านพ่อหมีก็ต้องแบกลูกหมีกลับบ้าน พอมาถึงบ้านก็ใช้น้ำอุ่นประคบเท้าให้ลูกหมีน้อย ลูกหมีน้อยถึงค่อยยังชั่วขึ้น
ฤดูใบไม้ร่วงผ่านไป ฤดูหนาวมาถึง คุณยายหมีจะฉลองวันเกิด ลูกหมีน้อยดีอกดีใจยกใหญ่ พ่อหมีสวมเสื้อคลุมกันหนาวให้ลูกหมี แล้วก็สวมถุงมือให้ จากนั้นก็ค้นหารองเท้าบู๊ทที่ซื้อมาจะเอามาสวมให้กับลูกหมี แต่พอเอารองเท้าออกมาเทียบกับเท้าลูกหมีดู ก็ต้องร้องอย่างผิดหวัง โธ่เอ๋ย เท้าลูกหมีโตขึ้นอีกหนึ่งข้อแล้ว ลูกหมีเห็นดังนั้นก็ถึงกับร้องไห้โฮ……พ่อหมีมองดูเท้าของลูกหมี ก็อดไม่ได้ที่จะเคาะกะบาลตัวเอง บ่นว่า “เฮ้อ เจ้ารองเท้าเนี่ย รีบซื้อเร็วเกินไปไม่ได้เลยเชียว” เอาล่ะลูก ไม่ต้องร้องไห้ เดี๋ยวเราไปซื้อรองเท้าคู่ใหม่กัน พ่อหมีก็เข็นรถให้ลูกหมีนั่งไปซื้อรองเท้าที่ร้านขายรองเท้า
วันนี้เป็นวันที่ลูกหมีสวมรองเท้าบู๊ทคู่ใหม่ที่พ่อเพิ่งซื้อให้ กระโดดโลดเต้นด้วยความเบิกบานใจไปบ้านคุณยาย
ลูกหมีน้อยเล่าเรื่องที่พ่อซื้อรองเท้าให้ ให้กับคุณยายฟัง คุณยายได้ฟังก็หัวเราะจนตัวงอ
春天,真美丽。小熊过生日了。熊爸爸给他买了一双蓝色的运动鞋,一双白色的凉鞋,一双红色的靴子。
小熊好开心啊,在草地上骨碌骨碌翻起跟头来。
一天,熊爸爸带小熊到游乐场去玩。小熊找出那双蓝色的运动鞋。可是,他穿来穿去,怎么也穿不进去。
小熊看看躺在地上的运动鞋,伤心地吧嗒吧嗒直掉眼泪。爸爸让他穿着旧鞋子去玩,可是旧鞋子的鞋底磨得光光的,好几次小熊都差点儿摔胶呢。这天小熊玩得一点儿也不开心,熊爸爸呢,也一个劲地叹息。
夏天很快就到了,熊爸爸要带小熊去郊游,小熊找出那双凉鞋,可是他往脚上套了好几次,鞋子就是穿不进去。小熊气得把凉鞋扔得远远的。
熊爸爸说:”夏天嘛,不穿鞋也行,赤脚挺舒服的。”
小熊只好赤脚跟着爸爸去郊游了,可是路走多了,脚心也疼起来。回家的时候,熊爸爸只好背着他。到了家里,又用热水给小熊焐焐脚,这样小熊才好受些。
秋天过去了,冬天到了,熊外婆要过生日了,小熊高兴极了。熊爸爸给他穿上大衣,带上手套,然后又找出春天给他买的那双靴子,可是拿出来一比画,哇,小熊的脚长出了一截!小熊一看,哇……大哭起来。熊爸爸看看小熊的脚,忽然,一拍脑袋,说:”我明白了,这鞋子呀,早买了不行。快,别哭了,咱们这会儿先去买鞋。”熊爸爸用小车推着小熊到鞋店去了。
这天,小熊穿上爸爸替他新买的靴子,一奔一跳地上外婆家去了。
小熊把爸爸买鞋的事儿告诉了外婆,外婆听了一个劲地笑,笑得腰也弯了。
ผู้เขียน Yi Ming(ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง)
แปลและเรียบเรียง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เมชฌ สอดส่องกฤษ

เจ้าเจี๊ยบปุกปุย 花羽毛小松鸡

ไก่ฟ้าตัวน้อยๆตัวหนึ่งมีชื่อว่า ปุกปุย ร้องงอแงจะเอาเมล็ดสน ก็เพราะพี่ไก่โต้งหงอนแดงตัวโตน่ะสิ ไปเก็บเมล็ดสนที่ทั้งกลมทั้งใหญ่มาได้หนึ่งเมล็ด เดินมาร้องเรียกเจ้าเป๋อยู่ที่หน้าบ้าน “เจ้าเป๋ ๆ มานี่เร็วเข้า ฉันเก็บเมล็ดสนลูกใหญ่มาได้ด้วยล่ะ”
น้องปุกปุยเห็นเข้าก็รีบกระพือปีกเล็กๆ พุ่งเข้ามา “หนูจะเอา หนูจะเอา”
แต่พี่ไก่โต้งกลับบอกว่า “เมล็ดสนนี้ให้น้องเป๋ไปเถอะนะ ขาเค้าไม่ค่อยดี ออกไปหาเมล็ดสนยากกว่าพวกเรา เราจะต้องช่วยเหลือเค้านะ”
น้องปุกปุยได้ยินดังนั้นก็โกรธมาก “เชอะ ไม่เห็นจะมีอะไรเลย ก็แค่เมล็ดสนกระจอก ๆ ไม่ให้ก็ช่างประไร ไม่เห็นจะต้องพูดมากมายขนาดนั้น” น้องปุกปุยเดินจากไปอย่างไม่สบอารมณ์ เดินไปพลางคิดไปพลาง “แกให้เมล็ดสนกับเจ้าเป๋ แล้วเจ้าเป๋ก็เย็บถุงเท้าให้เจ้าตาหยี ไม่แน่ เจ้าตาหยีอาจจะมีอะไรพิเศษกับพี่ไก้โต้งก็เป็นได้ ถือโอกาสนี้รีบตีตัวออกห่างพวกมันจะดีเสียกว่า ฉันไม่เข้าร่วมกับพวกแกให้โง่หรอก”
ตอนนี้เริ่มเข้าฤดูหนาวแล้ว อีกไม่นานฟ้าก็จะโปรยปรายปุยหิมะขาวๆลงมา บรรดาไก่ฟ้าก็อพยพหนีหนาวขึ้นไปสู่ที่ลุ่มกันหมด แต่เจ้าปุกปุยยังไม่หายโกรธเลยล่ะ “ฮึ่ม ฉันออกห่างจากพวกแกก็อยู่ได้เหมือนกัน ก็จำศีลฤดูหนาวได้เหมือนกัน” เจ้าปุกปุยเดินไปเดินมาอยู่ใต้ต้นสน ตั้งใจจะปีนขึ้นไปทำรังอยู่บนนั้น แต่เจ้าปุกปุยยังโตไม่พอที่จะทำได้ ปีนยังไงก็ปีนไม่ขึ้น หิมะก็ตกลงมาอย่างหนักทั้งวันทั้งคืน ป่าสน ท้องทุ่ง ที่ลุ่มก็เต็มไปด้วยหิมะขาวโพลน แต่น้องปุกปุยยังหาที่พักหลบหนาวไม่ได้เลย จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด มิหนำซ้ำยังมีจิ้งจอกกำลังวิ่งตรงมาที่มันอีก ทำยังไงดีล่ะเนี่ย เจ้าปุกปุยตกใจกลัวจนตัวสั่น
เวลาเดียวกันนั้นเอง พี่ไก่โต้ง เจ้าเป๋ เจ้าตาหยีวิ่งมาจากเนินเขาโน่น ตะโกนเรียก “เจ้าปุกปุย เจ้าปุกปุย วิ่งมาทางนี้เร็วเข้า”
ปุกปุยรู้สึกอุ่นใจขึ้นมา หันหลังวิ่งไปหาเพื่อนๆอย่างรวดเร็ว พอปุกปุยวิ่งไปถึงพี่ไก่โต้ง เจ้าจิ้งจอกก็วิ่งไล่ตามมาติดๆ เจ้าเป๋ดึงปุกปุยวิ่งหนีไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว โดยมีพี่ไก่โต้งกับเจ้าตาหยีคอยป้องกันอยู่ข้างหลัง พวกไก่ทั้งสี่วิ่งหนีไปพลาง ขาทั้งสองก็เขี่ยหิมะไปข้างหลัง “ฟิ้ว ๆ ๆ” ละอองหิมะเข้าตาเจ้าจิ้งจอกจนต้องหลับตาหยี หยุดขยี้ตาอยู่ตรงนั้นอยู่นานก็ยังลืมตาไม่ขึ้น
จากนั้นมา ปุกปุยก็ขุดลงไปในถ้ำหิมะ ปีนี้เป็นฤดูใบไม้ผลิปีแรกในชีวิตของเจ้าปุกปุย มันยังไม่เคยอยู่ในบ้านแบบนี้มาก่อน พวกไก่ฟ้าพากันขุดหิมะให้ลึกลงไป ที่แท้ที่นี่ก็เป็นบ้านใต้หิมะนี่เอง ข้างใต้มีห้องหิมะแบ่งเป็นห้องๆ แต่ละห้องมีทางผ่านไปถึงกัน แต่ละช่วงก็จะเจาะรูระบายอากาศ ไม่ว่าอากาศข้างนอกจะหนาวเย็นแค่ไหนก็ผ่านเข้ามาไม่ได้ แล้วยังสามารถป้องกันเหยี่ยวและจิ้งจอกได้อีกด้วย เวลาหิวก็คุ้ยเขี่ยพื้นดิน หาต้นกล้า ตัวหนอนกินได้ เพราะที่นี่เป็นแหล่งอาหารที่ไม่มีทางหมดเสียด้วย พอถึงฤดูใบไม้ผลิ พวกมันก็กลับไปที่ป่าสนได้ อยู่ที่นั่นพวกมันก็จะมีชีวิตอิสระและสุขสบาย เจ้าปุกปุยเห็นดังนั้นถึงกับตกตะลึง “โอ้โห พวกแกทำไมขุดที่พักได้ดีขนาดนี้ล่ะเนี่ย”
ไก่โต้งบอกว่า “นี่เป็นเพราะว่าพ่อแม่ คุณอา คุณป้าสอนพวกเรา พวกเราทุกคนร่วมแรงร่วมใจสร้างขึ้นมา ไก่ฟ้าเล็กๆแค่ตัวเดียวก็ทำไม่สำเร็จหรอก ไม่มีแรงสามัคคี พวกเราเหล่าไก่ฟ้าก็ไม่สามารถผ่านหน้าหนาวอันโหดร้ายไปได้หรอก
เจ้าปุกปุยได้ยินดังนั้นก็สำนึกผิด แล้วพูดว่า “ฉันผิดไปแล้ว ต่อไปฉันจะไม่ออกไปจากฝูงอีกแล้ว”
หมายเหตุ 松鸡sōnɡjī หมายถึงนกไก่สน เป็นไก่ในตระกูลไก่ฟ้า
一只叫花羽毛的小松鸡,为一颗松子吵架啦。松鸡红冠冠捡到一颗又大又圆的松子,喊着附近的瘸瘸腿:”瘸瘸腿,快来呀,我捡到一颗大松子。”
花羽毛听见了,忙乍开小翅膀,连蹦带跳地冲过来:”我要!我要!”
红冠冠却说:”这颗松子给瘸瘸腿吧,她腿有毛病,找松子有困难,我们要帮助她。”
花羽毛一听就来气了。哼,有什么了不起,不就是一颗松子吗,不给就得了,干吗还说那么多废话。花羽毛气哼哼地走了。一边走,一边还在想,你给瘸瘸腿松子,瘸瘸腿给眯眯眼缝袜子,眯眯眼不定给你红冠冠什么好处呢。我趁早躲你们远远的,才不和你们一群哩。
现在是初冬。不久天上纷纷扬扬下起大雪来。松鸡们都成群结伙地到洼地去了。花羽毛心里还生气哩,哼,我离开你们一样生存,一样过冬。他在一棵大松树下来回转着,想攀上去找个地方做窝,可花羽毛没有那种能力,说什么也爬不上去。大雪下了一天一夜零三个小时,松林、原野、洼地都积了厚厚的雪。花羽毛一直没找到住处,在冰天雪地里冻得直发抖,刚才被一只老鹰追捕,掉了三根半美丽的羽毛,差点儿丧命,现在远处又有一只狐狸向他奔来,怎么办?吓得他更发抖了。
正在这时,红冠冠、瘸瘸腿、眯眯眼从洼地那边跑过来,喊着:”花羽毛,花羽毛!快往这边跑。”
花羽毛心头一热,扭头朝他们奔去。当他跑到红冠冠他们面前时,狐狸也追过来。瘸瘸腿拉着花羽毛继续朝前跑,红冠冠、眯咪眼跟在后边保护着他,他们一边跑,一边用后腿刨着积雪。”扑-扑-扑”,积雪喷得狐狸眯了眼,他站在那里揉呀揉,揉了半天也睁不开眼。
这时候,小松鸡们早钻入洼地的积雪里。小松鸡花羽毛是今年春天落生的,还没有见过这样的住处。他们钻进深雪里,原来是松鸡们挖好的”雪下城”。里面有一座一座的雪屋,雪屋和雪屋之间有雪的通道,每隔一段距离,还有通到地面的通气孔。这真是寒冷打不透,老鹰、狐狸找不到的好住处。饿了,创开脚下的泥土,寻找草茎、虫卵吃,这里有取之不尽的食物呢。到了春天,他们又可以回到松林,过着自由愉快的生活。花羽毛见了,惊喜地说:”哎呀,你们怎么挖出这么好的住处呀?”
红冠冠说:”这都是在父母、叔叔、婶婶的指导下,大家齐心协力挖出的,单靠一两只小松鸡是挖不成的。没有集体,我们松鸡是过不了冬的。”
小松鸡花羽毛听了,羞愧地说:”是我错了,以后我再也不离开集体了。”
ผู้เขียน Yi Ming(ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง)
แปลและเรียบเรียง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เมชฌ สอดส่องกฤษ

กระโปรงสีกุหลาบของน้องหมี 熊丫头的玫瑰红裙子

น้องลูกหมีเป็นลูกสาวคนเล็กของแม่หมี น้องลูกหมีเป็นสาวน้อยที่รักสวยรักงาม
วันนี้ เป็นวันเกิดของน้องลูกหมี แม่เย็บประโปรงสีขาวสะอาดให้เธอหนึ่งตัว เธอใส่กระโปรงใหม่ออกไปนอกบ้าน เพื่อไปอวดเพื่อนๆ ใครๆที่พบเห็นก็ชมกันเป็นเสียงเดียวว่าสาวน้อยสวยมาก ราวกับปุยเมฆยังไงยังงั้น
น้องหมีคิดในใจ พี่กวางน้อยมีกระโปรงสีกุหลาบตัวหนึ่ง ตัวนั้นสิ ถึงจะเรียกว่าสวยจริงๆ สวมกระโปรงแดงเดินอยู่บนทุ่งหญ้าเขียวขจี สวยเหมือนดอกไม้เลยเชียวล่ะ
กระโปรงสีขาวขาว จืดๆ ไม่เห็นจะสวยตรงไหนเลย
น้องลูกหมีคิดไป คิดไป จนเดินไปถึงหลังภูเขาอีกด้านหนึ่ง ที่แห่งนั้นมีดอกกุหลาบกำลังเบ่งบานชูช่อเต็มไปหมด
น้องลูกหมีเด็ดดอกกุหลาบมากำใหญ่ๆ
กลับมาถึงบ้าน ก็เด็ดกลีบกุหลาบออก ใส่ในตะกร้าจนเต็ม เธอเอากระโปรงสีขาวจืดของเธอใส่ลงไปในเครื่องซักผ้าพร้อมๆกับกลีบกุหลาบ แล้วก็เปิดเครื่องซักผ้าหมุน โครก คราก โครก คราก
ไม่นานเท่าใดนัก กระโปรงสีขาวก็ถูกสีของกลีบกุหลาบย้อมจนเป็นสีแดงสวยสด น้องลูกหมีก็มีกระโปรงแดงใส่สมใจ เธอดีใจมากที่ได้ใส่กระโปรงแดง
โอ้…กระโปรงกลีบกุหลาบยังมีกลิ่นหอมของดอกกุหลาบโชยมาอีกด้วย
น้องลูกหมีคิดแล้วก็เดินออกไปข้างนอก ให้เพื่อนๆได้ชมความงามของกระโปรงย้อมดอกกุหลาบซะหน่อย
แต่เธอเดินไปได้ไม่ถึงครึ่งทาง ก็ถูกฝูงผึ้งจ้องเข้าเสียแล้ว
ที่แท้ ฝูงผึ้งรู้แล้วว่า ดอกกุหลาบที่หลังเขาหายไป
ฝูงผึ้งบินตามกลิ่นกุหลาบมา ในที่สุดก็มาเห็นดอกไม้ดอกนี้ สีแดงสด ดอกใหญ่ แล้วยังเดินได้อีกต่างหาก
ฝูงผึ้งพากันดีใจใหญ่ แล้วก็บินงึม งำๆ มาที่ตัวน้องลูกหมี น้องลูกหมีเห็นดังนั้นก็ยกกระโปรงขึ้นแล้วก็วิ่งหนีสุดชีวิต
น้องลูกหมีกลัวว่าจะโดนผึ้งกัดหัวเพราะจะคันมาก กลัวโดนผึ้งกัดก้น แล้วก็กลัวผึ้งบินเข้าไปในจมูกด้วย เพราะจะทำให้เธอต้องจาม ฮัดเช้ย ๆ ไม่หยุด
น้องลูกหมีวิ่งหนีไปเรื่อย จนหลบเข้าไปอยู่ในบ้านได้
เธอรีบปิดประตูดังปั้ง หอบเฮือก ๆ ๆ
จากนั้นมา น้องลูกหมีก็ไม่ยอมสวมกระโปรงย้อมดอกกุหลาบอีกเลย เธอพูดกับกระโปรงว่า
“เจ้ากลีบกุหลาบเอ๋ย ฉันขอโทษเจ้าจริงๆ”
熊丫头是熊妈妈最小的女儿。
熊丫头是个爱漂亮的小姑娘。
今天,是熊丫头过生日,她妈妈给她做了一件雪白的裙子。熊丫头穿上白裙子,她出门走了一圈,大家都说她很漂亮,像一朵白白的小云朵。
熊丫头想,小花鹿姐姐有件玫瑰红的裙子,那才叫漂亮,走在绿树丛中,像朵花儿一样美丽。
这白白的裙子,有什么好看的。
熊丫头想着想着,她就独自走到山坡后面,那里盛开着一大片玫瑰花。
熊丫头摘了一大把鲜红的玫瑰。
她把玫瑰花的花瓣儿都摘了下来,有满满的一篮子呢。熊丫头把玫瑰花瓣儿和她那件雪白雪由的裙子,一起扔进了洗衣机里,哗哗地洗了起来。
不多一会儿,白裙子就被花瓣儿染成玫瑰红的了。熊丫头穿上玫瑰红的裙子真高兴。
啊,玫瑰红的裙子,还散发出玫瑰花的香味呢。
熊丫头想出门去走一圈,放大伙儿瞧一瞧。
可她没走上半圈,就被一群蜜蜂给盯上了。
原来蜜蜂发现山坡后的玫瑰花都失踪了。
现在,他们在香味的指引下,终于发现这里有一朵朵大大的、红红的、会走路的玫瑰花。
蜜蜂们别提多高兴了,嗡嗡地紧追着熊丫头。熊丫头提着红裙子,飞快地逃着。
她怕蜜蜂停在她的头上痒痒的,她怕蜜蜂会叮她的屁股,她还怕蜜蜂会钻进她的鼻孔里,让她”阿——嚏,阿——嚏”不住地打喷嚏。
熊丫头逃啊,逃啊,她终于逃进家门。
她关上门,呼哧呼哧直喘气。
熊丫头再也不肯穿上她的玫瑰红的裙子,她对她的红裙子说:
“玫瑰花瓣儿啊,真对不起你们了!”
ผู้เขียน Yi Ming(ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง)
แปลและเรียบเรียง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เมชฌ สอดส่องกฤษ

ร้านแว่นแพนด้า 熊猫眼镜店

แว่นตาขอบดำของคุณแพนด้าช่างเก๋ไก๋เหลือเกิน รู้เอาไว้ด้วยว่า เขาเป็นถึงเจ้าของร้านแว่นเชียวล่ะ
กิจการร้านแว่นของคุณแพนด้าดีมาก ไม่ว่าจะต้องการแว่นแบบไหน ก็หาซื้อได้ที่นี่ทั้งนั้น
คุณอาช้างมาที่ร้าน “คุณผู้จัดการแพนด้า อาอยากจะตัดแว่นสายตาที่ใหญ่หน่อย”
คุณแพนด้าตอบว่า “ทำได้ ทำได้”
คุณย่าตุ่นก็มาที่ร้าน “คุณผู้จัดการแพนด้า ย่าอยากจะตัดแว่นสายตาที่เล็กสักหน่อย”
คุณแพนด้าตอบว่า “ไม่มีปัญหา”
คุณอาช้างสวมแว่นสายตาสั้น คุณย่าตุ่นก็สวมแว่นสายตายาว เขาทั้งสองมองหน้ากัน “อา..เห็นชัดแล้ว” ทั้งสองร้องออกมาเสียงดังว่า “โถ..ที่แท้ก็เพื่อนบ้านกันนี่เอง”
คุณอาช้างพูดกับคุณย่าตุ่นว่า “ลูกของผมไปเล่นกับหลานของย่า สักครู่ก็วิ่งกลับมา บอกว่า หนูตุ่นตัวเล็กเกินไป เล่นด้วยกันไม่ได้ ”
“ก็นั่นน่ะสิ ” คุณย่าตุ่นบอกว่า “หลานชายฉันก็อยากจะเป็นเพื่อนกับน้องช้างมากเลย แต่เจ้าช้างน้อยของคุณก็ตัวใหญ่เหลือเกิน ไม่เหมาะกัน”
คุณแพนด้าได้ยินดังนั้นก็พูดสอดขึ้นมาว่า “ผมมีวิธีที่จะทำให้เด็กทั้งสองเล่นด้วยกันได้” เรียกเด็กๆทั้งสองมาที่นี่สิ
ซักประเดี๋ยวเดียว เจ้าช้างน้อยก็ถูกพ่อหิ้วมา เจ้าเม่นน้อยก็ถูกย่าอุ้มมา
คุณแพนด้าก็เตรียมแว่นไว้แล้ว เล็กหนึ่งใหญ่หนึ่ง แล้วก็พูดกับเด็กๆว่า “เจ้าช้างน้อย เจ้าตุ่นน้อย ลองสวมแว่นนี้ดูซิ”
คุณอาช้างรีบบอกว่า เอ…แต่ว่าลูกผมไม่ได้สายตาสั้นนะ
คุณย่าตุ่นก็บอกว่า หลานฉันสายตาก็ดีอยู่นี่นา
คุณแพนด้าหัวเราะลั่น แล้วก็พูดว่า “แว่นตาทั้งสองนี้ปกติเด็กทั้งสองก็ไม่ต้องใช้ ” คุณแพนด้าพูดกับช้างน้อยว่า “ตอนจะไปเล่นกับเจ้าตุ่นน้อย หนูก็สวมแว่นอันนี้” เจ้าช้างน้อยลองสวมแว่นดู “ว้าว.. เจ้าเม่นตัวโตขึ้นแล้ว ตัวโตเท่าผมเลยฮะ”
แล้วคุณแพนด้าก็เอาแว่นอีกอันหนึ่งให้กับเจ้าตุ่น “ตอนที่จะไปเล่นกับหนูช้าง….”
เจ้าตุ่นรับแว่นไปแล้วก็ลองสวมดู ก็เห็นว่า เจ้าช้างน้อยตัวเล็กลงมาเท่ากับตัวเองเลย
เจ้าช้างน้อยและเจ้าตุ่นน้อยก็วิ่งโลดเต้นดีใจออกจากร้านแว่น วิ่งเล่นกันด้วยความเบิกบานสำราญใจ
熊猫先生的大黑眼镜真有派头,你要知道他就是眼镜店经理呀。
熊猫眼镜店的生意很好。无论谁想要什么样的眼镜,都能在这儿买到。
大象叔叔来了,”熊猫经理,我想配一副大些的近视眼镜。”
熊猫先生说:”好办,好办。”
鼹鼠奶奶来了,”熊猫经理,我想配一副小一些的老花眼镜。”
熊猫先生说:”没问题!”
大象叔叔戴上近视眼镜,鼹鼠奶奶戴上老花眼镜,他们互相看了看:”啊,看清楚了,”他们同时叫起来,”原来是隔壁邻居!”
大象叔叔对鼹鼠奶奶说:”我儿子去找你孙子玩,不一会儿跑回来,说’小鼹鼠太小了,玩不到一块儿去!’”
“就是,就是,”鼹鼠奶奶说,”我孙子也挺愿意和你儿子做朋友,可你那小象太大了些,不相称。”
熊猫先生插嘴说:”我有办法能让小象和小鼹鼠玩到一块儿去。把你们的孩子找来吧。”
过了一会儿,小象被爸爸领来了,小鼹鼠被奶奶领来了。
熊猫先生已经准备好一大一小两副眼镜。”小象,小鼹鼠,试试你们的眼镜吧。”
大象叔叔连忙说:”我儿子可不近视!”
鼹鼠奶奶说:”我孙子的眼力好着呢!”
熊猫先生笑了,”这两副眼镜平时用不着。”他对小象说:”当你要去找小鼹鼠玩时,你就戴上这副眼镜。”小象戴上眼镜。”晴,小鼹鼠变大了,变得和我一样大了!”
熊猫先生又把另一副眼镜递给小鼹鼠:”当你要去找小象玩时……”
小鼹鼠戴上眼镜,发现小象变得和自己一样小了。
小象和小鼹鼠高高兴兴地跑出眼镜店,一起玩去了。
ผู้เขียน Yi Ming(ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง)
แปลและเรียบเรียง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เมชฌ สอดส่องกฤษ

ปลาคาร์ปน้อยร้องไห้ฮือๆ หัวเราะหุหุ 小鲤鱼哭哭笑笑

ปลาคาร์ปน้อยสีทองกับพรรคพวกปลารวมหัวกันเป็นกลุ่มร้องไห้เสียง ฮือ ๆ ๆ
คุณตากุ้งหนวดยาวตีลังกาว่ายน้ำไปมา เข้ามาใกล้ๆ ลูบหนวดยาว แล้วก็ถามว่า “พวกหนูๆ มีเรื่องเสียใจอะไรกันขนาดนี้รึ”
พวกปลาคาร์ปน้อยพากันเช็ดน้ำตา แล้วก็หันมาตอบคุณตากุ้งหนวดยาวว่า “พี่น้องของเรากำลังพากันไปกระโดดประตูมังกร ว่ายมาถึงตรงนี้ก็รู้สึกหิว อยากจะหาอะไรกินกันสักหน่อย พี่น้องเราตัวหนึ่งมองไปเห็นใส้เดือนตัวแดงๆ ก็เลยกัดกินได้แค่คำเดียวเอง ใครจะคิดล่ะว่า ใส้เดือนตัวนั้นเกี่ยวอยู่กับเบ็ด ได้ยินแต่เสียง ฟิ้ว พี่น้องเราก็ลอยหายขึ้นไปบนน้ำเสียแล้ว ฮือ ๆ ๆ” พูดจบก็พากันร้องไห้ด้วยความเสียใจ
คุณตากุ้งหนวดยาวต้องปลอบเจ้าปลาน้อยกันอยู่นาน อยู่ดีๆ เจ้าปลาน้อยตัวหนึ่งก็ตะโกนขึ้นมาว่า “ดูนั่นสิ ๆ ใส้เดือนตัวแดงนั่นมาอีกแล้ว” พวกปลาน้อยพากันว่ายหนีกันด้วยความตกใจ
คุณตากุ้งหนวดยาวลูบหนวดเบาๆ แล้วก็บอกกับปลาน้อยว่า “ไม่ต้องตกใจหรอกหนูๆ ไหน ขอตาเข้าไปดูหน่อยซิ”
ระวังหน่อยนะครับคุณตา พวกปลาน้อยร้องเตือนด้วยความเป็นห่วง คุณตากุ้งว่ายน้ำเข้าไปใกล้กับใส้เดือน พวกปลาน้อยก็พากันจ้องไปที่คุณตาด้วยความกังวล
สักครู่ คุณตากุ้งก็ว่ายกลับมาบอกกับทุกคนว่า “นี่เป็นกับดักที่มนุษย์ใช้ใส้เดือนเกี่ยวกับเบ็ดมาล่อพวกเรา เบ็ดโยงไว้กับเชือกเส้นยาว หย่อนลงมาในน้ำมาล่อให้พวกเราหลงกลกินเหยื่อ”
“แล้ว…พวกเราจะทำยังไงกันดีล่ะ” เจ้าปลาคาร์ปหัวกลมตัวหนึ่งร้องถาม
คุณตากุ้งส่ายหัวไปมา “ไม่ต้องไปสนใจมันก็พอแล้ว”
“แต่ว่า….ไม่แน่ว่า อาจจะมีพี่น้องเราตัวไหนที่ตะกละ เผลอไปงับใส้เดือนเข้า” เจ้าปลาคาร์ปสีทองตัวหนึ่งมองพี่น้องของมันด้วยความกังวล แล้วก็มองคุณตากุ้ง คุณตากุ้งก็ส่ายสายตามองไปมองมา แล้วก็พูดว่า “เอ่อ…นั่นสินะ แกก็พูดถูก” ว่าแล้ว คุณตากุ้งก็ว่ายไปดูรอบๆ ใส้เดือน เอาหนวดแข็งๆลองทิ่มใส้เดือนดู แล้วก็บอกว่า “ข้ายังอยู่นี่ทั้งคน รับรองทุกคนปลอดภัยแน่ๆ”
“ขอบคุณมากครับ คุณตากุ้งหนวดยาว….
คุณตากุ้งจงเจริญ เย้ ๆๆ ”
ในขณะที่ฝูงปลาคาร์ปดีอกดีใจอยู่นั่นเอง ใครจะคิดเล่าว่า ก็ได้ยินเสียง “ฟิ้ว” ดังขึ้นอีก คุณตากุ้งหนวดยาว ยังไม่ทันได้เอ่ยลากับฝูงปลา ก็ลอยขึ้นไปบนผิวน้ำต่อหน้าต่อตา
“ฮือ ๆ ๆ ….” เสียงเจ้าปลาน้อยยิ่งพากันร้องไห้เสียอกเสียใจกันหนักขึ้นกว่าเดิม
ในขณะนั้นเอง ก็มีเจ้าปูสีเทาคลานต้วมเตี้ยมเข้ามา “มีเรื่องอะไรทำให้พวกนายร้องไห้เสียใจขนาดนี้”
ปลาคาร์ปน้อยสีทองตัวหนึ่งก็เล่าเรื่องราวให้พี่ปูฟังอย่างละเอียด
พี่ปูได้ยินดังนั้น ก็ชูก้ามขึ้น ได้ยินเสียง ฉึก ๆ ตัดสาหร่ายจนขาดหมด
“ว้าว เยี่ยมไปเลย” เหล่าปลาน้อยพากันดีอกดีใจ
ทันใดนั้น เชือกเบ็ดที่เกี่ยวใส้เดือนก็หย่อนลงมาอีกแล้ว ทำเอาพวกปลาน้อยเริ่มลุกลี้ลุกลนด้วยความกลัว พี่ปูเห็นดังนั้น ก็ชูก้ามขึ้นไปมา ตะโกนบอกว่า “ใครบ้างไม่รู้ว่าก้ามของข้าแข็งแกร่งเพียงไหน” พูดจบก็เอาก้ามที่แข็งแกร่งหนีบเจ้าใส้เดือนไว้แน่น
“พี่ปู…อย่านะ…อย่า…” เหล่าปลาน้อยก็พากันว่ายไปขวางเอาไว้
ท่านนายพลปูก้ามโต อันตรายนะ ปลาน้อยทั้งหลายพากันว่ายน้ำไปห้ามเอาไว้
พี่ปูผลักเหล่าปลาน้อยออกไป ทั้งทิ่มทั้งแทงเจ้าใส้เดือนตัวนั้น ก้ามอันแข็งแกร่งหนีบเข้ากับตัวใส้เดือนได้ไม่ทันไร เจ้าปูก็รู้สึกว่าตัวเองลอยขึ้น นี่ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะเจ้าปูอ้าก้ามออกได้ทัน ก็คงไม่มีทางได้กลับมาอีกแล้วเป็นแน่
เจ้าปูก้ามโต ไม่ทันได้รอให้ปลาน้อยว่ายมาหา ก็รีบหนีเข้าไปหลบอยู่ในโพรง ไม่กล้าออกมาเจอปลาน้อยอีก
“ฮือ ๆ ๆ….” ฝูงปลาน้อยพากันร้องไห้ด้วยความเสียใจ และก็คิดจะพากันหนีจากที่นี่ไป
“จะจากไปแบบนี้เหรอ ดูจะเสียเปรียบมันเกินไป” เจ้าปลาน้อยสีทองนึกถึงภาพคนบนบกที่ร้อยใส้เดือนเข้ากับเบ็ด แล้วดึงเบ็ดขึ้นเห็นหางปลาแดงๆ กุ้งตัวใหญ่หนึ่งตัว เขาคงจะกระโดดโลดเต้นด้วยความดีอกดีใจ
“เราจะต้องคิดหาวิธีสั่งสอนเขาสักหน่อยแล้วล่ะ” เจ้าครีบสั้นเอ่ยด้วยความคับแค้น
“ใช่แล้ว อย่างน้อยก็ต้องให้มันรู้สึกคับข้องใจบ้างก็ยังดี” เจ้าหัวกลมกล่าว
ปลาทั้งฝูงพากันว่ายมาล้อมเจ้าปลาตัวลายจ่าฝูง
ว่าแต่ว่า จะหาวิธีไหนสั่งสอนคนบนฝั่งเหรอ พวกเราเอาเบ็ดไปตกเขาก็ไม่เสียด้วยสิ
ขณะนั้น เจ้าใส้เดือนตัวแดงก็หย่อนลงมาใกล้ๆฝูงปลาอีกแล้ว
“อย่าเข้าใกล้นะ” ปลาคาร์ปน้อยสีทองตะโกนบอกเพื่อนๆ แล้วก็ว่ายวนรอบๆใส้เดือนตัวนั้น พอว่ายกลับมาผ่านถ้ำของขุนพลปูก้ามโต ก็คิดหาวิธีออก
“ทุกคนตามฉันมา” เจ้าปลาน้อยตะโกนเรียกเพื่อนๆว่ายตามกันไปที่ถ้ำของปูก้ามโต
เจ้าปลาคาร์ปน้อยสีทองหยุดอยู่ที่ใกล้ๆกับถ้ำปู แล้วก็ชี้ไปที่รองเท้าขาดที่จมอยู่ในโคลน แล้วก็บอกว่า “เรามาช่วยกันยกรองเท้านี้ไปแขวนไว้ที่ใส้เดือนนั่นกันเถอะ”
“ให้เค้าเกี่ยวได้รองเท้าขาดขึ้นไป” ว่าแล้วฝูงปลาน้อยก็พากันเคลื่อนย้ายรองเท้าขาดไปข้างๆกับเหยื่อใส้เดือน บางตัวก็คาบ บางตัวก็เอาหัวดัน
แต่ว่า …ย้ายมายังไม่ทันถึงครึ่งทาง รองเท้าขาดนั้นก็ติดอยู่กับสาหร่าย ย้ายต่อไปไม่ได้แล้ว
“เฮ่อ…คราวนี้ก็หมดกัน ไม่มีวิธีไหนแล้วล่ะ” ฝูงปลาน้อยพากันทอดถอนใจ
ทันใดนั้นเอง รองเท้าก็ขยับได้อีกครั้ง ฝูงปลามองดูก็รู้ว่า ที่แท้ก็เป็นขุนพลปูก้ามโตนี่เอง ที่ช่วยเอาก้ามคมตัดสาหร่ายน้ำจนขาด ช่วยพวกปลาน้อยเปิดทาง
“ขอบคุณมากครับ ท่านขุนพลปูก้ามโต”
ฝูงปลาน้อยก็พากันคาบรองเท้าขาดไปไว้ข้างๆกับเหยื่อใส้เดือนทันที
เจ้าปลาคาร์ปน้อยสีทองก็เอาหางดันรองเท้าไปเกี่ยวไว้ที่เบ็ด
จากนั้น ฝูงปลาน้อยก็พากันล่ำลาขุนพลปูก้ามโต เพื่อจะเดินทางต่อไปที่ประตูมังกร รองเท้าขาดนั้นก็ลอยขึ้นผิวน้ำอย่างรวดเร็วต่อหน้าต่อตา และก็ได้ยินเสียงคนที่อยู่บนฝั่งร้องดีใจ แต่ต่อมาก็ได้ยินเสียง “เฮ้ย….” ด้วยความตกใจ และเสียดาย
ใครก็นึกภาพออกว่าคนบนฝั่ง ออกแรงกระตุกเบ็ดจนสุดกำลัง แต่กลับเกี่ยวได้รองเท้าขาด นึกถึงท่าทางที่หมดหวังหน้าม่อยของคนข้างบนฝั่ง …… ฝูงปลาก็พากันหัวเราะชอบใจ และดีอกดีใจเป็นที่สุด
金色的小鲤鱼和他的同伴们,正头碰头地围在一起哭:”呜呜呜!”
一只老青虾翻着跟头,倒退着来到小鲤鱼身边,捋捋长胡子,问他们:”你们为什么这样伤心啊!”
小鲤鱼抹一下眼泪,看着老青虾说:”我们兄弟姐妹是去跳龙门的,游到这里肚子饿了,想找点吃的,我们的一个兄弟看到了一条红蚯蚓,刚上去咬了一口,谁想到红蚯每是穿在一个铁钩上的,只听得’呼’一声,他飞出水面,不见了。”接着,他们哭得更伤心了。
老青虾刚想安慰他们一番,小鲤鱼们突然惊叫起来:”瞧,那条红蚯蚓又来了!”一边叫,一边逃了开去。
老青虾捋捋长胡子,对小鲤鱼们说:”别慌,让我过去看看。”
“可要小心呀!”小鲤鱼们叫着,用担心的目光看着向红蚯蚓游去的老青虾。
一会儿,老青虾回来了,他告诉大家:”这是人设下的圈套,红蚯蚓穿在一个铁钩上,铁钩系在一根线上,是来钓你们的。”
“那……怎么办呢?”一条名叫圆头的小鲤鱼害怕地问。
老青虾摇摇头:”别去管它就是了。”
“可……说不定哪一个馋嘴的兄弟姐妹,去咬一下红蚯蚓……”金色的小鲤鱼担心地看看兄弟姐妹,又看看老青虾。老青虾的眼睛转动了几下,说:”这倒也是的。”忽然,他舞动着两条长枪,一边向红蚯蚓冲去,一边说:”有我老青虾在,保证你们各个安全!”
“谢谢老青虾公公!”
“老青虾公公万岁!”
小鲤鱼们一阵欢呼。谁想到,又是”呼”的一声,老青虾连和小鲤鱼们说一声”再会”也来不及,飞出水面去了。
“呜呜呜……”
小鲤鱼们哭得更伤心了。
一只灰色蟹,横着身子爬过来了,问小鲤鱼:”什么事使你们这样伤心啊?”
金色的小鲤鱼把事情的经过全告诉了年轻的灰蟹。
灰蟹听了,扬起两把大钳子,只听得”咔咔”两声,把两株水草剪断了。
“好本事!”小鲤鱼们欢呼起来。
这时,那条带着长线的红蚯蚓又出现了。小鲤鱼们马上不安起来。灰蟹看看小鲤鱼们,挥舞着两把大钳,大声喊道:”谁不知道我横行将军的厉害!”说着,向红蚯蚓逼去。
“灰蟹将军,别……别……”金色的小鲤鱼冲上去阻拦。
“灰蟹将军,危险啊!”所有的小鲤鱼们,都上前去劝阻。
灰蟹推开小鲤鱼们,横冲直撞地来到红蚯蚓旁边。他的两只大钳刚刚碰到了那条长线,只觉得自己的身子一下子飞了起来。要不是他把钳子松开得快,就再也回不来了。
他没等小鲤鱼们游过来,赶快躲进石洞里,不敢再见小鲤鱼们了。
“呜呜呜……”小鲤鱼们哭得好伤心。他们想离开这个地方了。
“就这样离开?太便宜他了!”金色的小鲤鱼想象着岸上的那个人,当他把那根系在红蚯蚓上的长线提起来时,有一条红尾巴小鲤鱼,一只青虾,一定高兴得又跳又笑。
“我们也要想办法教训他一下。”短鳍提议。
“对,至少给他一点难堪!”圆头说。
大家都围着全色的小鲤鱼,因为他是大家的头。
可是,有什么办法教训岸上那个人呢?他们又不能去钓那个人。
这时,那条带长线的红蚯蚓又在离他们不远的地方出现了。
“别靠近!”金色的小鲤鱼警告同伴们,他自己却绕着红蚯蚓游了一圈。当他游回来经过灰蟹将军石洞门口时,突然想到了一个好主意。
“大家跟我来!”他招呼一声,向灰蟹将军的石洞口游去。小鲤鱼们在后面跟着。
金色的小鲤鱼来到离灰蟹将军的石洞不远处,停下来了,指着水底一只破鞋子,说:”我们把它弄到红蚯蚓旁边去。”
“让他钓一只破鞋子!”小鲤鱼们有的用嘴衔,有的用头拱,把那只破鞋子向红蚯蚓旁边移过去。
但是,刚走了一半路,那只破鞋子怎么也弄不动了,原来这里长着许多水草,把它给缠住了。
“唉,这回……没别的办法了。”
小鲤鱼们有些泄气了。
突然破鞋子又移动了。小鲤鱼们一看,只见灰蟹将军正用他的两把大钳子,把水草剪断,在为他们开路哩!
“谢谢灰蟹将军!”
小鲤鱼们很快把那只破鞋子弄到了红蚯蚓旁边,金色小鲤鱼用尾巴把鞋带挂到了铁钩上。
当小鲤鱼们告别灰蟹将军,继续上路去找龙门时,那只破鞋子突然飞出了水面,他们好像还听到岸上先是一阵高兴的欢呼,接着是一声吃惊的”啊——”。
谁都想象得出来,那个人花了那么大力气,钓上去的却是一只破鞋子,那副狼狈相……小鲤鱼们高兴得笑了,笑得那么开心。
ผู้เขียน Yi Ming(ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง)
แปลและเรียบเรียง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เมชฌ สอดส่องกฤษ