Posted on November 2, 2020ตั๊กแตนตำข้าวเรียนวิชา 小螳螂学艺 เจ้าตั๊กแตนตำข้าวรูปร่างแข็งแกร่งบึกบึน มันมุ่งมั่นว่าเมื่อโตขึ้นจะต้องมีอนาคตไกลเป็นแน่ ก็เลยทำตัวมองไม่เห็นหัวใครเลยอยู่มาวันหนึ่ง แม่ตั๊กแตนพูดกับเจ้าตั๊กแตนน้อยว่า “เจ้าก็โตขึ้นทุกวัน คิดจะทำอะไรแล้วหรือยัง”เจ้าตั๊กแตนน้อยตอบว่า “มือของผมมีมีดคมสองด้าม อยากฝึกวิทยายุทธ์ อนาคตอยากเป็นวีรบุรุษผู้กล้าแกร่ง”“ดีมาก มีใจแน่วแน่เด็ดเดี่ยว” และแล้ว แม่ตั๊กแตนก็ส่งเจ้าตั๊กแตนน้อยไปสำนักวิทยายุทธ์ของปรมาจารย์วานรเพื่อศึกษาศิลปะการต่อสู้เจ้าตั๊กแตนน้อยภาคภูมิใจยิ่งนัก ตั้งมั่นว่าจะต้องประลองยุทธ์กับปรมาจารย์วานรให้จงได้ แต่ท่านปรมาจารย์วานรกลับให้ลูกศิษย์ที่ตัวเล็กที่สุดมาประลองนึกไม่ถึงเลยว่า เจ้าลิงน้องสี่ มีวิทยายุทธ์แก่กล้า มีหมัดแข็งแกร่ง ตะลุมบอนเจ้าตั๊กแตนน้อยเสียจนน่วมไปหมดทั้งตัว แถมยังขาหักอีกข้างหนึ่งด้วยเจ้าตั๊กแตนถูกส่งเข้าไปรักษาอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาล ท่านปรมาจารย์วานรปลอบเจ้าตั๊กแตนน้อยว่า “เจ้าเด็กน้อย เจ้าลิงน้องสี่หมัดหนักไปหน่อย ทำร้ายเจ้าจนบาดเจ็บ รักษาเนื้อรักษาตัวให้หายดี ค่อยมาเรียนกับข้าใหม่นะ”เจ้าตั๊กแตนน้อยหน้าแดง พูดว่า “อาจารย์ครับ ผมคงเรียนศิลปะวิทยายุทธ์ไม่ไหวแล้วล่ะ ผมอยากเปลี่ยนมาเรียนเป็นช่างไม้ดีกว่า”เมื่อรักษาตัวหายดีแล้ว เจ้าตั๊กแตนก็อำลาปรมาจารย์วานร เดินทางไปฝากตัวเป็นศิษย์กับท่านอาจารย์หมี ท่านอาจารย์หมีเห็นว่ามือทั้งสองข้างของเจ้าตั๊กแตนเหมือนกับเลื่อยแหลมคม จึงรับไว้เป็นศิษย์อาจารย์หมีพูดกับเจ้าตั๊กแตนน้อยว่า “เจ้าเด็กน้อย ข้าจะทำลังไม้สองลัง เจ้าช่วยเลื่อยไม้กองนี้สักหน่อยก็แล้วกัน”เจ้าตั๊กแตนน้อยก็เอามือเลื่อย เลื่อยไม้ เลื่อยอยู่นานแต่ทำยังไงก็เลื่อยไม้ไม่ขาดเสียทีท่านอาจารย์หมีเห็นดังนั้นก็รู้สึกขัดหูขัดตา เกิดอะไรขึ้นเหรอเนี่ย ทำงานจะมาแกล้งทำเหลาะแหละอย่างงี้ไม่ได้นะ“อาจารย์ครับ ดูแล้วผมคงทำงานช่างไม้ไม่ไหวแล้วล่ะครับ” เจ้าตั๊กแตนบอกลาอาจารย์หมี เดินคอตกกลับบ้านยอดข้าวเขียวขจี ปลิวไสวอยู่ในทุ่งนา แม่ตั๊กแตนกำลังจับแมลงอยู่ในทุ่ง มองเห็นลูกกลับมาจากเรียนวิทยายุทธ์ ก็ดีอกดีใจรีบวิ่งไปรับลูก “ลูกจ๋า ลูกได้ไปร่ำเรียนวิชาอะไรกลับมาบ้าง”เจ้าตั๊กแตนน้อยพูดกับแม่ว่า “แม่ครับ …ผมไม่ได้เรียนอะไรเลย ก็คงกลับมาเรียนจับแมลงกับแม่ดีกว่า”แม่ตั๊กแตนฟังลูกเล่า ก็ไม่ได้ตำหนิติเตียนอะไร แล้วก็ยังบอกลูกอีกว่า “แบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ ถ้าลูกเป็นนักจับแมลงมือฉมังละก็ จะต้องมีอนาคตไกลแน่ๆเลย”นับแต่นั้นมา เจ้าตั๊กแตนน้อยก็ตั้งอกตั้งใจเรียนจับแมลงกับแม่ ในที่สุดมันก็กลายเป็นนักจับตั๊กแตนมือฉมัง เจ้าตั๊กแตนน้อยได้เรียนรู้และแสวงหาสิ่งที่เหมาะสมกับตัวเองได้แล้ว小螳螂长得很威武,他认定自己长大了会有出息,所以谁也看不起。一天,妈妈对小螳螂说:”你一天天地长大了,想干点什么呢?”小螳螂说:”我手里有两把大刀,想练武,将来当个英雄!”“好!有志气!”妈妈把他送到武术教师猴先生那里学习武艺。小螳螂很骄傲,一定要跟猴先生比试比试武艺。猴先生让他最小的徒弟猴四和小螳螂比武。没想到猴四的猴拳特别厉害,他三拳两脚就打伤了小螳螂的一条腿。小螳螂被送进医院养伤,武术教师猴先生安慰他说:”孩子,猴四的手重,误伤了你,好好养伤,等你的伤好了再跟我学习武艺。”小螳螂红着脸说:”老师,看来,我学不了武艺,我想改行学木匠。”养好了伤,小螳螂向猴先生告辞,来到木匠熊先生那里拜师。熊先生见小螳螂手中的两把大刀像锯子,就收留了他。熊先生对小螳螂说:”孩子,我要打两个箱子,请你把这几块木板锯开。”小螳螂用自己手中的锯子锯呀,锯呀,锯了半天,也没有锯开一块木板。熊先生不高兴了:”怎么搞的?于活可不能装样子啊!”“老师,看来,我干不了木匠活儿。”他向熊先生告辞,垂头丧气地往家走去。田野里,麦苗儿青青,螳螂妈妈正在田野里捉虫。她一眼看见学艺归来的儿子,高兴地迎了上去:”孩子,你学到了什么本领?”小螳螂说:”妈妈……我什么也没有学到,还是跟您学习捕虫吧!”妈妈听了儿子的诉说后,并没有责备小螳螂,而是说:”这样也好,你要是成了捕虫能手,也会很有出息的!”从此,小螳螂专心跟妈妈学习捕虫,终于成为一名捕虫能手,他在生活中找到了适合自己的位置。ผู้เขียน Yi Ming(ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง)แปลและเรียบเรียง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เมชฌ สอดส่องกฤษ
Posted on November 2, 2020นกน้อยกับหมีใหญ่ 小鸟和大熊 เจ้านกน้อยกับเจ้าใหญ่เป็นเพื่อนรักกัน นกน้อยเกาะอยู่บนกิ่งไม้ส่งเสียงเจื้อยแจ้วร้องเพลง ส่วนเจ้าหมีใหญ่นอนหลับอยู่ใต้โพรงไม้เสียงดัง คร่อก ๆ ๆลมหนาวพัดมาแล้ว นกน้อยก็จะบินหนีหนาวไปสู่ดินแดนอบอุ่นทางใต้ เจ้าหมีใหญ่ก็จะหลบหนาวจำศีลอยู่ในถ้ำ เพื่อนรักทั้งสองนัดกันว่า จะกลับมาเจอกันใหม่ในฤดูใบไม้ผลิปีหน้าพอถึงฤดูใบ้ไม้ผลิในปีต่อมา นกน้อยก็บินกลับมา แต่ต้นไม้ใหญ่หายไปเสียแล้ว เจ้าหมีใหญ่นั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ที่ตอไม้นกน้อยร้องถามหมีใหญ่ว่า “เจ้าหมีเพื่อนรัก ต้นไม้ของเราล่ะ”“ต้นไม้ของเราถูกคนงานตัดไม้เลื่อยเอาแล้ว ฮือ ๆ ๆ” เจ้าหมีใหญ่พูดไปก็ร้องไห้ไป“อย่าเสียใจไปเลย ขอเพียงรากไม้ยังอยู่ ต้นไม้จะต้องมีหน่อไม่งอกออกมาแน่ๆ ” นกน้อยเจื้อยแจ้วปลอบใจเจ้าหมีใหญ่ว่าแล้ว นกน้อย กับหมีใหญ่ก็พากันสอดส่ายสายตาเสาะหาหน่อของต้นไม้ ในที่สุดก็เห็นว่า มีหน่อเล็กๆกำลังทอดยอดออกมาจากตอไม้จริงๆไม่มีต้นไม้ใหญ่ แล้วนกน้อยจะไปเล่นที่ไหนล่ะเนี่ย เจ้าหมีใหญ่ยืนทำตาปริบๆ อยู่บนตอไม้ แล้วทำท่าเป็นต้นไม้ใหญ่ เจ้านกน้อยก็บินไปเกาะที่ต้นไม้หมี ส่งเสียงจิ๊บๆ ๆ ร้องเพลงเจื้อยแจ้ว เจ้านกน้อยร้องไป ร้องๆ เจ้าหมีใหญ่ก็หัวเราะชอบใจ โยกย้ายเต้นระบำไปมาตามจังหวะเสียงเพลง“แกช่างเป็นต้นไม้ที่น่าสนใจจริงๆนะเจ้าหมีเพื่อนยาก” นกน้อยเอ่อยปากชมเจ้าหมีใหญ่นกน้อยชวนเพื่อนๆนก เพื่อนกระรอก มาร่วมเล่นดนตรี ร้องเพลงบนต้นไม้หมี เจ้าหมีก็เพลิดเพลินหัวเราะชอบในหัวเราะดังเอิ้ก ๆ ๆ วิ่งร่าเริงอยู่บนเนินเขา นกน้อยบินวนต้นไม้หมี กระรอกน้อยกระโดดโลดเต้นไปตามเจ้าหมีใหญ่ เป็นที่สนุกสนานเหลือเกินกิ่งไม้อ่อนๆเริ่มแทงหน่อออกมาท่ามกลางเสียงเพลง ไม่นานก็สูงขึ้นเป็นต้นไม้ต้นเล็ก ๆหน้าหนาวมาถึงอีกแล้ว นกน้อยก็ต้องบินหนีไปหลบหนาวที่อื่น หมีใหญ่ก็ต้องจำศีลหลบหนาวอยู่ในถ้ำอีกแล้ว เพื่อรักทั้งสองก็นัดกันว่าฤดูใบ้ไม้ผลิปีหน้าจะกลับมาพบกันอีกครั้งพอถึงฟใบไม้ผลิปีต่อมา พอนกน้อยบินกลับมาถึง มองเห็นหมีใหญ่เพื่อรัก กับต้นไม้ตั้งต้นสูงตระหง่าน เจ้าหมีโบกไม้โบกมือตะโกนเรียกนกน้อย “ยินดีต้อนรับ ๆ”เจ้านกน้อยก็สามารถกลับมาเกาะกิ่งไม้ร้องเพลงได้ดังเดิม แต่บางครั้ง นกน้อยก็บินไปเกาะที่หัวของหมีใหญ่ เพราะนกน้อยชอบต้นไม้ที่เต้นรำได้อย่าง ต้นไม้หมี นี้มากเหลือเกิน小鸟和大熊是好朋友。小鸟在树枝上唱歌,大熊在下面的树洞里睡觉。冬天来了,小鸟要飞到温暖的南方去了,大熊也要进树洞里睡觉了。它俩约定,明年春天再见面。第二年春天,小鸟飞回来时,看见大树没有了,大熊坐在树墩上哭鼻子。小鸟问:”大熊,我们的大树呢?”“大树让伐木工人锯走了!”大熊伤心地说。“别难过,只要树根还在,大树就会发出新芽。”小鸟说。小鸟和大熊找呀找,真的在树墩边上找到了一棵小小的新芽。没有大树,小鸟上哪儿去玩呢?大熊眨眨眼睛,站到树墩上,装扮成一棵神气的大树。小鸟飞到”熊树”上,唱起了快乐的歌。小鸟唱呀唱,大熊笑了,随着歌声摇摇摆摆,跳起舞来。“你真是一棵有趣的树!”小鸟夸奖大熊。小鸟请来别的鸟儿,还请来小松鼠,一起在熊树上开音乐会。大熊呵呵笑着,在山坡上奔跑。鸟儿围着大熊飞,松鼠追着大熊跳,热闹极了。小嫩芽在歌声和笑声中长呀长,很快就长成了一棵小树苗。冬天又来了,小鸟又要飞到温暖的南方过冬去了,大熊又要进树洞里睡觉了。它俩约定,第二年春天再见面。第二年春天,小鸟飞回来的时候,看见大熊和一棵挺拔的小树站在一起,挥着手说:”欢迎!欢迎!”小鸟又可以在树上唱歌了。但有的时候,小鸟也飞到大熊的头顶上玩一会儿,因为它很喜欢这棵会跳舞的”熊树”。ผู้เขียน Yi Ming(ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง)แปลและเรียบเรียง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เมชฌ สอดส่องกฤษ
Posted on November 2, 2020ของขวัญจากน้องหมู 小猪的礼物 วันนี้เป็นวันเกิดของเจ้าลิงน้อย บรรดาเพื่อนๆก็พากันมาอวยพรวันเกิด กระรอกน้อยมอบลูกอมอารมณ์ดีเป็นของขวัญ เต่าน้อยมอบไอศกรีมเป็นของขวัญ กระต่ายขาวมอบช็อคโกแล็ตเป็นของขวัญ เจ้าลิงน้อยแสนสุขใจ เชิญเพื่อนๆ ล้อมวงเข้ามากินเค้กวันเกิดด้วยกันแต่ว่า เจ้าหมูอ้วน เพื่อนรักของเจ้าลิงน้อยไม่ได้มางานวันเกิด ทำให้ทุกคนรู้สึกประหลาดใจมากเมื่อเสร็จงานเลี้ยงแล้ว เจ้าลิงน้อยก็ส่งกระรอกน้อย เต่าน้อย และกระต่ายน้อยกลับบ้าน เจ้าลิงน้อยก็ออกตามหาเจ้าหมูอ้วนเพื่อนรักคุณปู่แพะเล็มหญ้าอยู่บนยอดภูเขาสูงลิบ เจ้าลิงน้อยก็เข้าไปถามอย่างสุภาพว่า“คุณปู่แพะครับ คุณปู่แพะครับ คุณปู่เห็นเจ้าหมูอ้วน เพื่อนรักของผมมั้ยครับ”“เจ้าหมูอ้วนน่ะเหรอ ” คุณปู่แพะส่ายหนวดยาวไปมา แล้วก็บอกว่า “ปู่เห็นมันเดินเข้าป่าไปนู่นแน่ะ”ได้ยินดังนั้น เจ้าลิงก็ตรงรี่เข้าไปในป่าทันที พอเข้าไปถึงในป่า เจ้าลิงได้เจอกับนกน้อยเสียงหวานกำลังร้องเพลงอยู่บนยอดไม้ ก็รีบเข้าไปถามว่า “เจ้านกน้อย เจ้าเห็นหมูอ้วนเพื่อนของข้ามั้ย”“อ๋อ เจ้าหมูอ้วนน่ะเหรอ” เจ้านกน้อยสะบัดขนพึ่มพั่บก่อนจะตอบว่า “ฉันเห็นมันไปที่หุบเขาโน่นแน่ะ”ได้ยินดังนั้น เจ้าลิงก็รีบวิ่งไปที่หุบเขา แต่ก็มีแต่ความว่างเปล่า ไม่เห็นแม้แต่เงาของเจ้าหมูอ้วนเพื่อนรักเลย มีเพียงต้นท้อที่ออกลูกเต็มไปหมด“เจ้าหมูอ้วน ๆ แกอยู่ไหน เจี๊ยกๆ” เสียงเจ้าลิงตะโกนร้องเรียกเพื่อน“ฉัน อยู่ นี่ … ”เสียงหมูอ้วนแว่วมาจากใต้ต้นท้อเจ้าลิงน้อยวิ่งเข้าไปดูก็พบว่า เจ้าหมูอ้วนตกลงไปในคูน้ำที่ใต้ต้นท้อ ขึ้นมาไม่ได้เจ้าลิงน้อยรีบปีนขึ้นไปบนต้นท้ออย่างคล่องแคล่ว แล้วก็หย่อนหางยาวๆ ลงไปในคูน้ำ ให้เจ้าหมูอ้วนเกาะขึ้นมา เจ้าลิงออกแรงสุดกำลัง ดึงเจ้าหมูอ้วนขึ้นมาได้“ขอโทษด้วยนะ เจ้าลิงเพื่อนรัก” เจ้าหมูอ้วนพูดเสียงละห้อย “ฉันอยากจะเก็บลูกท้อที่แกชอบกิน เอาไปให้เป็นของขวัญวันเกิด แต่ก็โชคร้ายตกลงมาจากต้นไม้ ตอนนี้ของขวัญอะไรก็ไม่มีให้แกเลยสักชิ้น”เจ้าลิงน้อยกอดเจ้าหมูอ้วนไว้แน่น แล้วก็พูดออกมาจากใจจริงว่า “แกให้ของขวัญที่ล้ำค่าที่สุดแก่ฉันแล้วล่ะ”“ไม่มีนี่นา ฉันไม่ได้ให้อะไรสักอย่างเลยนี่นา” เจ้าหมูอ้วนม้วนหางเป็นวงแล้วก็พูดด้วยความฉงน“ไอ้หมูโง่นี่” เจ้าลิงน้อยเอามือตบหน้าหมูที่ช้ำเป็นจ้ำๆ เบาๆ แล้วก็พูดอย่างซุกซนว่า “นี่ไง ของขวัญที่ดีที่สุดของฉัน”ว่าแล้ว เจ้าลิงก็ปีนขึ้นต้นท้ออย่างคล่องแคล่วว่องไว เด็ดลูกท้อลงมาหลายลูก หอบเอาลูกท้อกลับไปกินกับเจ้าหมูอ้วนที่บ้านเพื่อนรักทั้งสองชอบกินลูกท้อมากๆเลย今天是小猴的生日,朋友们都来向它祝贺。小松鼠送来了开心果,小乌龟送来了冰淇淋,小白兔送来了巧克力。小猴请朋友们坐下来,一起吃生日蛋糕。可是,小猴的好朋友小胖猪没有来,大家觉得很奇怪。送走了小松鼠、小乌龟和小白兔,小猴出门去找小胖猪。一只老山羊在高高的山坡上吃草,小猴走过去有礼貌地问:“山羊爷爷,山羊爷爷,您看到我的朋友小胖猪了吗?”“小胖猪呀,”老山羊摇摇白胡子说,”它到那边的树林子里去了。”小猴走进树林子里,看见一只漂亮的小鸟在树梢上唱歌,小猴问:“小鸟,小鸟,你看见我的朋友小胖猪了吗?”“小胖猪呀,”小鸟理理花羽毛说,”它到那边的山谷里去了。”小猴跑进山谷里,山谷里空空荡荡的,没有小胖猪的身影,只有一棵结满了果实的山核桃树。“小胖猪,你在哪里?”小猴大声喊。“我在这啦。”山核桃树下传来了小胖猪的声音。小猴跑过去一看,小胖猪掉进山核桃树下的深沟里,上不来了。小猴攀着山核桃树,将长尾巴垂到沟里,让小胖猪抓住。小猴一使劲,呼啦一下子,小胖猪上来了。“对不起,小猴,”小胖猪说,”我想把你最爱吃的山核桃摘下来,送给你做礼物,可是我太笨了,从树上摔进沟里了,什么礼物也没有了。”小猴紧紧地拥抱着小胖猪,真诚地说:”你已经送了最好的礼物给我啦!”“没有呀,我什么也没送呀!”小胖猪结结巴巴地说。“你这傻胖猪呀!”小猴拍拍小胖猪摔得青一块紫一块的脸,调皮地说,”这就是最好的礼物!”小猴爬到山核桃树上,摘下许多的山核桃。它把山核桃带回家,请小胖猪一起吃。它俩都爱吃山核桃呢!ผู้เขียน Yi Ming(ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง)แปลและเรียบเรียง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เมชฌ สอดส่องกฤษ
Posted on November 2, 2020November 2, 2020เรื่องของลูกอ๊อด 小蝌蚪 ในบ่อน้ำมีลูกอ๊อดเต็มไปหมด หางของมันดิ้นกระดุกระดิกไปมา ดูท่าทางทะมัดทะแมง พวกมันกำลังทำอะไรกันอยู่นะ พวกมันกำลังใช้หางเรียวๆของมันวาดรูป ทำการบ้านอย่างตั้งอกตั้งใจเขียนไปเขียนมา เขียนกลอนเรื่อยเปื่อยไปทีละบรรทัด ๆ วาดไปวาดมาจนไม่รู้ว่าในบ่อน้ำกลายเป็นรูปอะไรแต่พู่กันของเจ้าลูกอ๊อดหดสั้นลงทุกวัน หดจนไม่เหลือเลยแม้แต่นิดเดียวพวกปลาและปูเห็นเข้า ก็กระดิกหูหงึก ๆ “แย่แล้ว เจ้าพวกลูกอ๊อดนี่จะต้องไม่รักดีแน่ๆเลย ไม่งั้น ทำไมหางของพวกมันถึงหายไปได้ล่ะ”“ใช่แล้ว ได้ข่าวมาว่า เจ้ากระต่ายขาวก็เป็นเพราะพูดโกหก หางเลยกุดลง เจ้าพวกลูกอ๊อดนี่ก็คงเหมือนกันนั่นแหละ”ตอนแรก พวกลูกอ๊อดก็สงสัยอยู่เหมือนกันว่าทำไมหางของพวกมันถึงหายไป ก็พากันว่ายน้ำหาอยู่ในบ่อ แต่ต่อมาพวกมันก็หัวเราะร่า แม่เคยบอกเอาไว้ว่า “ลูกๆ เมื่อหางของพวกเจ้าหายไป ก็แปลว่าลูกโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ก็สามารถกระโดดขึ้นฝั่งไปเล่นกับเพื่อนๆได้แล้ว” คิดได้ดังนั้น พวกมันก็พากันกระโดดโลดเต้นขึ้นจากบ่อน้ำ แปลงกายเป็นกบน้อยน่ารัก กระโดดเล่นอย่างสนุกสนาน池塘里有许许多多的小蝌蚪,小蝌蚪的尾巴一甩一甩的,真帅!小蝌蚪在干什么呢?它们正用细细的长尾巴当画笔,认认真真地写作业哪!写呀写,写出了一行行没有格式的小诗;画呀画,画出了一池看不出谜底的画谜。小蝌矫的画笔呀,一天比一天短,最后短得再也不能用了。小鱼小虾发现了,嘀嘀咕咕地咬着耳朵:”哎呀,小蝌蚪一定是学坏了!要不,它的尾巴怎么没有了呢?”“是呀,听说小白兔因为说瞎话,短了尾巴!小蝌矫一定干了什么坏事!”起初,小蝌弹也以为自己的尾巴真的丢了,在池塘里找呀找。后来,它们扑哧一声笑了——妈妈不是说过:”孩子,掉了尾巴,你们就算长大了!就可以到岸上去找小朋友啦!”它们一蹦一跳地跃出了池塘,变成了一只只可爱的小青蛙。ผู้เขียน Yi Ming(ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง)แปลและเรียบเรียง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เมชฌ สอดส่องกฤษ
Posted on November 2, 2020น้องนกนางนวลชื่อ จิ๊บๆ 小燕子吉吉 เจ้านกน้อย ชื่อ จิ๊บจิ๊บ บินไปไกลแสนไกล เพิ่งจะเห็นต้นไม้ต้นหนึ่งยืนแห้งเหี่ยวอยู่บนภูเขาหัวโล้นลูกหนึ่ง จิ๊บจิ๊บทั้งเหนื่อย ทั้งกระหาย ทั้งหิว เฮ้อ…อุตส่าห์บินมาตั้งไกล ที่ไหนได้ เจอต้นไม้เพียงต้นเดียว มันบินลงไปที่ต้นไม้ที่เหลือแต่ใบบางๆหรอมแหรมต้นนั้น สอดส่ายสายตาหาอยู่นาน ก็เห็นแอ๊บเปิ้ลลูกหนึ่ง เฮ้อ…ช่างเป็นแอ๊บเปิ้ลที่มีค่าเหลือเกิน แอ๊บเปิ้ลสีแดงลูกนี้ ถูกลมพัดเบาๆแกว่งไปแกว่างมา ทันใดนั้น จิ๊บจิ๊บเห็นลูกแอ๊บเปิ้ลกำลังร้องไห้ เสียงสะอึกสะอื้นเบา ๆ“เอ๊ะ เธอเป็นอะไรไปเหรอ” จิ๊บจิ๊บร้องถามลูกแอ๊บเปิ้ล“ฉัน ฉันปวดท้อง โอ๊ย ๆ ปวดจะตายอยู่แล้ว” แอ๊บเปิ้ลร้องปวดท้อง ปวดจนเหงื่อตกซิบ ๆ จิ๊บจิ๊บ เห็นดังนั้นก็ตกอกตกใจ รีบเข้าไปถาม “แอ๊บเปิ้ลจ๋า รอประเดี๋ยวนะ เดี๋ยวฉันจะรีบไปตามคุณหมอหัวขวานให้” พูดจบ จิ๊บจิ๊บ ก็ไม่สนใจความเหน็ดเหนื่อยรีบบินปรู๋ไปทันทีจิ๊บจิ๊บบินไปอีกไกล ในที่สุดก็มาถึงป่าเล็กๆแห่งหนึ่ง แล้วก็รีบไปพบกับคุณหมอหัวขวาน “คุณหมอหัวขวานครับ คุณหมอหัวขวานครับ แอ๊บเปิ้ลแดงไม่สบาย คุณหมอรีบไปดูเค้าหน่อยเถอะ”คุณหมอหัวขวานกำลังรักษาต้นไม้ต้นหนึ่งอยู่ ก็หยุดตรวจแล้วหันมาถามอาการของแอ๊บเปิ้ล คิดใตร่ครองสักครู่ ก็บอกว่า “ต้องขอโทษจริงๆ อาการของแอ๊บเปิ้ลหนักมากแล้ว ฉันรักษาไม่ได้แล้วล่ะ”จิ๊บจิ๊บได้ยินดังนั้น ก็รีบบินไปหาคุณนกฮุกที่อาศัยอยู่บนต้นไม้ แต่นกฮูกก็ตอบว่า “ฉันจะออกไปข้างนอกตอนกลางคืนเท่านั้น กลางวันฉันมองไม่เห็นทางหรอก แล้วอีกอย่าง ฉันก็รักษาโรคไม่เป็นด้วย”จิ๊บจิ๊บได้ยินดังนั้นก็รู้สึกหมดหวัง หาหมอไปรักษาแอ๊บเปิ้ลไม่ได้ ในใจก็เป็นห่วงแอ๊บเปิ้ลมาก ก็ได้แต่บินกลับไปพอไปถึงต้นไม้ต้นนั้นอีกครั้ง ก็เห็นแอ๊บเปิ้ลกำลังร้องไห้โฮ ๆ ที่ท้องของแอ๊บเปิ้ลทะลุเป็นรูหนึ่งรู จิ๊บจิ๊บก็มองดูด้วยความกังวล เอ๊ะ แปลกจัง ทำไมรูที่ท้องของแอ๊บเปิ้ลค่อยๆ ใหญ่ขึ้นๆ ทันใดนั้น ก็เห็นหนอนเล็กๆตัวหนึ่ง ใส่หมวกแดงคลานเข้าๆ ออกๆ จากท้องแอ๊บเปิ้ล จิ๊บจิ๊บโกรธมาก ด่าเจ้าหนอนว่า “ที่แท้ ก็เป็นแกนี่เอง เจ้าหนอนวายร้าย ที่รังแกแอ๊บเปิ้ล” พูดจบ ก็รีบบินไปจิกเจ้าหนอนวายร้ายตัวนั้น แต่เจ้าหนอนก็ว่องไว รีบหดตัวเข้าไปในรูแอ๊บเปิ้ลอย่างรวดเร็วแอ๊บเปิ้ลปวดท้องจนร้องไม่ออก เสียงร้องยิ่งเบาลงๆจิ๊บจิ๊บก็ยืนอยู่ข้าง ปลอบแอ๊บเปิ้ลไม่หยุด “แอ๊บเปิ้ลจ๋า อดทนหน่อยนะ ถ้าไอ้หนอนตัวนั้นโผล่หัวออกมาเมื่อไหร่ ฉันจะกินมันเลย”จิ๊บจิ๊บ รออยู่ข้างๆอย่างใจจดใจจ่อ ทันใดนั้นก็มีผีเสื้อบินออกมาจากท้องของแอ๊บเปิ้ล บินว่อนไปตามทุ่งดอกไม้ชายเขา จิ๊บจิ๊บยืนตะลึงอยู่ข้าง ๆ ซักครู่ก็คิดออก ที่แท้ก็เป็นเจ้าหนอนตัวอ้วนแปลงกายเป็นผีเสื้อนี่เอง จิ๊บจิ๊บสะบัดปีกบินตามผีเสื้อไปที่ทุ่งดอกไม้ทันทีผีเสื้อแสนสวยเห็นจิ๊บจิ๊บบินไล่มา ก็ตกใจกลัวตะโกนร้องบอกว่า “คุณนกน้อย ดูฉันสิ สวยงามขนาดนี้ ฉันแต่งแต้มสีสันให้ชีวิต อย่ากินฉันเลย”“เชอะ แกทำร้ายแอ๊บเปิ้ลอย่างแสนสาหัส จะสวยขนาดไหนก็ยังเป็นเจ้าหนอนวายร้ายอยู่ดี ” จิ๊บจิ๊บพูดไปพลาง ก็ดิ่งตัวร่อนลง จิกผีเสื้อกลืนลงท้องในทันทีจัดการกับเจ้าผีเสื้อตัวแสบเสร็จ จิ๊บจิ๊บก็บินกลับมา อยากจะมาเยี่ยมดูว่า แอ๊บเปิ้ลหายดีแล้วหรือยัง แต่ว่า พอบินมาถึงก็บินรอบต้นแอ๊บเปิ้ลห้ารอบ แต่หาแอ๊บเปิ้ลไม่เจอ จิ๊บจิ๊บหาอยู่ซักครู่ก็มองเห็นแอ๊บเปิ้ลนอนอยู่บนพื้น แต่แอ๊บเปิ้ลเน่าเสียแล้ว นอนแอ้งแม้งไม่กระดุกกระดิกเลย จิ๊บจิ๊บเศร้าโศกเสียใจมาก ร้องไห้จนน้ำตาหยดลงบนแอ๊บเปิ้ล ทันใดนั้นเอง แอ๊บเปิ้ลเน่าลูกนั้นก็รวบรวมกำลังเฮือกสุดท้ายพูดว่า “คุณนกใจดี ฉันกำลังจะตาย ขอให้คุณนกช่วยเอาเมล็ดในท้องของฉันไปปลูกไว้บนภูเขาด้วยเถิด พวกเขาเป็นลูกของฉัน คุณ…จะ…ต้อง…ดูแล… พวกเขา… ให้ดี…นะ…..”จิ๊บจิ๊บจดจำคำสั่งเสียของแอ๊บเปิ้ลไว้อย่างดี แล้วก็คาบเอาเมล็ดของแอ๊บเปิ้ลไปปลูกบนเนินเขาทีละเมล็ด ๆจิ๊บจิ๊บขอให้คุณลุงวายุพัดเอาดินมากลบ แล้วก็ขอให้คุณยายน้ำฝนรดน้ำลงมา แล้วก็อ้อนวอนคุณตาพระอาทิตย์ให้ความอบอุ่น ไม่นานนัก เมล็ดแอ๊บเปิ้ลบนเนินเขาก็เริ่มออกหน่อ เติบโตเป็นต้นกล้าแอ๊บเปิ้ลต้นเล็ก ๆ ด้วยความดูแลของจิ๊บจิ๊บ บนเนินเขาก็กลายเป็นสวนแอ๊บเปิ้ล แล้วจิ๊บจิ๊บก็ยังเชิญคุณหมอหัวขวานมาฉีดยาป้องกันโรคให้ต้นแอ๊บเปิ้ล และยังขอให้นกฮูกมาเป็นยามรักษาการณ์สวนแอ๊บเปิ้ลอีกด้วยต่อมา ต้นแอ๊บเปิ้ลในสวนก็ออกผลแอ๊บเปิ้ลแดงเต็มต้นไปหมด ลูกแอ๊บเปิ้ลโยกย้ายส่ายหัวหยอกล้อเล่นกับจิ๊บจิ๊บ ส่วนจิ๊บจิ๊บก็เรียกเพื่อนนกทั้งหลายมาเที่ยวในสวน และมาสร้างบ้านเรือนอาศัยอยู่ในสวนแอ๊บเปิ้ล เหล่านกน้อยต่างดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข小燕子吉吉飞了很远很远的路,才在一片光秃秃的土山坡上发现了一棵树,一棵苹果树。吉吉又累,又渴,又饿呀,那么远的路,竟然只有这么一棵树。他落定后,在稀疏的树叶中找了半天,只找到一个红苹果。哎呀,这是多么珍贵的一个苹果呀。这个苹果红红的,在微风中晃来晃去。忽然,小燕子吉吉发现这个苹果在流泪,而且发出轻轻的哭声。“咦?你怎么啦?”小燕子吉吉问红苹果。“我,我肚子痛。哎哟哟,好痛呀!”红苹果痛得直冒汗。小燕子非常着急,他忙说:”红苹果,你等一等,我马上去找啄木鸟医生。”他不顾疲劳,一展翅膀就飞走了。小燕子又飞了很远的路,终于在一片小树林里找到了啄木鸟医生。”啄木鸟医生!啄木鸟医生!红苹果病了,你去给她看看病吧。”啄木鸟正给一棵树看病,他停下来,问了问红苹果的病情,思考了一阵说:”真对不起,红苹果的病太严重了,我已经治不了啦。”小燕子吉吉听了,只好去找住在一棵大树上的猫头鹰。猫头鹰说:”我只能在夜间活动,白天是看不见路的。而且,而且,我也不会治病。”小燕子吉吉很失望,请不到医生,心里又惦念着红苹果,只好扭头飞回去。当他重新落在那棵苹果树上时,发现红苹果正哇哇大哭,她的肚子已经出现了一个小洞。小燕子吉吉焦急地看着。好奇怪哟,红苹果肚子上的洞越来越大,突然,从里面钻出一个头戴红帽子的绿虫子。吉吉非常生气,斥责道:”原来是你这个害虫在欺侮红苹果!”说着就用嘴去啄那虫子。大绿虫又很机灵,一下子又缩回到洞里。红苹果痛得已经没有力气哭了,她的声音越来越小。小燕子吉吉站在旁边不住地安慰她:”红苹果,忍耐一下,只要那大虫子一出来,我就啄死他,吃掉他!”吉吉等呀,等呀。他一直守住这个洞口。忽然从洞口里飞出一只花蝴蝶,一直向远处山坡下的一丛小野花飞去。小燕子吉吉一愣,马上醒悟到,这是大绿虫子变的。于是一抖翅膀,向山坡下追去。花蝴蝶见燕子吉吉追来,惊慌地叫道:”哎呀,我是多么美丽呀,我在点缀生活,你不要吃我呀!”“呸!是你残害苹果姑娘,你再美丽也是个害虫!”吉吉说着,一个俯冲,一口将花蝴蝶吞进肚子里。消灭了花蝴蝶,小燕子吉吉重新飞回来,他想看看红苹果好了没有。可是,他围着苹果树转了五圈儿,也没找到。结果,却在地上发现了她。这唯一的苹果已经烂了,瘫在地上一动不动。小燕子真是悲伤极了,他的眼泪落在烂苹果上。这时,烂苹果强打精神说:”好心的燕子,我就要死了,请你将我肚子里的籽粒种在山坡上。他们是我的孩子,你要精心地照料他们……”小燕子吉吉怀着非常悲痛的心情,按照苹果的吩咐,把苹果肚子里的籽粒一粒一粒地啄出来,然后又一粒一粒地种在山坡上。他请来风伯伯把籽粒用土盖上;他请来雨婆婆给籽粒浇水;他央求太阳公公给大地多些温暖……不久,山坡上的苹果籽粒发芽了,长出了一株一株的小苹果树的幼苗。在小燕子吉吉的精心照料下,苹果树苗越长越高,很快,这里就成了一片苹果园。小燕子吉吉还请来啄木鸟医生为果园防病,请来猫头鹰保卫果园。后来,这片苹果园里的苹果树,棵棵都结满了大大的红苹果。红苹果们都冲小燕子吉吉点头欢笑。吉吉呢,把自己原来的好朋友,各种鸟儿都请来,让他们在这欢乐的的果园里一起生活,过着快快乐乐的日子。ผู้เขียน Yi Ming(ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง)แปลและเรียบเรียง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เมชฌ สอดส่องกฤษ
Posted on November 2, 2020หมูอ้วนขี้โมโห 小猪发脾气 เจ้าหมูอ้วนอู๊ดๆ รู้จักเพื่อนใหม่ที่บ้านคุณยาย มีกระต่าย แกะ แล้วก็ลูกเป็ดน้อย เด็กๆวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน พอจะแยกย้ายกันกลับบ้าน เจ้าหมูอ้วนอู๊ดๆ ก็ชวนเพื่อนๆไปเที่ยวที่บ้านในวันพรุ่งนี้ เพื่อนๆก็ตอบตกลงด้วยความยินดีวันต่อมา กระต่าย แกะ และลูกเป็ดน้อยต่างนัดแนะกัน และก็พากันไปที่บ้านเจ้าหมูอ้วนอู๊ดๆ กำลังจะเคาะประตู ก็ได้ยินเสียงอู๊ด ๆ กำลังร้องไห้โวยวาย “แม่ ๆ แม่จะต้องชดใช้เค้กให้ผมด้วย ไม่ยอม ๆ”“ไม่ดื้อนะลูกนะ เมื่อวานน้องกินเค้กไปแล้ว พรุ่งนี้เดี๋ยวแม่ซื้อให้ใหม่นะ”“ไม่ยอมๆ ๆ ถือดียังไงถึงให้มันกินเค้กของผม ฮือ ๆๆ ไม่ยอมจริงๆด้วย”“แม่ก็ไม่ได้ทำผิดอะไรนี่นา แล้วทำไมลูกต้องโมโหด้วยล่ะ”“ไม่ยอมๆ ก็จะโมโหอ่ะ ถ้าแม่ไม่คืนเค้กให้ผม ผมก็จะร้องไม่หยุดเลย ฮือ ๆ ๆ ” เสียงอู๊ด ๆ ตะโกนร้องโวยวายเสียงดังลั่นไปทั่วป๊อก ๆ ๆ ลูกเป็ดน้อยเคาะประตูอู๊ดๆ ออกมาดูเห็นเพื่อนๆ ก็รีบเช็ดน้ำตา “พวกนายมาตรงเวลาจัง พวกเราออกไปเล่นด้วยกันเถอะ”“คุณแม่หมูครับ สวัสดีครับ สวัสดีค่ะ” เพื่อน ๆ ของอู๊ดๆ ทักทายคุณแม่หมูด้วยความเคารพ แล้วก็รีบบอกกับอู๊ด ๆ ว่า “พวกเรามาบอกลา เด็กที่ไม่เคารพคุณแม่ ก็คงไม่รู้จักเคารพเพื่อนๆด้วยเหมือนกัน นายเล่นไปคนเดียวก็แล้วกัน ” พอพูดจบ เหล่าเพื่อนๆของอู๊ด ๆ ก็จูงมือกัน พากันเดินจากไปอู๊ด ๆ ก็ได้แต่มองหลังเพื่อนๆ เดินจากไป ก้มหน้ารับผิดกับแม่ “แม่ครับ ผมผิดไปแล้วครับ”小猪胖胖在外婆家认识了很多朋友,有小兔、小羊和小鸭。他们玩得可高兴了。分别的时候,小猪胖胖请朋友们明天到他家去玩。他们高兴地答应一定去。第二天,小兔、小羊和小鸭互相约好,一起来到小猪胖胖的家。刚要敲门,忽然听到胖胖正在大吵大闹:”妈妈,你赔我蛋糕!”“好乖乖,昨天你表弟把蛋糕吃了,明天我再给你买。”“不行!不行!你凭什么给他吃!”“妈妈并没错,你不该发脾气。”“就发,就发脾气,你不赔蛋糕,我就闹!哇——哇——”小猪胖胖大哭大闹。笃!笃!笃!小鸭在敲门。小猪见了朋友,忙擦干眼泪说:”你们真准时,咱们在一起玩吧。”“猪妈妈,您好!”朋友们先有礼貌地向猪妈妈打过招呼,然后一齐对小猪胖胖说:”我们是来和你告别的。不尊敬妈妈的孩子,也不会尊重朋友的。你还是自己玩吧。”说完,他们扭过头,手拉手一蹦一跳地走了。小猪胖胖看着朋友们远去的背影,低着头对妈妈说:”妈妈,我错了。”ผู้เขียน Yi Ming(ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง)แปลและเรียบเรียง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เมชฌ สอดส่องกฤษ
Posted on November 2, 2020บัตรอวยพรใบไม้ 小树叶贺卡 ปีใหม่ใกล้มาถึงแล้ว สิงโตจ้าวป่าก็ส่งการ์ดอวยพรให้เพื่อนๆทั้งหลาย แต่ว่า พอจะส่งให้เจ้าแมวเหมียว สิงโตจ้าวป่าก็รู้สึกกลุ้มอกกลุ้มใจอย่างหนัก เพราะว่า เจ้าแมวเหมียวเป็นเพื่อนที่สิงโตจ้าวป่ารักมากที่สุด จะส่งการ์ดอวยพรแบบไหนให้เจ้าแมวเหมียวดีนะสิงโตจ้าวป่าคิดไป คิดมา ทันใดนั้นมันก็คิดถึงต้นอิ๋นซิ่งที่อยู่หน้าบ้าน ต้นอิ๋นซิ่งนี้เป็นต้นไม้ที่สิงโตจ้าวป่าปลูกเองกับมือเลยเชียวนะ เจริญงอกงามยืนต้นใหญ่มานานแล้ว มอบการ์ดอวยพรใบอิ๋นซิ่งก็แล้วกัน พอดีเลย บนต้นไม้ยังมีใบอิ๋นซิ่งอยู่ในหนึ่งยังไม่ร่วงลงมาการ์ดอวยพรรูปใบไม้ สวยเหลือเกินพอคิดได้ สิงโตจ้าวป่าก็วิ่งไปในสวน โอบต้นอิ๋นซิ่งเอาไว้ แล้วก็ออกแรงเขย่าต้นไม้ ใบไม้บนต้นก็ลอยละลิ่วตกลงมาที่พื้นสิงโตจ้าวป่า ก็รีบเก็บใบไม้มาสอดลงไปในซองจดหมาย แล้วก็ส่งให้เจ้าแมวเหมียวเพื่อนรักเดิมที เจ้าแมวเหมียว กับ สิงโตจ้าวป่าเป็นเพื่อนบ้านกัน ต่อมา เจ้าแมวเหมียวย้ายไปอยู่ ณ ที่แสนไกล และก็ไม่เคยพบหน้าสิงโตจ้าวป่าอีกเลย วันนี้ เจ้าแมวเหมียวได้รับการ์ดอวยพรจากสิงโตจ้าวป่า ก็รู้สึกดีใจจนบอกไม่ถูกแต่ว่า เจ้าแมวเหมียวน้อยอีกตัวกลับพูดว่า “การ์ดใบไม้ขาดๆ ของขวัญปีใหม่อะไรกันเนี่ย” พูดไป ก็จะโยนการ์ดใบนั้นทิ้งเจ้าแมวเหมียวรีบตะโกนบอกว่า “อย่าทิ้ง อย่าทิ้ง”แน่นอนเลย นี่เป็นใบอิ๋นซิ่งที่ทั้งเหลือง ทั้งแห้ง บางที่ก็ขาดรุ่งริ่ง แต่ว่า เจ้าแมวประคองเอาไว้ในมือ ดูนี่สิ ดูสิ เหมือนกับถือของมีค่าเลยนะเวลานั้นเอง มีลมโชยพัดมา ใบไม้ก็ถูกลมพัดลอยไปตกอยู่ที่กระถางต้นไม้ที่บนขอบหน้าต่าง น่าแปลกจัง ใบไม้บังเอิญลอยไปปักลงดิน แล้วก็งอกช่อ แตกหน่อเป็นต้นกล้าอิ๋นซิ่งในบัดดลขณะนั้นเอง มีอีกาบินมาพบเข้า มันคิดในใจว่า “นี่จะต้องเป็นต้นไม้วิเศษเป็นแน่” ก็ร้องบอกเจ้าแมวเหมียวว่า “เจ้าแมวเหมียว ขายต้นกล้าไม้นี้ให้ข้าเถิด”เจ้าแมวเหมียวรีบปฏิเสธทันที “ไม่ขาย ๆ ”นานวันเข้า ต้นอิ๋นซิ่งในกระถางเล็ก ๆ ก็โตจนไม่สามารถโตขึ้นได้อีก เจ้าแมวเหมียวก็ย้ายไปปลูกไว้ในสวน ต้นไม้ก็เจริญเติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่อย่างรวดเร็วที่น่าแปลกไปกว่านั้นก็คือ ใบไม้ของต้นอิ๋นซิ่งต้นนี้ ไม่เคยร่วงเลย พอโดนลมพัด ใบไม้ก็ร้องเสียงดัง “กรุ๊ง กริ๊งๆ ” เสียงนี้เหมือนกับเสียงพูดเลย พูดว่าอะไรนะเหรอ ไม่มีใครเข้าใจหรอก มีแต่เจ้าแมวเหมียวตัวเดียว ที่ฟังเข้าใจ新年快到了,大狮子给朋友们都送了贺卡。可是,轮到送小猫咪的时候,大狮子却发了愁,因为,小猫咪是大狮子最好的朋友,该送给小猫咪一张什么样的贺卡呢?大狮子想啊,想啊,忽然,他想到了门前的银杏树。这是大狮子亲手种的,早就长成了大树。对,送小猫咪一片银杏树叶吧。正好,树上还有一片叶子没有落下来呢?小树叶贺卡,多有意思!想到这里,大狮子跑到院里,抱住银杏树,使劲摇啊,摇啊,那片树叶就飘飘悠悠地落下来了。于是,大狮子就把这片小银杏树叶,夹在信里寄给了小猫咪。小猫咪原来和大狮子是邻居,后来,小猫咪做到很远很远的地方去住,就再也没有见到过大狮子。今天,小猫咪收到大狮子寄来的小树叶贺卡,别提多高兴了!可是,小小猫咪却说:”一片破树叶子,这算什么新年礼物!”说着,就要扔出去。小猫咪急忙说:”别扔!别扔!”的确,这片银杏树叶又黄又于,有的地方都破了。可是,小猫咪捧在手里,看呀,看呀,像捧着一件宝贝。这时,一阵风吹来,小树叶一下被刮到窗台上的花盆里。奇怪,小树叶一下插进土里,立刻就长成一棵小银杏树苗。这件事,让正好飞过窗口的老乌鸦看见了。他想:这一定是一棵神树。就说:”小猫咪,把这棵树苗卖给我吧!”小猫咪急忙说:”不卖!不卖!”后来,小银杏树苗在花盆里长不下了,小猫咪就把它移栽到院子里。小银杏树越长越大,很快,就长成了一棵大银杏树。更奇怪的是,这棵大银杏树的叶子从来不落,风儿一吹,银杏树叶儿就发出”丁零丁零”的声音。这声音像是在说话,说的什么?你不懂,我不懂,只有小猫咪听得懂。ผู้เขียน Yi Ming(ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง)แปลและเรียบเรียง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เมชฌ สอดส่องกฤษ
Posted on November 2, 2020บ้านใหม่ของแมวเหมียว 小猫盖的新房子 เจ้าแมวเหมียวจะสร้างบ้านใหม่แล้ว เพื่อนๆ ก็พากันมาช่วย“ฮุย เล ฮุย อ้าว ฮ้า ไฮ้” พี่ช้างเข้าไปในป่า ลากไม้ซุงท่อนใหญ่มาให้“ฟืด ฟืด ฟืด ” น้องแกะกับน้องหมาลาย ช่วยกันเลื่อยไม้เป็นแผ่น ๆ“ป๊อก ๆ ๆ ” เจ้าหมีน้อย กับ เจ้านกน้อยช่วยกันตอกตะปูก่อขึ้นเป็นบ้านหลังสวยงามเพื่อนๆเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ เจ้าแมวลายรู้สึกซึ้งในน้ำใจของเพื่อนๆมาก ก็เลยพูดกับเพื่อนๆว่า “เดี๋ยวรอให้ฉันตกแต่งบ้านเสร็จเรียบร้อย จะเชิญทุกคนมาเป็นแขกนะ”เจ้าแมวเหมียวติดกระดาษสีนมสดทั้วทั้งผนัง ทำให้ห้องสว่างจ้า แล้วก็ติดม่านสีเหลืองขนห่านบนหน้าต่าง ทำให้แสงสว่างในห้องกลายเป็นสีนวลสบายตา บนพื้นก็ปูพรมลวดลายดอกไม้ ว้าว เดินบนพรมสบายจังเลยหลายวันผ่านไป เพื่อนๆก็ถามเจ้าแมวเหมียวว่า “เจ้าเหมียว วันนี้พวกเราไปเป็นแขกบ้านนายได้หรือยังล่ะ”เจ้าเหมียวร้องบอกว่า “ไม่ได้ ๆ ตอนนี้ฝนกำลังตก พวกแกไป ก็ทำบ้านฉันเลอะหมดน่ะสิ”ผ่านไปอีกหลายวัน เพื่อนก็ถามอีกว่า “เจ้าเหมียว วันนี้ฝนไม่ตกแล้ว ไปเที่ยวบ้านนายได้รึยังล่ะ”เจ้าเหมียวร้องบอกว่า “ไม่ได้ ๆ พวกแกไม่เห็นเหรอ ลมพัดกระหน่ำซะขนาดนี้ พวกแกไปก็ทำบ้านฉันเลอะหมดน่ะสิ”ผ่านไปอีกหลายวัน ฝนก็ไม่ตก ลมก็ไม่พัด พระอาทิตย์ส่องแสงเจิดจ้า อากาศแสนอบอุ่น เจ้าแมวก็บอกกับเพื่อนๆว่า “เพื่อนๆทั้งหลาย ขอเชิญมาเที่ยวบ้านฉันได้เลย”เพื่อนๆ ต่างดีใจกันใหญ่ แต่ว่า พี่ช้างคิดไปคิดมา ก็บอกกับเพื่อนๆว่า “บ้านเจ้าเหมียวปูพรม เราเอารองเท้าที่สะอาดๆไปด้วยดีกว่า”ว่าแล้ว เพื่อนๆ ใส่รองเท้าใหม่ บ้างก็ขัดรองเท้าจนสะอาด พากันไปบ้านเจ้าเหมียวด้วยความสนุกสนานรื่นเริงพอไปถึงหน้าบ้านเจ้าเหมียว พี่ช้างก็เปลี่ยนมาสวมรองเท้าสะอาดที่เตรียมมา เพิ่งจะเดินเข้าบ้าน เจ้าเหมียวก็หิ้วน้ำใส่กาละมังเดินมา แล้วบอกว่า “สวมรองเท้าเข้าบ้านก็เหยียบพรมเสียหมด” พี่ช้างก็ถอดรองเท้า ล้างเท้าแล้วค่อยเดินเข้าบ้านก็แล้วกันพี่ช้าง กับน้องหมีก้มลงดูเท้าของตัวเอง แล้วก็มองดูกาละมังล้างหน้านั่น พากันส่ายหัว “ไม่เป็นไรหรอกนะ เราไม่เข้าไปแล้วล่ะ” เจ้าแกะ เจ้าหมาลาย เจ้าไก่โต้ง เห็นพี่ช้างเดินกลับก็พูดว่า “พวกเราก็ไม่เข้าไปแล้วล่ะ”จากนั้นมา ไม่มีใครไปเที่ยวบ้านเจ้าเหมียวอีกเลย ไม่มีใครยอมเล่นกับเจ้าแมวเลย เจ้าแมวก็มีเพียงบ้านใหม่หลังนั้นเป็นเพื่อนเท่านั้น小猫要盖新房子了,朋友们都来帮忙。“哼唷咳哟!”大象到树林里,运来一根又一根圆木。“哧啦哧啦!”山羊和小花狗把圆木锯成一样厚的木板。“丁当丁当!”小熊和小公鸡,一会儿就用木板钉成了一座漂亮的小房子。汗水湿透了朋友们的衣衫,小花猫真感谢大家。他说:”等我把房子装饰好,请大家来做客。”小花猫在墙上贴了一层奶白色壁纸,屋里亮堂多了;小花猫给玻璃窗挂了一层鹅黄色窗帘,屋里光线变得真柔和;小花猫在地上铺了花地毯,呀,走在上面真舒服。好多天过去了,朋友们问小花猫:”小花猫,今天可以到你家做客吗?”小花猫说:”不行,不行,现在正下雨,你们会把新房子弄脏的。”又过了几天,朋友们又说:”小花猫,今天不下雨了,可以到你家做客吗?”小猫说:”不行,不行,你们没看见天正在刮风,你们来会把新房子弄脏的。”又过了几天,不下雨,也不刮风,太阳红红的,天气暖暖的,小猫说:”朋友们,请到我家来做客吧!”朋友们高兴极了,可是,大象想了想,却对朋友们说:”小猫家铺了地毯,我们带着干净鞋子去吧!”于是,有的夹着新鞋,有的包着刚刷过的干净鞋,笑嘻嘻地向小猫家走去。到了小猫家门口,大家都换上了自己带来的干净鞋,刚要进门,小猫却端来一盆水说:”穿鞋会踩坏地毯的。大家脱了鞋,洗洗脚再进去吧!”大象和小熊看看自己的脚,又看看那个小脸盆,摇了摇头:”算了,我们不进去了!”小山羊、小花狗、小公鸡见大象和小熊走了,说:”我们也不进去了!”,从此,谁也再没到小猫家做过客,谁也不愿再找小花猫玩,每天和小猫做伴的,只有他的那座新房子。ผู้เขียน Yi Ming(ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง)แปลและเรียบเรียง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เมชฌ สอดส่องกฤษ
Posted on November 2, 2020ล่อเป็นลูกใครหนอ 小骡子是谁的孩子 ภาพแห่งความสนุกสนานบนผืนหญ้าเขียวขจีวัวน้อยมอๆ สะบัดกีบวิ่งเล่นอยู่ข้างหลังแม่ของมัน แกะน้อยแบ๊ะ ๆ ซุกอยู่ในอ้อมกอดของแม่ดูดนมแม่อยู่ ส่วนพ่อแม่หมูอู๊ดๆ พาเหล่าลูกหมูเล่นเกมส์สนุกสนาน ส่วนเจ้ากระต่ายน้อยกำลังวิ่งประลองความเร็วกับพ่อแม่ของมันล่อตัวน้อย แสนโดดเดี่ยวยืนน้ำตาคลอ มองดูอยู่ข้างๆ กระต่ายน้อยเห็นเข้า ก็เลยวิ่งเข้ามาหาถามว่า “เจ้าล่อน้อยเอ๋ย แกร้องไห้ทำไมเหรอ มาเร็ว มาเล่นด้วยกันนะ”ล่อน้อยก็เอาแต่ก้มหน้าตอบว่า “ไม่ พวกแกมีพ่อ มีแม่วิ่งเล่นด้วยกัน แต่ฉัน….ฮือ ๆ ” พูดยังไม่ทันจบ เจ้าล่อน้อยก็ร้องไห้โฮ..“แล้วพ่อแม่ของแกล่ะ เจ้าล่อน่อย”“ตั้งแต่เกิดมา ฉันไม่เคยรู้เลยว่าพ่อแม่ของฉันเป็นใคร” เจ้าล่อน้อยส่ายหัว เสียงกระดิ่งที่คล้องคออยู่ดังก๊องแก๊งๆเบาๆ“ไปกันเถอะ เราไปตามหาพ่อแม่ของล่อน้อยกัน” กระต่ายน้อยร้องเรียกวัว และแกะเข้ามาร่วมด้วย เพื่อนทั้งสองเมื่อรู้ว่าเจ้าล่อน้อยจะตามหาพ่อแม่ ก็เต็มใจช่วยเหลือ เพื่อนทั้งสี่ก็พากันออกเดินทางด้วยความเบิกบาน เพื่อไปตามหาพ่อแม่ของเจ้าล่อตัวน้อยพอพวกมันเดินทางถึงถนนใหญ่ เจอคุณลุงล่อตัวโตกำลังลากรถเดินมา กระต่ายน้อยรีบวิ่งเข้าไปถาม “คุณลุงล่อครับ เจ้าล่อน้อยนี่ เป็นลูกของลุงรึเปล่าครับ”“ไม่ใช่ ๆ ข้าไม่เคยมีลูกเลย” คุณลุงล่อพูดจบก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วก็ลากรถผ่านกลุ่มเด็ก ๆ ทั้งสี่ไปเพื่อนรักทั้งสี่ พากันเดินต่อไป จนถึงตรอกเล็กๆแห่งหนึ่ง เห็นคุณป้าล่อตัวโต กำลังแบกเสบียงอาหารมาเต็มหลัง แกะน้อยรีบวิ่งเข้าไปถาม “คุณป้าครับ ป้าช่วยหันกลับไปดูหน่อยสิครับว่า เจ้าล่อตัวน้อยนั่น เป็นลูกของป้าหรือเปล่า”คุณป่าล่อหัวเราะเสียงดัง “ฮา ๆ ๆ ล่ออย่างพวกเรา มีลูกไม่ได้หรอกไอ้หนู จะไปมีลูกมาจากไหนกัน”“อะไรนะ” เจ้าแกะน้อยทำตาโต “ล่อ มีลูกไม่ได้อย่างงั้นเหรอ”“แล้ว เจ้าล่อน้อยตัวนี้ล่ะ เป็นลูกใครเหรอ” เจ้ากระต่ายน้อยและเจ้าแกะน้อยถามด้วยความฉงนสงสัยส่วนเจ้าล่อน้อย รู้สึกสิ้นหวัง บอกกับเพื่อนๆด้วยเสียงเศร้าสร้อยว่า “ไม่ต้องหาแล้วล่ะ ฉันไม่มีพ่อ ไม่มีแม่”“พวกเรายังมีพ่อ มีแม่เลย แกก็ต้องมีเหมือนกัน”“ใช่แล้ว เจ้าล่อน้อย อย่าเพิ่งหมดกำลังใจ พวกเราไปตามหากันต่อเถอะนะ”เพื่อนๆตัวน้อยก็พากันเดินฝ่าแสงแดดจ้า เดินทางต่อไป พอเดินผ่านบ่อน้ำแห่งหนึ่ง มีม้าสีแดงตัวหนึ่ง กำลังกินน้ำอยู่ พอเห็นพวกเด็ก ๆ ก็ทักทายอย่างเป็นมิตร “เด็กๆ มาดื่มน้ำกันเร็ว”พวกเด็กๆก็พากันเดินไปที่บ่อน้ำ พอม้าสีแดงเห็นลูกล่อ ก็เดินเข้ามาใกล้ เดินด้อมๆมองๆ แล้วก็ได้ยินเสียงม้าตะโกนลั่น “นี่ไม่ใช่ลูกของฉันหรอกหรือ”เจ้าล่อตัวน้อยถอยออกไปทีละก้าว ๆ “คุณเข้าใจผิดหรือเปล่า ผมไม่ใช่ม้าน้อย ผมเป็นล่อนะฮะ”“ไม่ผิดหรอก ลูกแม่ กระดิ่งที่แขวนอยู่ที่คอเจ้า เป็นของที่แม่แขวนเอาไว้ตอนที่ลูกเกิด ในกระดิ่งมีหินอยู่สามลูก”เพื่อนๆ ต่างร้อนใจ รีบเปิดกระดิ่งออกดู —– ในกระดิ่งก็มีลูกหินอยู่สามลูกจริงๆ พวกเพื่อนๆ ก็พากันกระโดดโลดเต้นดีอกดีใจกันใหญ่ “เจ้าล่อน้อย รีบเรียกแม่สิ รีบเรียกแม่สิ”“แม่ฮะ แม่” เจ้าล่อน้อยวิ่งเข้าสู่อ้อมกอดของแม่ม้า เอาหัวคลอเคลียตัวแม่ม้า แม่ม้าก็ใช้ลิ้นเลียเจ้าล่อน้อยด้วยความโอบอ้อมอารี“แม่ฮะ แล้วพ่อผมล่ะฮะ” ล่อน้อย ถามแม่ม้าด้วยความสงสัย“พ่อเจ้าโม่แป้งอยู่ในห้องโม่โน่นแน่ะ ไป แม่จะพาเจ้าไปหาพ่อ”พอไปถึงห้องโม่แป้ง ก็เห็นลาหนุ่มสีดำกำลังขะมักเขม้นกับการโม่แป้งอยู่“ดูนั่น นั่นล่ะพ่อของเจ้า”“พ่อฮะ พ่อฮะ”อ้อ ที่แท้เจ้าล่อน้อยเป็นลูกของแม่ม้า กับพ่อลา พ่อลา แม่ม้า ลูกล่อพูดคุยกันด้วยความคิดถึง เจ้ากระต่ายน้อย แกะน้อย และวัวน้อยก็ค่อยๆย่องเดินจากไป草地上,一片欢乐的情景。小牛蹶着蹄子在妈妈跟前撒着欢,小羊偎在妈妈怀里吃奶,猪爸爸猪妈妈领着一群小猪在做游戏,小兔和爸爸妈妈一起赛跑。小骡子孤单地站在一旁,悄悄地掉眼泪。小兔见了,蹦到他跟前,问道:”小骡子,你怎么哭了?来,我们一块儿玩吧!”小骡子低下头:”不,你们都有爸爸妈妈和你们玩,可我……”他伤心地哭了起来。“你的爸爸妈妈呢?”“我从来不知道我的爸爸妈妈是谁。”小骡子摇着头,脖子上的铃铛清脆地响着。“走,我们一块儿找去!”小兔唤来了小牛和小羊,他俩一听小骡子要找爸爸妈妈,都非常愿意帮助他。四个小伙伴欢欢喜喜上了路。他们来到大路上,一匹老骡子正拉着大车走过来。小兔忙迎上去:”骡大伯,这小骡子是你的孩子吗?”“不,不!我从来就没有过孩子。”老骡子喘着气,大车从他们身旁过去了。他们走在小道上,见一匹骡子驮着粮食在前边走。小羊忙追上去:”骡大妈,请您转过头去看看,那小骡子是您的孩子吗?”骡大妈哈哈大笑,说:”我们骡子根本就不会生孩子,哪有什么孩子呢?”“什么?”小牛把眼睛瞪得大大的,”骡子不会生孩子?”“那小骡子究竟是谁生的?”小兔和小羊也感到很奇怪。小骡子失望极了,对小伙伴说:”别找了,我没有爸爸妈妈。”“我们都有爸爸妈妈,你也一定会有的。”“对,小骡子,别泄气,我们继续找吧!”他们顶着火辣辣的太阳,又上了路。路过一口井时,一匹棕红色的马正在那里饮水,看见他们,热情地招呼道:”孩子们,请过来喝水!”他们来到井口。棕红色的马一见到小骡子,就走近他,上上下下仔细地打量着,只听她惊喜地叫道:”这不是我的孩子吗?”小骡子连连后退:”你弄错了吧?我不是小马驹儿,我是小骡子。”“没错,孩子。你脖子上的铃铛是我生下你时给你戴上的,铃铛里面有三颗红石子。”性急的小伙伴们争着打开了小铃铛——里面果真有三颗红石子。小伙伴们高兴得又蹦又跳:”小骡子,快叫妈妈!”“妈——妈!”小骡子奔到妈妈身边,用头蹭着妈妈。妈妈也用舌头温柔地舔着小骡子。“妈妈,我爸爸呢?”小骡子抬起头来问道。“你爸爸在磨坊里磨面!走,我带你去见他!”磨坊里,一匹黑色的驴子正埋头拉磨。“瞧,那就是你的爸爸。”“爸——爸!”哦,原来小骡子是马妈妈和驴爸爸生的孩子。看着小骡子一家亲亲热热地说着知心话儿,小兔、小牛和小羊悄悄地走了。ผู้เขียน Yi Ming(ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง)แปลและเรียบเรียง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เมชฌ สอดส่องกฤษ
Posted on November 2, 2020เจ้าข้าวเม่าจอมขี้ขลาด 小卡咪 เจ้าข้าวเม่าเป็นแมวขี้ขลาด บรรดาเพื่อนๆ ต่างเริ่มเรียนจับหนูกันแล้ว แต่เจ้าข้าวเม่ายังไม่กล้าออกจากบ้านตามลำพังเลย“แม่ฮะ อย่าไปไหนนะฮะ ผมกลัว …เมี้ยว..” เสียงเจ้าข้าวเม่าร้องเรียกแม่“ขี้ขลาดอย่างงี้ได้ยังไงล่ะลูก” แม่แมว และเพื่อนต่างพากันเป็นห่วงพี่แมวคิดวีธีดีๆออกแล้ว ก็แอบบอกทุกๆคน ตกกลางคืน ลมพัดเบา ๆ เจ้าข้าวเม่าก็ซุกอยู่ในอกแม่ นอนฟังแม่เล่านิทาน“เจ้าข้าวเม่า เร็วเข้าๆ เมี้ยว” เสียงเพื่อนวิ่งเข้ามาหา แล้วตะโกนเรียก ที่เชิงเขาโน่นมีงานเลี้ยงฉลอง พวกเราไปกันหมดเลย พอพูดจบก็เดินกอดคอตามกันไปเจ้าข้าวเม่าก็รีบวิ่งตามออกไป “รอฉันด้วยสิ เมี้ยว…” แต่เพื่อนๆวิ่งกันไปไกลแล้ว“ลูกไปเองก็แล้วกัน ข้าวเม่า” แม่แมวพูดกับข้าวเม่า “ไม่ต้องกลัวหรอกลูก ตามทางก็อาจจะเจอเพื่อนก็ได้”เจ้าข้าวเม่าอยากไปร่วมงานเลี้ยงมาก ในที่สุดก็ตัดสินใจเดินออกไปด้วยตัวเอง“เมี้ยว…นั่นอ่ะไรน่ะ” เจ้าข้าวเม่าตกใจสุดขีดเมื่อเห็นหิ่งห้องกระพริบแสงไฟวาบๆ “อ๋อ จะต้องเป็นเพื่อนๆแน่ๆเลย” เจ้าข้าวเม่าคิดว่า แสงไฟที่กระพริบอยู่ไกลๆนั่น เป็นแววตาของเพื่อนๆเป็นแน่แท้เจ้าข้าวเม่าไม่กลัวแล้ว ก็รีบวิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว มองซ้ายมองขวา หวังว่าจะเจอเพื่อนๆ“อิอิ แสงวาวๆ ตรงนั้น จะต้องเป็นเพื่อนๆซักคนแอบอยู่ตรงต้นไม้แน่ๆเลย” เจ้าข้าวเม่าหัวเราะด้วยความดีใจ แต่จริงๆแล้ว แสงวาวๆนั้นเป็นแสงจันทร์ที่สะท้อนกับน้ำค้างใสเจ้าข้าวเม่าครุ่นคิดในใจ เพื่อนๆเรามีอยู่ทุกที่ล่ะน่า ออกนอกบ้านคนเดียว ไม่เห็นจะมีอะไรน่ากลัวเลยสักนิด เจ้าข้าวเม่าเดินไปเรื่อย ๆ ก็เดินมาถึงเชิงเขา แต่ว่า ที่นั่นกลับเงียบเชียบ ไม่มีใครสักคน “สงสัยว่าจะมาช้าไปเสียแล้ว” เจ้าข้าวเม่ารู้สึกเสียดายมาก ก็ได้แต่หันหลังกลับเดินคอตกกลับบ้านพอกลับมาถึงบ้าน ก็เห็นเพื่อนๆอยู่กันเต็มบ้านเลย“อ้าว…งานเลี้ยงจัดที่บ้านเหรอ” เจ้าข้าวเม่าตะโกนด้วยความดีใจ พี่แมวมอบช่อดอกไม้แสดงความยินดีให้น้องข้าวเม่า ยินดีที่เจ้าข้าวเม่าเป็นแมวที่กล้าหาญแล้ว卡咪是只胆子很小的猫。他的伙伴们都开始学捕老鼠了,可他晚上还不敢自己出门呢!“妈妈,你陪陪我,我怕!”小卡咪常这样喊着。“这么胆小怎么行呢?”猫妈妈和小伙伴们都很着急。猫哥哥想出一个好办法,悄悄地告诉了大家。晚上,风儿轻轻吹着,小卡咪靠着妈妈身边听她讲故事。“小卡咪,快!快!”伙伴们冲进来,大声喊道,”山那边正开联欢会呢,我们都去!”说完,便结伴走了。小卡咪急了,”等等我呀!”可伙伴们都走远了。“你自己去吧,小卡咪,”妈妈亲切地说,”别害怕,也许路上会碰到伙伴们的。”小卡咪太想去参加联欢会了,他终于自己出门了。“呀,那是什么?”小卡咪被一只萤火虫的亮光吓了一跳,”噢,一定是我的伙伴们。”他想:那一闪一闪的是他们的眼睛。小卡咪不怕了,又向前走。他不停地向四周望去,希望再碰到伙伴们。“嘻,那儿有闪闪的亮光,一定是谁躲在树上呢!”小卡咪笑着说。其实,那是被月亮映亮的树叶上的小露珠。小卡咪想,我的伙伴到处都有,一个人出门没什么可怕的。他走呀走,到了山那边。可那儿冷冷清清的,”一定是来晚了,”小卡咪很遗憾,他只好转身往家里走去。他回到了家,发现家里挤满了小伙伴。“哈,联欢会在家里开呀!”小卡咪高兴地喊着。猫哥哥把一束鲜花送给他,祝贺他变成一只勇敢的小猫。ผู้เขียน Yi Ming(ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง)แปลและเรียบเรียง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เมชฌ สอดส่องกฤษ