Posted on November 2, 2020พระจันทร์ตกปล่องเตาผิง 月亮掉进烟囱里 คืนหนึ่งในฤดูหนาว พระจันทร์ก็หนาวจนทนไม่ไหวเหมือนกัน ทันใดนั้นเอง พระจันทร์ก็มองเห็นปล่องไฟเตาผิงอยู่ไม่ไกลนัก “รีบไปผิงไฟที่นั่นดีกว่า” ครู่เดียวพระจันทร์ก็ลงมานั่งอยู่ที่ข้างๆกับปล่องไฟเตาผิงแต่ว่า ตอนนี้ปล่องไฟไม่มีควันพ่นออกมาเสียแล้ว มีแต่ไออุ่นพุ่งออกมาไม่ขาดพระจันทร์กอดเข้านั่งผิงไฟอยู่ข้างๆ หันซ้ายทีขวาที รู้สึกว่าอุ่นกว่าเมื่อตะกี้มากเลย“ฉันเจอที่ที่แสนจะวิเศษเหลือเกิน” พระจันทร์ดีใจ แต่ไม่ทันระวังก็ตกลงไปในปล่องไฟนั่น ทำเอาคุณย่าที่นั่งผิงไฟอยู่ใจหายใจคว่ำ “โอ้..ไม่ใช่ลูกบอลหิมะตกลงมาเหรอเนี่ย อย่าทำให้ไฟฉันดับล่ะ ข้างนอกยิ่งหนาวๆอยู่ด้วย”คุณย่าเติมฟืนเข้าไปในเตาผิง แล้วก็ลากพัดลมมาพัดอย่างแรง“ฟู่ ๆ ๆ …”ลมพัดไฟที่กำลังจะมอด ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว มีประกายไฟ สะเก็ดไฟกระเด็นกระจุยกระจายไปตามแรงลมพระจันทร์ยังไม่ทันได้รู้สึกตัวว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ถูกลมร้อนพัดสูงขึ้น ๆ จนหลุดออกไปนอกปล่องไฟพระจันทร์ไม่ได้รับอันตรายอะไร แต่เขม่าควันดำๆนั่นทำเอาพระจันทร์เลอะไปทั่งตัวโคลงเคลงๆ พระจันทร์ค่อยๆพาร่างกลมๆ ลอยขึ้น ๆ กลับไปอยู่ที่บ้านตามเดิม冬天的夜晚,月亮也冷得受不了啦:突然,他看见不远的地方有个小烟囱。”快去那儿烤烤火吧!”月亮一下趴到小烟囱边上。这会儿,小烟囱不冒烟了,只冒出暖暖的热气。月亮鼓着圆圆的身子坐在烟囱边上,这边烤烤,那边烤烤。他觉得比刚才暖和多了。“我找到了多么好的地方呀!”月亮正在得意,一不留神,掉进烟囱里,把烤火的老奶奶吓了一跳:”哟,该不是雪球掉下来了吧?可别把火压灭了,外面好冷呢!”老奶奶往灶膛加了一把柴,接着拉起了小风箱。“呼噜噜,呼噜噜……”灶膛里吹起了好大的风,火苗儿、火星儿还有星星的烟都被吹了起来。月亮还没弄明白是怎么回事,就被一股热气托着升呀,升呀,又跑到了烟囱外面。月亮没有受伤,可那烟熏火燎的滋味儿也不好受呀!咕噜噜,咕噜噜!月亮赶紧转着圆圆的身子回家去了。ผู้เขียน Yi Ming(ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง)แปลและเรียบเรียง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เมชฌ สอดส่องกฤษ
Posted on November 2, 2020แมวขโมยปลา 鱼猫 คุณอาเซ่อซ่าคนหนึ่งเป็นคนใจร้อน ทำงานอะไรก็รีบๆทำ เพียงแค่หนึ่งนาทีเขาสามารถล้างถ้วยได้ถึงสิบใบ จานอีกยี่สิบใบ หม้อสามใบเสร็จเรียบร้อย แต่เขาก็ยังบ่นว่าตัวเองยังคล่องแคล่วไม่พออีกต่อมาไม่กี่วัน คุณอาผู้เซ่อซ่ากลับจากทำงานที่ต่างจังหวัด พอเดินเข้าประตูบ้านมาปุ๊บ ก็ใจหายวาบ ตะเกียบในห้องครัวติดกันเป็นท่อน แถมยังมีใบไผ่งอกขึ้นมาอีก ถ้วยก็ล้างไม่สะอาด ข้าวที่ติดอยู่บนถ้วยเริ่มงอกออกมาแล้วเหมือนกัน บนจานยังมีเชื้อราสีเขียวๆ คุณอาเซ่อซ่าเคาะหัวตัวเอง “ฉันนี่ช่างซุ่มซ่ามเสียจริงๆเลย”วันนี้ คุณอาเซ่อซ่ากลับมาจากตีเทนนิสก็ตรงรี่ไปอาบน้ำ แต่พอหมุนก๊อกก็พบว่าน้ำไม่ไหล เขาก็ได้แต่เอาผ้าเช็ดตัวลูบๆหน้าหน่อยก็เข้านอนทั้งเหงื่ออย่างนั้น ก๊อกน้ำในห้องครัวก็ยังเปิดอยู่รุ่งเช้าวันต่อมา คุณอาเซ่อซ่าก็ตื่นขึ้นจะไปทำกับข้าวกินที่ห้องครัว แต่ห้องครัวไปไหนแล้วล่ะ ห้องครัวหายไป แต่ในสวนหลังบ้านมีบ่อน้ำขึ้นมาบ่อหนึ่ง ตรงกลางบ่อยังมีน้ำผุดๆ อยู่เลย เขาคิดในใจว่า “ไม่มีครัวแล้ว แต่ได้สระน้ำมาเพิ่มก็ไม่เลวนี่หว่า” คุณอาเซ่อซ่าชอบกินปลา ก็เลยไปเอาพันธุ์ปลามาปล่อยลงสระน้ำ แต่ก็กลัวมีคนมาขโมยปลา คุณอาเซ่อซ่าจึงไปเอาแมวตัวโตตัวหนึ่งมาจากบ้านญาติให้มาเฝ้าบ่อน้ำแมวตัวนี้ดุมาก พอเห็นใครเข้าใกล้บ่อน้ำก็โก่งหลังพองขนขู่ฟู่ๆ แม้แต่เจ้าหมาข้างบ้านยังไม่กล้าพูดด้วยเลยแต่ว่าคุณอาเซ่อซ่าก็มักจะลืมให้อาหารแมวอยู่บ่อย ๆ ทำเอาเจ้าแมวหิวโซบ่ายวันหนึ่ง เจ้าแมวหิวจนทนไม่ไหวแล้ว ก็เลยเอาหางหย่อนลงไปในบ่อน้ำ ตกปลาขึ้นมาได้ เจ้าแมวเหมียวไม่เพียงแต่เป็นผู้เฝ้าบ่อได้ดี แต่มันก็ยังเป็นนักจับปลาตัวฉกาจ ไม่ทันไร ปลานับสิบตัวก็เข้าไปอยู่ในกระเพาะเจ้าแมวเหมียวผู้หิวโหยซะเล้วทุกวัน ทุกวัน เจ้าแมวก็ได้แต่กินปลาในบ่อน้ำประทังชีวิต กินจนติดอกติดใจหมาเพื่อนบ้านของคุณอาเซ่อซ่า เห็นแล้วก็รู้สึกไม่สบอารมณ์เอามากๆ จึงนำเรื่องนี้ไปฟ้องคุณอาแต่คุณอาเซ่อซ่าก็ไม่ค่อยเชื่อมากนัก ไปหาอวนมาช้อนปลาในบ่อดู ผลสุดท้าย ทำยังไงก็ช้อนขึ้นมาไม่ได้ซักตัว มองไปข้างขอบบ่อเห็นเจ้าแมวแอบงีบหลับอยู่ ก็รู้สึกว่าตัวมันอ้วนท้วนสมบูรณ์กว่าตอนเอามามาก และก็ยังมีท่าทางเหมือนปลาอีก แถมยังมีกลิ่นปลาออกมาจากตัวมันด้วย“ไอ้แมวอ้วน แกขโมยกินปลาหรือเปล่า” คุณอาเซ่อซ่าร้องถาม“เอ่อ คือ ผม ผม ” เจ้าแมวทำตาขาวด้วยความกลัวคุณอาเซ่อซ่ายังไม่ทันรอฟังคำตอบ ก็จับเจ้าแมวอ้วนโยนลงบ่อน้ำเจ้าแมวอ้วนจมลงไปในบ่อ กินน้ำเข้าไปอึกๆ ๆ จนน้ำในบ่อตื้นขึ้นๆ จนห้องครัวโผล่ขึ้นมา “โอ้ว ห้องครัว” คุณอาเซ่อซ่าเบิกตาโพลงมองห้องครัวที่จมอยู่ใต้น้ำ และก็เห็นก๊อกน้ำที่ไม่ได้ปิดยังมีน้ำไหลออกมาตลอดเวลา เขาก็รู้ตัวทันทีว่า ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะลืมปิดน้ำตั้งแต่วันที่ไปตีเทนนิสกลับมานั่นเองพอกินน้ำในบ่อจนแห้ง เจ้าแมวก็กลายเป็นแมวตัวโตอุ้ยอ้าย เดินต้วมเตี้ยมจากไปทีละก้าว ๆ ท่าทางของมันเหมือนกับปลาตัวโตๆ ว่ายน้ำลอยไปลอยมาอยู่ในอากาศ大咧咧叔叔性子急,做事快,他一分钟能洗十只碗,二十只盘子,三口锅。就这,他还嫌自己不够利索。几天后,大咧咧叔叔从外地出差回来,进门一看,吓一跳。原来厨房里的筷子粘在一起,还生出了竹叶。碗里没洗净的米粒发了芽。盘子里长着一尺高的绿毛毛。大咧咧叔叔一拍自己的脑门:”唉,我可真粗心!”这天,大咧咧叔叔打球回来,想洗洗澡,可一拧水龙头,停水了。他只好用毛巾擦了一把脸,带着一身臭汗上床睡觉。厨房里的水龙头一直在开着。第二天早晨,大咧咧叔叔想去厨房做早餐,可厨房呢?厨房失踪了:在院子里出现一个大水池,池中心还有一股水柱高高喷起。他想:没了厨房,得到一个大池塘,也不坏嘛。大咧咧叔叔爱吃鱼,就去弄来许多小鱼苗放进水池。怕别人偷鱼,大咧咧叔叔还从亲戚家抱只大猫,看守鱼池。大猫很凶,见人走近池塘,它就弓背驼腰,两眼瞪出家的哈巴狗,也不敢过来跟它说句话。可大咧咧叔叔常常忘了给大猫饭吃,害得大猫饿肚子。一个下午,大猫饿得实在受不了,就把尾巴放进水池里,钓起鱼来。大猫不但是个好看守,还是个好渔夫。不一会儿工夫,几十条小鱼全进了它的肚子里。每天每天,大猫都靠钓鱼填饱肚子,它吃鱼上了瘾。邻居家的哈巴狗,很看不惯这件事,就向大咧咧叔叔告了状。大咧咧叔叔有点不相信,拿网去池塘捞鱼,结果一条也没捞着。他转眼看看在一边打盹的大猫,它现在变得比来时大多了,还鱼模鱼样的,并且从它身上散发出一股鱼腥味。“大猫,你偷鱼吃了吗?”大咧咧叔叔问。”我,我……”大猫的目光怯怯的。大咧咧叔叔还没等它说完,抓起就把它扔进了池塘。大猫淹得大口大口地喝水,池塘里的水越来越浅。渐渐地厨房露了出来。啊,厨房:大咧咧叔叔瞪大了双眼,他看见厨房里那没拧上的水龙头,还在哗哗地流着水。他恍然大悟,这一切都是那天打球回来没关水龙头造成的!喝光了池水的大猫,变成一只举世无双的巨猫,它正一步一步,艰难地朝远方走去。它的模样,像一条庞大的鱼,在风里游来游去。ผู้เขียน Yi Ming(ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง)แปลและเรียบเรียง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เมชฌ สอดส่องกฤษ
Posted on November 2, 2020จักจั่นท้องป่อง 大肚子蝈蝈 เจ้าจั๊กจั่นท้องป่องคลานอยู่บนดอกแตง ร้องจี๊ด ๆ มันนอนมองท้องตัวเองอย่างภาคภูมิแล้วก็พูดขึ้นมาว่า “ดูนี่สิ ท้องป่องๆของฉันนี่ ใครจะเทียบได้ ข้างในนี้เป็นสติปัญญาของฉันทั้งหมดเลยเชียวนะ”มดแดงไต่ผ่านมา เจ้าจักจั่นรี่ไปขวางทางเอาไว้ไม่ไห้ไปไหน จะเทียบท้องกับมดแดงให้ได้ แต่มดน้อยก็บอกว่า “ข้าไม่แข่งกับแกหรอก ฉันต้องทำงงานน่ะ” เจ้าจักจั่นท้องป่องก็ไม่ว่าอะไร เพราะมันมองเห็นแล้วว่า ท้องของมดแดงใหญ่สู้ตัวเองไม่ได้ แล้วก็ตะโกนไล่หลังไปอย่างภาคภูมิใจว่า “เชอะ ฉันรู้หรอกน่าว่าแกไม่กล้าเทียบกับฉัน”เจ้าจักจั่นท้องป่องก็คลานไปแทะดอกแตงไปพลาง ดื่มน้ำค้างไปพลาง มันไม่ต้องใช้แรงงานอะไรก็ได้อาหารมาอย่างง่ายดาย ดังนั้นวันทั้งวันมันก็เลยเอาแต่ส่ายท้องอวดไปมา ผึ้งน้อยบินมาเกาะ มันก็รี่เข้าไปหา จะเปรียบท้องกับผึ้ง พอมีแมลงปอบินมาเกาะ มันก็รีบไปหาแมลงปอจะเปรียบท้องว่าใครใหญ่กว่ากัน ทั้งผึ้งและแมลงปอล้วนแต่มีธุระ ก็ไม่ได้สนอกสนใจ บินจากไปเจ้าจักจั่นท้องป่องก็โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง ทำท้องป่องไปป่องมา เกลียดเจ้าผึ้งน้อยและเจ้าแมลงปอยิ่งนักทันใดนั้นเอง ก็มีควายตัวหนึ่งเดินต้วมเตี้ยมมา เจ้าจักจั่นท้องป่องเห็นเข้าถึงกับอ้าปากค้าง “โอ้…..ท้องช่างใหญ่เหลือเกิน” ควายตัวโต ทั้งเนื้อทั้งตัวเอ็นขึ้นเป็นลำล่ำสัน ท้องกลมดิก เจ้าจักจั่นไม่มีทางเทียบได้เลย แต่เจ้าจักจั่นเกิดมายอมใครไม่เป็น คอยแต่จะเอาชนะคนอื่นอยู่ร่ำไป ท้องของวัวใหญ่กว่าท้องของจักจั่น“ได้เลย”เจ้าจักจั่นจะลองแข่งกับวัวดูสักตั้ง ว่าแล้วมันก็สูดลมเข้าท้อง เฮือก ๆ ๆ จะต้องเอาลมเข้าท้องให้เต็ม จนกระทั่งท้องมันป่องมาก ๆ แต่ดูยังไงก็ยังใหญ่สู้วัวไม่ได้เสียที “ไม่ได้ ๆ ยังสู้ไม่ได้” แล้วมันก็สูดลมเข้าท้องต่อไป ทีละเฮือก ทีละเฮือก จนท้องป่องเหมือนลูกโป่ง ทั้งกลมทั้งป่อง ทันใดนั้น “ปั้ง” ท้องของเจ้าจักจั่นระเบิด เหมือนกับดอกกะหล่ำเจ้าควายซื่อก็เดินจากไป ไม่รู้เลยว่าเจ้าจักจั่นท้องป่อง แข่งเปรียบท้องกับมัน และก็ไม่รู้เลยว่าเจ้าจักจั่นแข่งเบ่งท้องกับมันจนท้องแตก แต่เจ้าควายชื่อมีงานต้องทำ มันต้องไปไถนาท้ายที่สุด เจ้ามดน้อยก็มาช่วยเจ้าจักจั่น เย็บท้องทีละเข็มๆ เข้าด้วยกัน เจ้าจักจั่นท้องป่องได้รับบทเรียนครั้งนี้หรือเปล่า ก็ต้องรอดูท่าทีของมันต่อไป大肚子蝈蝈趴在倭瓜花上唧唧地叫着。他在得意地欣赏着自己的大肚子:”瞧,我这大肚子,谁比得了,这里面全是智慧呀。”小蚂蚁过来了,他拦住不放,非要和人家比比肚子不可。小蚂蚁说:”我不比肚子,我还要劳动呢。”大肚子蝈蝈并不介意,因为他已经看出来了,小蚂蚁的肚子没有他大,便得意的说:”哼,我就知道你不敢比。”大肚子蝈蝈一边啃着倭瓜花,一边喝着露水,他完全不用劳动就可以得到食物,因此,他整天只知道炫耀自己的肚子。小蜜蜂过来了,他要和小蜜蜂比肚子;小蜻蜓过来了,他要和小蜻蜓比肚子。小蜜蜂和小蜻蜓都有自己事情,不屑一理地飞走了。大肚子蝈蝈气坏了,肚子里一鼓一鼓的,恨透了小蜜蜂和小蜻蜓。忽然一只水牛从那儿路过,嗬,水牛的肚子好大呀,浑身的腱子肉,圆圆的肚子,大肚子蝈蝈可没法相比。可大肚子蝈蝈天生比别人要强,水牛的肚子比他大,那还行?大肚子蝈蝈要跟水牛比试比试,他一口气一口气地往肚子里运气,要用气儿把肚子充实起来。那肚子果然一下一下地鼓起来了。肚子已经好大好大了,可他看看水牛的肚子,不行,还没赶上。于是又继续吸气,一口,一口,那肚子像气球一样又圆又鼓了。突然,”砰”的一下,大肚子蝈蝈的大肚子爆炸了,成了一个烂菜花。水牛一步一步地走了,他不知道大肚子蝈蝈在和他比肚子,更不知道因为和他比肚子,大肚子蝈蝈撑破了肚皮。他有事情,他要耕田的。后来,还是小蚂蚁帮忙,一针一线地帮大肚子蝈蝈把肚子缝起来。大肚子蝈蝈接受教训呢?那还得看他的行动。ผู้เขียน Yi Ming(ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง)แปลและเรียบเรียง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เมชฌ สอดส่องกฤษ
Posted on November 2, 2020ท่อนไม้วิเศษ 一根了不起的木棍 ก๊อก ๆ ๆ เสียงท่อนไม้วิเศษเคาะประตูบ้านของช่างไม้ แล้วพูดกับช่างไม้ว่า “ข้าคือท่อนไม้ที่วิเศษที่สุด ฉันจะทำงานอันยิ่งใหญ่ที่วิเศษที่สุดในโลก ขอท่านได้โปรดทำให้ข้าเปลี่ยนเป็นสิ่งของที่มีอานุภาพ และกล้าแกร่งด้วยเถิด”“แล้วเจ้าคิดว่า สิ่งใดที่มีอานุภาพ และกล้าแกร่งล่ะ” ช่างไม้ร้องถามเจ้าไม้วิเศษ เจ้าไม้วิเศษคิดอยู่ครู่หนึ่งก็ตอบว่า “ทำให้ฉันกลายเป็นปืนก็แล้วกัน”“ได้ ” ว่าแล้ว ช่างไม้ก็เริ่มลงมือ ช่างไม้เลื่อยไม้วิเศษนี้จนมันวาว แล้วสลักไม้ขึ้นรูปให้เป็นไกปืน ด้ามปืน ปล่องปืน แล้วพูดว่า “ตอนนี้ เจ้าได้แปลงร่างเป็นปืนที่มีอานุภาพ และกล้าแกร่งแล้ว” แล้วช่างไม้ก็เอาปืนไปตั้งไว้ที่พื้น เจ้าปืนแสนกลก็กระโดดขาเดียว “ตุเลง ๆ ๆ ” ยืดอกออกจากบ้านช่างไม้ไปอย่างองอาจและเด็ดเดี่ยว ไม่เหลียวหลังกลับมามอง“โป๊ก ๆ ๆ ” เจ้าปืนแสนกลเคาะประตูโรงงานอย่างแรง แล้วพูดกับเหล่าคนงานว่า “ข้าเป็นปืนที่ทรงพลังและกล้าแกร่ง ข้าจะช่วยท่านทำอะไรได้หรือไม่”คนงานมองดูเจ้าปืนแสนกล แล้วส่ายหัว ตอบกลับไปว่า “ข้าใช้เหล็กผลิตเครื่องจักร ข้าใช้ฝ้ายทอผ้า เจ้าช่วยอะไรเราไม่ได้หรอก”ฮึ่ม ที่นี่ก็ใช้ฉันไม่ได้ จะต้องมีสักที่ที่ใช้ฉันได้สิน่า ว่าแล้วเจ้าปืนแสนกลก็กระโดดเหยงๆ ๆ ออกจากโรงงาน กระโดดไปตามถนนหนทาง มองเห็นตำรวจยืนอยู่กลางถนน ก็รีบกระโดดไปหาแล้วพูดกับตำรวจว่า “คุณตำรวจ ข้าคือปืนที่ทรงพลังและกล้าแกร่ง ข้าจะช่วยท่านทำงานใหญ่อะไรได้หรือไม่”คุณตำรวจมองดูเจ้าปืนแสนกล ก็ยิ้มแล้วพูดว่า “ฉันใช้ไฟเขียวไฟแดงควบคุมการจราจร ให้รถทุกคันเดินทางไปถึงจุดหมายด้วยความปลอดภัย นี่คืองานอันยิ่งใหญ่ที่ฉันทำ” เจ้าปืนแสนกล ได้ยินดังนั้นก็บ่นพึมพำ ๆ ว่า “ฉันจะต้องหาที่ที่ใช้ประโยชน์ฉันได้ให้จงได้” ว่าแล้วมันก็กระเหยงๆ ๆ กระโดดต่อไปข้างหน้าเฮ้ ข้าคือปืนที่ทรงพลังและกล้าแกร่ง ท่านต้องการให้ข้าช่วยอะไรมั้ย เสียงเจ้าปืนแสนกลตะโกนถามชาวนาที่อยู่ไกลลิบปลายท้องนา ชาวนาหันหลังกลับมาดูเห็นปืนแสนกล ก็โบกมือไหวๆ ส่ายหัวไปมา “ไม่ใช้ ๆ มีรถไถช่วยเราไถนา มีปุ๋ยช่วยให้ต้นกล้าเรางอกงาม ยังจะต้องให้เจ้าช่วยอะไรอีกล่ะ” พูดจบชาวนาก็ชี้ไปที่ภูเขาสูงที่มองเห็นไกลลิบ แล้วก็ตะโกนบอกเจ้าปืนแสนกลว่า “ที่นั่นมีนายพรานคนหนึ่ง บางทีเค้าอาจจะมีอะไรให้เจ้าช่วยก็ได้นะ”กระโหยง กระเหยงๆ ๆ เจ้าปืนกลกระโดดมุ่งหน้าไปที่ภูเขาลูกนั้น เจ้าปืนแสนกลกระโดดมาตามทางไกลแสนไกล ในที่สุดก็มาถึงหน้าบ้านของนายพราน“นายพราน ๆ ข้ามาแล้ว” เจ้าปืนแสนกลเอาหัวผลักเข้าไปในประตูบ้านของนายพราน แล้วก็ยืนยืดอกอยู่ต่อหน้านายพรานด้วยท่าทางที่น่าเกรงขามสายตาเป็นประกายของนายพรานมองมาที่เจ้าปืนแสนกลตั้งแต่หัวจรดเท้า สักครู่ ก็ถามออกมาว่า “เจ้าจะทำอะไร”“ยิงเสือ ยิงหมาป่าน่ะสิ” เจ้าปืนแสนกลตอบนายพรานด้วยเสียงดังลั่นนายพรานได้ยินก็ถึงกับขมวดคิ้วเข้าหากัน แล้วก็พูดกับเจ้าปืนแสนกลว่า “เสือกับหมาป่ามันก็อยู่ของมันดีๆ แล้วเจ้าจะไปยิงมันทำไมกันเล่า”“ก็ท่านเป็นนายพรานนี่นา”“ข้าไม่ได้เป็นนายพรานแล้ว ”“แล้วท่านเป็นอะไรล่ะ”“ข้าเป็นคนงานเลี้ยงสัตว์ในสวนสัตว์แล้ว” เจ้าปืนได้ยินดังนั้นก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วก็กะโดดหัวคะมำออกมาจากบ้านนานพราน มองตะวันออกที ตะวันตกที เหนือที ใต้ที เพราะไม่รู้จะกระโดดไปทางไหนดีก๊อก ๆ ๆ อยู่มาวันหนึ่ง เสียงเคาะประตูโรงเรียนดังขึ้น เด็ก ๆ พากันไปเปิดประตู ทันใดนั้นก็มีเสียงตะโกนด้วยความตกใจ ว้าย …..ปืน ปืน ปืนฮ่า ๆๆ ในที่สุดฉันก็หาที่ที่ต้องการฉันเจอจนได้ “โหยงๆ เหยงๆ ” เจ้าปืนแสนกลกระโดดเข้าไปข้างใน ยืนอยู่ข้างๆกับกลุ่มเด็กผู้หญิงกลุ่มหนึ่ง แล้วร้องถามว่า “หนูๆชอบฉันมั้ย”เหล่าหนูน้อยเบิกตาโต แล้วตะโกนเป็นเสียงเดียวกันว่า “พวกเราไม่ชอบหรอก”เจ้าปืนแสนกลร้องถามกลับไปว่า “แล้วพวกเจ้าชอบอะไรรึ”“ชอบเต้นรำ” เสียงหนูๆแสนหวานเหมือนเสียงเพลงอันไพเราะ โบยบินไปมาในสวนสนุก“แล้วพวกเจ้าล่ะ ชอบข้ามั้ย” เจ้าปืนแสนกลถามเด็กผู้ชายที่มุงดูอยู่รอบๆด้วยเสียงอ่อย ๆ“ชอบสิ” เด็กผู้ชายกลุ่มนั้นตอบพร้อมกัน แต่เจ้าปืนแสนกลยังไม่ทันได้ดีใจ พวกเด็กผู้ชายก็พูดต่อไปอีกว่า “แต่พวกเราชอบเตะบอลมากที่สุด”“โฮ…ๆ ๆ ” เสียงเจ้าปืนแสนกลร้องไห้โฮออกมาด้วยความผิดหวัง ล้มลงกับพื้นนอนแน่นิ่งอยู่อย่างนั้น“ฮือ ๆ ๆ” เด็กผู้หญิงจิตใจอ่อนโยน น้ำตาคลอ ร้องไห้ไปพร้อมๆกับเจ้าปืนแสนกลด้วยความสงสาร ทำเอาบรรดาเด็กชายเดือดร้อนกันใหญ่ บางคนก็ปิดหู บางคนก็เกาหัว ไม่รู้ว่าจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไรดีเด็กชายคนหนึ่งมองไปที่สนามเด็กเล่นโล่งๆ ไม่มีต้นไม้ ก็เกิดความคิดว่า “ถ้าเจ้าปืนแสนกลเปลี่ยนเป็นต้นไม้ได้ก็ดีสินะ”“จริงด้วย แล้วยังออกดอกไม้เยอะแยะได้ด้วยนะ” เด็กหญิงหยุดร้องแล้วก็ตอบด้วยเสียงร่าเริง“จริงด้วยล่ะ แล้วยังมีผลไม้ด้วยนะ” เด็กหญิงอีกคนหยุดร้องแล้วก็ตอบด้วยเสียงแจ๋วเจ้าปืนแสนกลได้ยินดังนั้นก็กระโดดลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว แล้วก็ปักตัวเองลงไปในโคลน ตะโกนหัวเราะชอบใจว่า “ถ้างั้น ฉันแปลงร่างเป็นต้นไม้ใหญ่ก็แล้วกัน”สักพักหนึ่ง ที่กระบอกปืนก็มีกิ่งไม้งอกขึ้นมา บนกิ่งไม้มีใบไม้งอกขึ้นมา แล้วก็ออกดอกบานสะพรั่ง ไม่ทันไร ดอกไม้ก็ร่วงโรยกลายเป็นผลไม้เต็มต้น เด็กๆพากันเต้นรำเริงร่าอยู่ใต้ร่มไม้ เตะบอล พอวิ่งเล่นเหนื่อยแล้วก็พากันมานั่งพักที่ใต้ร่มไม้ กินผลไม้ที่หล่นลงมาจากต้นไม้ตอนนี้ฉันคือต้นไม้ที่ทรงพลังและกล้าแกร่ง กำลังทำเรื่องที่มีคุณค่า แปลงร่างจากปืนมาเป็นต้นไม้ เห็นเด็กๆดีอกดีใจมีความสุขอย่างนี้ เจ้าปืนแสนกลพูดอย่างดีอกดีใจ แต่คำพูดของมันก็ถูกคุณป้าพายุพัดพาจากไป เด็กๆที่นั่งเล่นอยู่ใต้ต้นไม้ก็ไม่มีใครได้ยินเสียงนั้นเลย“通通通!”一根了不起的木棍,敲开了老木匠家的门,对老木匠说:”我是一根了不起的木棍,我要在世界上干一番了不起的大事,求求你,把我做成一件挺威风、最神气的东西吧!”“你认为什么东西挺威风、最神气呢?”老木匠问这根了不起的木棍。了不起的木棍想了想,说:”把我做成一杆枪吧。”“好。”老木匠就动起手来。他把这根了不起的木棍刨光,又在它的身上刻出了枪栓和扳机:”现在你已经是挺威风、最神气的一杆枪啦。”老木匠把已变成了枪的木棍放在地上。变成了枪的木棍挺威风地昂起头,很神气地挺着胸,用一只脚在地上跳着,然后”笃笃笃”头也不回地出门去了。“嘭嘭嘭”枪用很大的声音敲开了工厂的大门,对工人说:”我是挺威风、最神气的枪,我能帮你做点什么吗?”工人看着枪,摇摇头说:”我用钢铁造机器,我用棉花织布,你帮不了我的忙。”“哼,你这里用不上我,总有用得上我的地方。”枪又”笃笃笃”地跳出工厂大门,来到大街上,看见有一个警察站在那儿,它跳上前去说:”警察先生,我是挺威风、最神气的枪,我能帮你于一番大事业。”警察看看枪,笑着说:”我用红绿灯指挥车辆来往,让每一辆车都平安地到达它们要去的地方,这就是我干的大事业。””我能找到用得着我的地方的。”枪又用一只脚”笃笃笃”地向前跳去。“喂,我是一杆挺威风、最神气的枪,你需要我帮忙吗?”离老远,枪看到一个农民,就大声地对他说。农民回头看看,来的竟是一杆枪。他连连地摆摆手又摇摇头。”不用不用。有拖拉机帮我耕地,有肥料帮助苗儿长大,还要你帮什么忙呢?”农民用手指指远方的高山,告诉枪说,”那里有一位猎人,或许他需要你干点什么。”“笃笃笃!”枪就向高山跳去。枪走了许多许多路,才来到猎入家的门口。“猎人,猎人,我来啦!”枪一头撞进了猎人家的门,威风凛凛地站在猎人面前。猎人的眼睛里放出了光芒,他上上下下打量着这杆枪,好一会儿,突然问它:”你要我干什么呢?”“打老虎,打狼呀。”枪用很响的声音回答。猎入忽然皱了一下眉头,说:”老虎和狼都生活得好好的,我为什么要去打它们呢。”“因为你是猎人呀。”“我已经不是猎人了。”“那你当什么了呢?”“我已经当动物园的饲养员了。”,”唉!”枪叹了一口气,”啪嗒”一个筋斗,从猎人家翻了出来。它看看东,看看西,看看南,看看北,不知到哪儿去才好?“咚咚咚!”有一天,幼儿园的门突然响起来,小朋友们拉开门一看,都惊叫起来:”枪!枪!枪!”“哈哈哈,我终于找到地方啦。”枪”笃”地跳进门,大声问站在它身边的一群小姑娘,”你们喜欢我吗?”小姑娘们忽闪着大大的眼睛,齐声回答:”可我们不喜欢。”枪接着又问:”你们喜欢什么呢?”“喜欢跳舞。”小姑娘的声音像一支甜甜的歌,在幼儿园上空飞来飞去。“那么你们呢,喜欢我吗?”枪的声音小多了,它问围着自己身边的一群男孩。“喜欢!”男孩子们齐声回答,但不等枪高兴得跳起来,男孩子们又齐声地说,”可我们最喜欢踢球。”“哇——”枪失望地大哭起来,而且倒在地上再也起不来了。“呜呜呜!”小姑娘的心肠是最软的,眼眶里的泪水也贮藏得最多,她们跟着枪哭了起来。这可把男孩子们急坏了。有的挖耳朵,有的抓头皮,不知道怎样来收拾这个局回。“它要是能变成一棵树就好了。”一个男孩子看看自己的操场里没有一棵树,这样说。“还要开许多许多花!”一个小站娘停住了哭。“还要结许多许多果子!”又一个小姑娘停住了哭。枪突然从地上跳起来,用力向泥土里一插,高兴地说:”那我就变成一棵树吧!”一忽儿,枪杆上长出了枝丫,枝丫上长出了许多许多树叶,又开出了许多许多花朵。又一会儿,花朵又结成了又大又红的果子。幼儿园的小朋友们就在树底下跳舞,踢球。他们跳累了,踢累了,团团地坐在树底下,吃着树上掉下来的果子。“我现在是一棵挺威风、最神气的树,正在干一番了起的大事业。”由枪变成的树,看到孩子们这样高兴,开地说。不过,它的话马上被风婆婆带走了。所以,树底的孩子谁也没有听到。ผู้เขียน Yi Ming(ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง)แปลและเรียบเรียง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เมชฌ สอดส่องกฤษ
Posted on November 2, 2020เรื่องของหนูน้อยตัวหนึ่ง 一只小老鼠 หนูน้อยตัวหนึ่งค่อยๆคลานออกมาจากรูอย่างกล้าๆกลัวๆ มองไปรอบ ๆ ทั่วทิศทาง ดูว่ามีแมวหรือศัตรูตัวอื่นๆอยู่หรือเปล่าแต่ทันใดนั้น มันก็ต้องตกใจสุดขีด อยู่ข้างๆตัวนี่เอง ไอ้เจ้าตัวขมุกขมัวหมอบอยู่ข้างๆแมวเหรอ หรือว่า จิ้งจอก หรือว่านกฮูก เห็นดังนั้น เจ้าหนูน้อยก็ค่อยๆหดตัวเข้าไปในรู แต่ก็หนีไม่พ้น เจ้าตัวดำนั่นก็ตามเข้ามาในรูติดๆ เหมือนกันเจ้าหนูน้อยก็ค่อยๆยื่นปากออกมาจากรู ค่อยๆโผล่หัวออกมาครึ่งหนึ่ง แล้วก็ค่อยๆโผล่ตาเล็กๆสองตาออกมาดู มองซ้ายที มองขวาที ไม่เห็นจะมีอะไรสักอย่าง เฮ้อ…ที่แท้ก็ตกใจกลัวไปเองคราวนี้เจ้าหนูน้อยเดินออกจากรูอย่างมั่นอกมั่นใจ โอ้…ไอ้ตัวดำขมุกขมัวนั่นอีกแล้ว แต่…ช้าก่อน คราวนี้จะต้องดูให้ชัดๆว่าเป็นอะไรกันแน่ เจ้าหนูน้อยมอง ไอ้ตัวดำนั้นก็มอง เจ้าหนูขยับ ไอ้ตัวดำนั้นก็ขยับตาม เหมือนกับเงาของตัวเองเลยเอ๊ะ…มันเป็นเงาของเราเองอย่างงั้นหรือ “ขี้ขลาดเหมือนหนู” เป็นคำพังเพยที่คนนำมาเปรียบเปรยกับคนที่ขี้ขลาดตาขาว ยิ่งเป็นเจ้าหนูน้อยจอมขี้ขลาดตัวนี้ด้วยนี้แล้ว ก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย มันต้องไม่เชื่ออะไรง่ายๆเป็นแน่ มันนอนดูยืนดู ไม่ผิดแน่ เป็นเงาจริงๆด้วย และมันก็พบว่า เงาที่นอนหมอบอยู่กับพื้น ตัวใหญ่กว่าก้อนหินที่อยู่ข้างๆนั้นเสียอีกว่ะ ฮ่า ๆ ๆ ที่แท้ฉันก็ตัวใหญ่โตมหึมาเหมือนกันนี่นา เจ้าหนูน้อยกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจราวกับพบดินแดนแห่งใหม่ก็ไม่ปานมันครุ่นคิดถึงแมวที่มาไล่จับมันในช่วงสองสามวันมานี้ เมื่อมันกระโดดหนีกรงเล็บของแมวเข้าไปหลบอยู่ในรูแล้วก็แอบหันกลับมามอง เจ้าหนูน้อยก็พบว่า เจ้าแมวที่มาจับมันตัวเล็กกว่าก้อนหินตั้งครึ่งหนึ่งที่แท้ฉันตัวใหญ่กว่าแมวเสียอีก เจ้าหนูน้อยยิ่งคิดยิ่งลำพองในใจ ยิ่งดูยิ่งภูมิใจ และก็ยิ่งมั่นอกมั่นใจ ครั้งหน้า ถ้าแกมาอีก ฉันจะงับหัวแกให้แหลกเลยเชียว แต่ยังไม่ทันที่มันจะตัดสินใจกินเจ้าแมวเหมียว ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น มันก็ร่วงลงไปอยู่ในปากใหญ่ๆ เสียแล้ว มองเห็นฟันอันแหลมคมเหมือนกับเสาเหล็กยังไงยังงั้น แล้วก็ …ลิ้นสีแดงเลือด….เฮ้ย….ปากแมวนี่นา ….เจ้าหนูพอรู้ความจริงเข้าว่ามันกำลังอยู่ในปากของแมว ก็ไม่ทันการซะแล้ว一只小老鼠,提心吊胆地从洞里爬出来,向四周瞧瞧:有没有猫和其他的敌人?突然,他吓了一跳,就在自己的身边,蹲伏着一个黑乎乎的家伙。“猫?黄鼠狼?或者猫头鹰?”他把身子的大半部缩进洞里,这徉,即使对方外上来,逃回洞里也快。小老鼠先把嘴巴伸出来,又把半个头伸出来,再把两只眼睛露出来,东看西看,什么也没有。哈,完全是自己吓自己。他又大模大样地爬出洞来。啊,又是一个黑乎乎的家伙。慢,这回倒要看看仔细,这家伙到底是什么?他看,黑家伙也看;他动,黑家伙也动。好像是自己的影子。“难道它真是我的影子?””胆小如鼠”是世界上最厉害的人类讽刺他们当中胆小的一句名言,更何况这只小老鼠是鼠辈中胆子最小的,他当然不会轻易相信一个偶然发现的东西。他横看竖看,一点不错,真是自己的影子。突然他发现,他躺在地上的影子竟比旁边那块石头还要大。“啊哈哈,原来我也是这么个庞然大物呀!”小老鼠像发现了新大陆似的高跳起来。他想起前几天,一只猫来追捕自己,当他逃出猫爪,躲进洞里,然后又回过头来向外看时,追他的那只猫也只不过半块石头那么大。,“原来我比猫还大!”小老鼠越看越得意,越看越自豪,越看信心越足,”下次那只猫再来时,我一定要一口咬碎他的头,然后……”就在小老鼠下决心要吃掉猫的时候,不知怎么一回事,他已经落到了一张巨大的嘴巴里,那些尖利的牙齿像钢做的柱子,还有那血红的舌头……“啊,猫的嘴巴!”当小老鼠发现真相时,已经来不及了。ผู้เขียน Yi Ming(ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง)แปลและเรียบเรียง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เมชฌ สอดส่องกฤษ
Posted on November 2, 2020แมวป่าซื้อตู้เย็นใหม่ 野猫买了大冰箱 เจ้าแมวป่าซื้อตู้เย็นใหม่มาหลังหนึ่ง เป็นตู้เย็นแบบที่ใหญ่ที่สุด ทาสีเขียวอ่อนๆ มีชั้นบนชั้นล่างหลายๆชั้น ใส่ของได้เยอะแยะมากมายเจ้าแมวป่าซื้อปลา 5000 กรัม ยัดใส่เข้าไปในตู้เย็นจนเต็ม เอาอะไรมาแช่อีกดีนะ เจ้าแมวป่าคิดไปคิดมา ก็เอาของในบ้านที่แช่ตู้เย็นได้เอามายัดใส่ตู้เย็นจนแน่นในหมู่บ้านนี้ ฉันซื้อตู้เย็นเป็นคนแรกเลยเชียวล่ะ เจ้าแมวป่าคิดอย่างภาคภูมิใจ ฉันจะต้องให้ทุกคนรู้ว่าฉันซื้อตู้เย็นว่าแล้ว เจ้าแมวป่าก็ตัดสินใจย้ายตู้เย็นออกไปตั้งไว้ที่ประตูหน้าบ้าน แล้วก็ยืนพิงตู้เย็นไม่ห่างแม้แต่ก้าวเดียว “ถ้าไม่ทำแบบนี้ ใครจะรู้ว่าฉันซื้อตู้เย็นล่ะ” เจ้าแมวป่าคิดอยู่ในใจปกติ แถวนี้จะมีคนเดินผ่านไปผ่านมาไม่ขาดสาย แต่ทำไมวันนี้ถึงไม่มีใครผ่านมาเลยสักคนนะ เจ้าแมวป่าร้อนรนมากในที่สุด ก็มีเจ้าแมวลายเดินผ่านมา เจ้าแมวลายก็เอาแต่ก้มหน้าก้มตาเดินดุ่มๆอย่างรีบร้อน ไม่ได้หันมามองตู้เย็นเลยสักนิด เจ้าแมวป่าเห็นดังนั้นก็ทนไม่ได้ ยื่นมือไปเรียกเจ้าแมวลาย“เฮ้ย พรรคพวก”“อุ๊ย..” เจ้าแมวลายอุทานด้วยความตกใจ“มองมาทางนี้หน่อย ฉันซื้อตู้เย็นมาใหม่ด้วยล่ะ นี่เป็นเครื่องแรกของหมู่บ้านเราเลยเชียวนะเนี่ย” เจ้าแมวป่าร้องอวดอย่างภาคภูมิใจ“ตู้เย็นเอาไว้ทำอะไรเหรอ ” เจ้าแมวลายมองดูไอ้เจ้าของที่ไม่เคยเห็นมาก่อนด้วยความฉงน“แกนี่ช่างซื่อบื้อจริงๆเลย ตู้เย็นก็เอาไว้แช่ของน่ะสิ มีตู้เย็นแล้ว ก็จะมีปลาสดให้กินได้ทุกเวลาเลยนะ” พูดจบเจ้าแมวป่าก็เปิดประตูตู้เย็น หยิบเอาปลาออกมาหนึ่งตัว แล้วก็แทะปลาจุ๊บจั๊บๆ ราวกับว่าไม่เคยกินปลาที่สดใหม่ขนาดนี้มาก่อนในชีวิตเจ้าแมวลายยืนน้ำลายหก เช็ดน้ำลายมองดูอยู่ใกล้ๆ อย่างน่าสงสาร เจ้าแมวป่าอดสงสารไม่ได้ ก็เลยหยิบเอาปลาออกมาจากตู้เย็นอีกหนึ่งตัว “เอ้า เจ้าแมวลาย แกลองชิมดูสิ”“อื้มหือ อร่อยๆ ๆ ก็คงมีแต่คนที่มีความรู้อย่างแกนี่ล่ะ ถึงจะคู่ควรได้ใช้ตู้เย็น” เจ้าแมวลายพูดประจบประแจงเจ้าแมวลายกินอิ่ม เรอเฮือกหนึ่งแล้วก็เดินจากไป เจ้าแมวป่ารู้สึกเบิกบานใจมาก ๆ “อืม…ยังไงก็มีคนรู้แล้วล่ะว่า ฉันมีตู้เย็นแล้ว”สักครู่ ก็มีเจ้าแมวขาวเดินผ่านมา“เฮ้ย…ดูนี่สิ ฉันซื้อตู้เย็นใหญ่มานะ ” เจ้าแมวป่า หง่าว ๆ อวดเพื่อนเสียงดังลั่น“ตู้เย็นเหรอ” เจ้าแมวขาวเดินมา แล้วก็ลูบๆคลำๆ ตู้เย็น แล้วก็พูดอย่างผู้ชำนาญว่า “อ๋อ..ฉันรู้จักของสิ่งนี้ดี”“อ้า…ในที่สุดก็มีคนรู้จักจนได้ นี่เป็นของที่วิเศษที่สุดเลยเชียวนะ” เจ้าแมวป่าเปิดประตูตู้เย็นออกแล้วก็ร้องอวดเจ้าแมวขาวว่า “ดูนี่สิ ปลาสดเยอะแยะเชียวล่ะ ต่อไปนี้ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องกินปลาแล้วล่ะนะ”เจ้าแมวขาวตาลุกวาวเมื่อเห็นปลาที่กองอยู่เต็มตู้เย็น มีแต่ของดีๆทั้งนั้น “อืม…ปลาแช่แข็ง….รสชาดเป็นยังไงเหรอ น่าจะไม่ค่อยเหมือนเดิมนะ” เจ้าแมวขาวทำตาเจ้าเล่ห์ แล้วก็ยื่นจมูกไปดมปลาในตู้เย็น “จะสดหรือไม่สด ฉันได้ชิมดูสักหน่อยก็รู้แล้วล่ะ”“ก็ต้องสดอยู่แล้ว ” เจ้าแมวป่าหยิบปลาออกมาให้เจ้าแมวขาวชิม“รดชาดเป็นไงบ้าง” เจ้าแมวป่ายืนจ้องใจจดใจจ่อรอคำตอบรดชาดก็…..ไม่เลวนะ ตู้เย็นนี่ดีจริงๆเลยนะ “เจ้าแมวขาวยืนยันหนักแน่น”เจ้าแมวป่าถอนหายใจเฮือกด้วยความโล่งใจไม่นานก็มีคนเดินผ่านไปผ่านมาเยอะขึ้นเรื่อยๆ ต่างพากันมามุงดูตู้เย็นใหม่ของเจ้าแมวป่า เจ้าแมวป่าก็เรียกให้ทุกคนมาดูตู้เย็นด้วยความดีอกดีใจ พลางแนะนำข้อดีของตู้เย็น พลางหยิบปลาออกมาจากตู้เย็นให้ทุกคนได้ชิมพลบค่ำแล้ว เจ้าแมวป่าก็เลื่อนตู้เย็นกลับเข้าบ้านตู้เย็นที่เต็มแน่นไปด้วยปลาสด ตอนนี้โล่งไม่เหลืออะไรเลยสักอย่าง “แม้จะเหนื่อยหน่อย แต่ให้ทุกคนได้เห็นตู้เย็นของฉัน ก็คุ้มค่านะ” เจ้าแมวป่าคิดอยู่ในใจทันใดนั้น ก็มีเสียงเอะอะมาจากหน้าประตูบ้าน เจ้าแมวป่าเปิดประตูออกดูถึงกับตกตะลึง แมวในหมู่บ้านทั้งผู้เฒ่าผู้แก่ ลูกเล็กเด็กแดงยืนต่อแถวยาวอยู่หน้าประตูบ้าน“มีอะไรกันน่ะ” เจ้าแมวป่าร้องถาม“พวกเราอยากลองชิมปลาสดๆ ในตู้เย็นดูน่ะ”“ใช่ๆ ยังไม่ได้กินข้าวเย็นเลย หิวจะตายอยู่แล้ว”แมวทั้งหลาย พากันร้องเหมียวๆ ๆ เจี๊ยวจ๊าวไปหมดเจ้าแมวป่าก็รู้สึกอ่อนล้าขึ้นมาทันที野猫买了一个大冰箱。冰箱是最大的那种,涂着淡绿的漆,上上下下有好几层,能放好多好多的东西。野猫买来5千克鱼塞进冰箱里。”再冰点什么呢?”野猫想了想,又把家里所有能冰的东西都装了进去。大冰箱一下子塞得满满的。“买冰箱我在村里可是头一个呀,”野猫得意地想,”我得让大家都知道我买了一个大冰箱!”野猫决定把大冰箱搬出去,放在门口正对着马路的地方。野猫紧靠着大冰箱,一步也不离开。”不这样谁会知道这是我的冰箱呢!”野猫想。平时,这里来来往往的总不断人,可今天总也不见人来,野猫等得好心急呀!终于,路口走来一只花猫。花猫只顾匆勿忙忙地赶路,根本就没朝冰箱看。野猫忍不住伸长脖子大叫起来:“嘿,伙计!”“啊?!”花猫吓了一大跳。“往这儿瞧:我买了个大冰箱!这在我们村可是头一个呀!”野猫说。“冰箱?能做什么?”花猫奇怪地打量着这个从未见过的玩艺儿。“你真傻:冰箱能冰东西呀:有了它,随时都能吃到新鲜鱼呢!”野猫拉开冰箱拎出一条鱼。他呱唧呱唧啃着冰鱼,好像这辈子都没吃过这么新鲜的鱼。花猫擦了擦淌到嘴边的口水,有点难为情。野猫有点不忍心了,又从冰箱里拎出一条冰鱼:”花猫,请尝尝鲜吧!”“呀,好吃!只有像您这样有知识的人才配用冰箱呢!”花猫讨好地说。花猫打着饱嗝走了,野猫也很开心,”嗯,总算有人知道我有冰箱啦!”没多久,又来了一只白猫。“嘿,瞧呀!我买了个大冰箱!”野猫又大叫起来。“冰箱?”白猫走过来东摸摸西瞧瞧,然后挺内行地说:”啊,我知道这东西。”“哈,终于有个识货的啦!这可是个最最棒的东西呢!”野猫把冰箱门拉开,对白猫说,”瞧,能冰多少鲜鱼呀,吃鱼不用愁呢!”看到冰箱里塞得满满的,全是好东西,白猫的眼睛都发亮了:”唔,冰鱼……味道怎样?相差些吧?”白猫胶着眼,使劲吸了吸鼻子,”是不是新鲜,我一尝就知道!”“肯定新鲜的!”野猫又拎出一条鱼送给了白猫。“味道怎样?”野猫盯着白猫的嘴巴,很紧张地问。“味道嘛……不错的,冰箱是个好东西呀!”白猫很肯定地说。野猫松了一口气。走过这儿的人越来越多了,大家都围过来看野猫买的大冰箱。野猫热情很高地请大家看冰箱,介绍冰箱的用处,然后弄条鱼或者别的什么给人家尝尝。天黑的时候,野猫把大冰箱搬回了家里。白天满满的冰箱已经空空荡荡了。”虽然有点累,可别人都说我的大冰箱好呢,还是值得的!”野猫这么想。突然,门外传来一阵吵闹声。野猫开开门愣住了:野猫村的老猫带着一家老小在他的门口排起了长长的队伍。“出什么事了?”野猫问。“我们还想尝尝冰箱里的鲜鱼!”“是呀,是呀!””晚饭没吃,真饿呀!”小猫们七嘴八舌地说。野猫突然觉得很累很累。ผู้เขียน Yi Ming(ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง)แปลและเรียบเรียง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เมชฌ สอดส่องกฤษ
Posted on November 2, 2020แกต้องชดใช้ 要你赔 ดึงให้ตึงๆ พวกมันกำลังเล่นชักคะเย่อกันอยู่ ข้างหลังช้างเป็นม้าขาว ข้างหลังม้าขาวเป็นวัว ข้างหลังวัวเป็นเจ้าลาตัวดำใช้แรงดึงมากเกินไป “ผึง” พวกมันดึงเชือกจนขาด พากันล้มหกคะเมนตีลังกาช้างตัวโตทำม้าเลอะไปทั้งตัว ม้าร้องลั่นบอกช้างว่า “แกต้องชดใช้”ม้าขาวถีบวัวจนเจ็บไปหมด วัวพูดกับม้าว่า “แกต้องชดใช้” ส่วนวัวก็ครูดไปกับตัวลา จนขนร่วง เจ้าลาดำก็พูดกับวัวว่า “แกก็ต้องชดใช้”ชดใช้อย่างไรกันล่ะช้างพูดกับม้าว่า “ เอาโคลนบนกีบแก มาถูที่ฉันก็แล้วกัน”ม้าพูดกับวัวว่า “แกก็ถีบฉันคืนก็แล้วกัน”วัวก็พูดกับลาว่า “แกก็ถอนขนฉันก็แล้วกัน ถ้าถอนไม่ออก เดี๋ยวฉันถอนให้เองก็ได้”ทันใดนั้นเอง พวกมันก็ได้ยินเสียงแว่วเบาๆมาจากเท้าของลาว่า “แล้วฉันจะหาใครมาชดใช้ล่ะ”มองลงไป เป็นหอยทากตัวน้อย เปลือกของมันถูกเหยียบจนแตกเป็นเสี่ยง ๆเจ้าลาดำรีบพูดกับหอยทากว่า “ที่ฉันเหยียบแกก็เพราะว่าวัวมาชนฉัน”เจ้าวัวก็โทษเจ้าม้าทันควัน ม้าก็โทษช้าง ช้างก็โทษเชือกหอยทากถอนหายใจเฮือกใหญ่ ว่า “อย่าโทษกันไปกันมาเลย ถึงยังไงก็ไม่มีใครชดใช้ความเสียหายให้ฉันได้ บ้านฉันไม่มีทางซ่อมได้ ฝนตกเปาะแปะรั่วเข้าบ้านฉัน ก็ต้องเป็นแบบนี้ไปทั้งชีวิตแล้วล่ะ”หอยทากพูดจบก็ค่อยๆ คลานจากไปช้าง ม้า วัว ลา ก็ยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น ต่างพานิ่งเงียบ พูดไม่ออกเลยสักคำ拉紧绳子,他们在拔河——大象后面是白马;白马后面是黄牛;黄牛后面是黑驴。劲用得太大了,”嘣!”绳子拉断了!大家都跌倒了。大象把白马身上弄脏了。白马对大象说:”要你赔!”白马把黄牛踢痛了。黄牛对白马说:”要你赔!”黄牛蹭掉了黑驴的几根毛。黑驴对黄牛说:”要你赔!”怎么赔呢?大象对白马说:”你也把脚上的烂泥抹到我身上吧。”白马对黄牛说:”你也踢我一下吧。”黄牛对黑驴说:”你也来蹭我的毛吧,要是蹭不下来,我自己拔几根给你。”这时候,大家听见黑驴脚边有个小小的声音说:”我该找谁赔呢?”一看,是个蜗牛,他的壳被碰破了一块。黑驴赶紧对蜗牛说:”我碰了你,是因为黄牛先碰了我。”接着,黄牛又怪白马,白马又怪大象,大象又怪那根绳子。蜗牛叹口气,说:”不用怪他怪你了,反正谁也赔不了我的损失。我的屋子是没法修补的,雨会滴滴答答漏进来,一辈子都是这样了。”蜗牛慢馒爬开去。大象、白马、黄牛和黑驴站在那儿,一句话都说不出来。ผู้เขียน Yi Ming(ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง)แปลและเรียบเรียง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เมชฌ สอดส่องกฤษ
Posted on November 2, 2020แมวคร่อก ๆ กับหมา ฮัดเช้ย 呼噜猫和阿猜狗 กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีแมวตัวหนึ่ง กับหมาตัวหนึ่ง ชอบฟังดนตรีมาก ทั้งสองอาศัยอยู่ในตึกเดียวกัน และกลายเป็นเพื่อนรักกันมานานเจ้าเหมียวน่ะเหรอ ชื่อว่า คร่อกๆ ส่วนเจ้าหมา ชื่อว่า ฮัดเช้ยเจ้าเหมียวชอบนอนกรนเหมือนกับแมวที่บ้านพวกเรานี่แหละ พอนอนหลับก็จะกรนเสียงดัง คร่อก ๆ ๆ ส่วนเจ้าหมาฮัดเช้ยน่ะเหรอ ก็เหมือนกับหมาของทุกคนนั่นแหละ เป็นโรคเกี่ยวกับจมูกบ่อยๆ ชอบจามอยู่เป็นประจำ “ฮัดเช้ยๆ ๆ” ท่าทางจะโล่งจมูกเหลือเกินเจ้าเหมียวกับหมาถึงแม้จะเป็นเพื่อนรักกัน แต่ก็ทะเลาะกันอยู่บ่อยๆเจ้าเหมียวไม่ชอบให้มีใครมาจามใส่ ก็เพราะเจ้าหมาชอบจามนี่แหละ ทำเอาจมูกของเจ้าเหมียวรู้สึกคันๆอยากจามไปด้วย แต่เจ้าหมาก็ไม่ชอบเสียงกรนเหมือนกัน เมื่อใดที่ยินเสียงกรน ก็จะรู้สึกไม่มีสมาธิ จะจามก็จามไม่โล่งเพื่อนรักทั้งสองมักจะทะเลาะกันเพราะเรื่องนี้อยู่เป็นประจำ จนบางครั้งถึงกับไล่ตีกันไปมาเป็นประจำอยู่มาวันหนึ่ง เจ้าหมาฮัดเช้ยสุดที่จะอดทนได้ ก็ไล่เจ้าเหมียวออกไปนอกตึกเจ้าหมาฮัดเช้ยเอากระดาษขึ้นมาปูบนโต๊ะ เตรียมจะเขียนเพลงไพเราะขึ้นมาเพลงหนึ่ง เพื่อเตรียมจะเอาไปบรรเลงในงานวันตรุษจีนแต่ในขณะที่เจ้าหมาฮัดเช้ยกำลังจะจรดปากกาเขียนโน้ตตัวแรกอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงกรน คร่อกๆ ดังมาจากนอกตึก ที่แท้ก็เป็นเจ้าเหมียวนอนหลับกรนคร่อก ๆ อยู่นอกตึกนี่เอง“คร่อก ๆ ฟี้…” เสียงนี้ก็น่าสนใจดีเหมือนกันนะเนี่ยหมาฮัดเช้ยติดใจกับเสียงกรนนั้น จึงเขียนเพลงขึ้นมาเพลงหนึ่งชื่อเพลง “เพลงแมวกรน”มันเพิ่งจะเขียนเพลงเสร็จ แมวคร่อก ๆ ก็ตื่นขึ้นมา เจ้าเหมียวก็อยากจะเขียนเพลงขึ้นมาบ้างเหมือนกันเจ้าเหมียวคร่อกๆเอากระดาษขึ้นมาปูบนโต๊ะ เตรียมจะเขียนเพลงไพเราะขึ้นมาเพลงหนึ่ง เพื่อเตรียมจะเอาไปบรรเลงในงานวันตรุษจีนถึงตอนนี้ เจ้าหมาฮัดเช้ยอยู่ข้างนอก โดนลมเย็นพัดมาทีสองที ก็จามเสียงดัง “ฮัดเช้ย ๆ ๆ”เจ้าเหมียวได้ยินก็รู้สึกว่า น่าสนใจดีแฮะ ก็เลยเขียนเพลงชื่อ “เพลงหมาฮัดเช้ย”บนเวทีคอนเสริตตรุษจีน แมวคร่อก ๆ ร้องเพลง “แมวคร่อก ๆ ” โดยมีเจ้าหมาฮัดเช้ยเป็นคนดีดกีต้าร์“คร่อก ๆ ฟี้ๆ คร่อก คร่อก คร่อก ฟี้ ฟี้ ฟี้…. ”เสียงเพลงเรียกเสียงปรบมือดังลั่น เด็กๆผู้หญิงชอบเพลงนี้กันมากแล้วเจ้าหมาฮัดเช้ยล่ะ ก็ร้องเพลง “หมาฮัดเช้ย” โดยมีเจ้าเหมียวคร่อกๆ บรรเลงเปียโนให้“ฮัดเช้ย ฮัด เช้ย ฮัดเช้ย ฮัด ๆ ๆ เช้ยๆ ๆ ”คงไม่ต้องบอกว่าบรรดาเด็กผู้ชายจะชอบเพลงนี้มากแค่ไหน ปรบมือกันจนมือแดงเลยเพื่อนรักทั้งสองก็ได้รับรางวัลใหญ่ในคอนเสริตครั้งนี้ไปครองเพลงของทั้งสองได้รับการบันทึกแผ่นเสียง ขายดิบขายดี พวกมันมีเงินร่ำรวยขึ้นมา ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปสร้างบ้านของตัวเองอยู่บนทุ่งหญ้าแต่ไม่ได้หรอก พวกมันเพิ่งจะแยกจากกันไม่ถึงสองวัน ก็รู้สึกไม่สบายเนื้อสบายตัว หมาฮัดเช้ยไม่ได้ยินเสียงกรนคร่อก ๆ ก็กินข้าวไม่อร่อย ส่วนเจ้าเหมียวคร่อกๆ ไม่ได้ยินเสียงจามของเจ้าหมาฮัดเช้ย แม้แต่กรนก็กรนไม่ออกเลยต่อมา หมาฮัดเช้ยก็ไปพักที่บ้านเหมียวคร่อก ๆ ครึ่งเดือน ต่อมา เหมียวคร่อก ๆ ก็มาพักที่บ้านหมาฮัดเช้ยอีกครึ่งเดือน เพราะพวกมันเป็นเพื่อนรักที่แยกจากกันไม่ได้นี่เองมีความลับอะไรจะบอก คอนเสริตฤดูร้อน พวกเค้าทั้งสองก็เขียนเพลงเสร็จแล้วด้วยนะ หนูๆทายกันได้มั้ย ว่าเค้าทั้งสองเขียนเพลงอะไรเหมียวคร่อกๆเขียนเพลง “เพลงสวนสวนสนามฮัดเช้ยๆ”หมาฮัดเช้ยเขียนเพลง “เพลงเต้นรำคร่อกๆ ฟี้ๆ”รอจนถึงวันนั้น พวกเรามาฟังเพลงนี้ด้วยกันนะ从前啊,有一只猫和一只狗,他们都喜欢音乐,又都住在一幢楼里,因此成了好朋友。猫呢,叫呼噜猫;狗呢,叫阿猜狗。呼噜猫喜欢打呼噜,就像你们家的那只猫一样,一睡觉就呼噜、呼噜打呼噜。阿猜狗呢,就像我们家的那只狗一样,鼻子有点小毛病,老爱打喷嚏,”阿-猜,阿-猜”,打得非常痛快。狗和猫很要好,但也常吵架。呼噜猫讨厌打喷嚏,因为阿猜狗一打喷嚏,她觉得自己的鼻子也跟着痒痒起来,好像要打喷嚏一样;阿猜狗呢,讨厌打呼噜,他一听呼噜猫打呼噜,就心神不定,连喷嚏也打不痛快。他们常为这件事闹别扭,有时甚至你追我赶地打起架来。有一天啊,阿猜狗实在太气愤了,就把呼噜猫赶到门外去。阿猜狗在桌子上铺上纸,他想写一首很优美的曲子,准备到春季音乐会上去演奏。他正想落笔的时候,忽然听见门外传来轻微的呼噜声,原来呼噜猫在大门外睡着了,她又打起呼噜来。“呼噜,呼噜……”这声音还真有趣。阿猜狗被吸引住了,他就写了一首《猫打呼噜之歌》。他刚写好歌,呼噜猫睡醒了。等阿猜狗一开门,她就把阿猜狗撵了出去,把门关上了。呼噜猫也铺开纸,她想写一首歌,到春季音乐会上演唱。这时,阿猜狗在门外,被凉风一吹,就打起喷嚏来:”阿一猜,阿-猜!”呼噜猫觉得挺有趣,就写了一首《狗打喷嚏之歌》。春季音乐会上,呼咏猫在阿猜狗的吉他伴奏下,唱起《猫打呼噜之歌》——“呼噜,呼噜,呼噜噜噜,噜噜呼呼……”歌声引来一片掌声,女孩子们特别喜爱这首歌。阿猜狗呢,在呼噜猫的钢琴伴奏下,也唱起了《狗打喷嚏之歌》-一“阿猜阿猜阿猜猜,猜猜啊,阿猜猜……”别提男孩子多么喜欢这首歌了,他们把手掌都拍红了。这一对好朋友,棒走了音乐会的大奖杯。他们的歌还被灌成唱片,销路非常好,他们有了钱,各自在草地上盖了一幢新房子。可是不行,他们分开才两天,就浑身不舒服,阿猜狗听不到呼噜猫的呼噜,吃饭也不香;呼噜猫呢,听不到阿猜狗的喷嚏,连呼噜也打不起来了。后来呢,阿猜狗先到呼噜猫的新房子里住半个月,然后呢,呼噜猫再到阿猜狗的新房子里住半个月,他们还是难分难舍的好朋友。告诉你一个秘密,他们连夏季音乐会上演奏的曲子都写好了,你猜他们写出了什么?呼噜猫写的是:《阿猜阿猜进行曲》。阿猜狗写的呢,是:《呼噜噜,呼噜噜圆舞曲》。到时候请你再来欣赏吧!ผู้เขียน Yi Ming(ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง)แปลและเรียบเรียง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เมชฌ สอดส่องกฤษ
Posted on November 2, 2020เหมียวคร่อกๆ กับแม่มดเหยี่ยว 呼呼噜和猫头鹰巫婆 แมวเหมียวตัวลายนอนกรนคร่อกๆ มันชอบจินตนาการเหมียวหง่าวๆ วันๆ กินอื่มแล้ว ก็เข้าสู่ความฝันถึงวันวาน มันจะหลับฝันอยู่นานเชียวล่ะเหมียวคร่อกๆ ฝันไปว่า มันเป็นพระราชา เป็นเศรษฐีผู้ร่ำรวย แล้วยังฝันว่าได้พบกับเจ้าหญิงผู้เลอโฉม แล้วยังฝันไปว่ามีวิมานอันโอ่อ่า งดงามเหมียวหง่าวๆได้ข่าวมาว่า ในป่ามีแม่มดเค้าแมวผู้หนึ่ง แม่มดผู้นี้มีคาถาวิเศษ เพียงแค่ท่องคาถาก็สามารถทำให้สมตามความปรารถนาดังนั้น เหมียวหง่าวๆจึงไปหาแม่มดเค้าแมว มันบอกกับแม่มดว่า “คุณย่าเค้าแมวขอรับ ขอให้ท่านช่วยให้ความฝันของผมเป็นจริงด้วยเถอะครับ ให้ผมได้มีความสุขที่แท้จริงตามความฝันด้วยเถิด ”แม่มดเค้าแมวพูดว่า “ข้าทำให้ความฝันของเจ้าเป็นจริงได้แน่ ข้าท่องคาถาจบเจ้าก็กลับไปลองดูก็แล้วกัน”“โอม…มีมาเมอ มีมาเมอ มีมาเมอ เพี้ยง”พอนกเค้าแมวท่องมนตร์จบ เจ้าเหมียวลายก็วิ่งปรู๊ดกลับไปบ้านทันทีเจ้าเหมียวนอนอยู่บนเตียง คิดฝันไปว่าตนเองมีวิมานอันโอ่อ่ามโหฬาร และแล้ววิมานอันโอ่อ่ามโหฬารก็ปรากฏขึ้นข้างกายในฉับพลันเจ้าเหมียวคิดว่าในวิมานจะต้องมีเครื่องเรือนที่สวยงามมาๆทันใดนั้น ในวิมานของมันก็มีเครื่อนเรือนสวยงามปรากฏขึ้นในทันทีเจ้าเหมียวคิดว่า ในลิ้นชักแต่ละอัน ในตู้แต่ละหลังจะต้องมีของเล่นสนุกๆ และของกินอร่อยๆและแล้ว…….สิ่งที่เจ้าเหมียวหง่าวๆ อยากได้ล้วนปรากฏขึ้นมาในวิมานทีละอย่างๆ เจ้าหง่าวหยุดจินตนาการชั่วครู่ เพราะอยากจะนอนลงบนเตียงเพื่อเสพสุขกับผลสำเร็จจากจินตนาการของตัวเองแต่เมื่อเท้าของเจ้าหง่าวเพิ่งจะสัมผัสกับพื้น วิมาน เครื่องเรือน ของเล่น และของกินก็หายวับไปกับตาเจ้าหง่าวก็ลองจินตนาการอีกครั้ง ทุกครั้งก็เป็นเช่นนี้เจ้าหง่าวรู้สึกผิดหวังอย่างมาก จึงไปหาแม่มดเค้าแมวแม่มดเค้าแมวบอกว่า “ทำได้แค่นี้ล่ะเจ้าหนู สิ่งที่สร้างขึ้นมาจากจินตนาการ ก็ใช้ได้แต่ในจินตนาการเท่านั้น เพียงแค่เท้าของเจ้าสัมผัสพื้นที่แท้จริง สิ่งเหล่านั้นก็จะเลือนรางไปเหมือนกับสายลม ถึงจะมีคาถาที่วิเศษกว่านี้ ก็ช่วยอะไรเจ้าไม่ได้หรอก”แม่มดเค้าแมวพูดกับเจ้าหง่าวที่คอตกด้วยความผิดหวังว่า “ถ้าเจ้าอยากจะมีความสุขกับสิ่งที่เป็นจริง ก็ต้องสร้างมันขึ้นมาด้วยความจริง เรือนที่เจ้าสร้างขึ้นมาด้วยอิฐทีละก้อน หินทีละก้อน สะสมทรัพย์สมบัติมาด้วยหยาดเหงื่อแรงกายทีละเล็กละน้อย ไม่ว่าคาถาขลังแค่ไหน ก็ไม่สามารถทำให้สิ่งเหล่านี้หายไปได้เลย”แม่มดเค้าแมวพูดกับเจ้าหง่าวต่ออีกว่า “นี่เป็นคาถาที่วิเศษที่สุดที่ข้าสอนเจ้า เจ้าเข้าใจหรือไม่”“ผมเข้าใจแล้วครับ” เจ้าหง่าวนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ มือลูบคาง แล้วก็งึมงำ ๆ พูดกับตัวเองว่า“ฉันควรจะทำตามที่แม่มดเค้าแมวบอก สร้างความจริงด้วยความขยัน หรือว่าจะวาดฝันของฉันต่อไปดีนะ”แล้วหนูๆล่ะ คิดว่าเจ้าหง่าวควรจะทำอย่างไรดี小花猪呼呼噜,他很爱幻想。呼呼噜每天吃饱了,喝足了,在进入梦乡以前,他都要幻想好一阵子——他幻想自己成了一个国王,成了一个富翁,他还幻想自己遇到了一位漂亮的公主,还拥有一座五色的城堡……呼呼噜听说,树林里有一位猫头鹰巫婆,她有着神奇的魔法,她只要一念咒语,就能让人们实现自己的愿望。呼呼噜去找猫头鹰巫婆。他说:”猫头鹰奶奶,请让我的幻想,都变成真的,让我享受一下幻想的成果吧。”猫头鹰巫婆说:”我当然能满足你的愿望。我念完咒语,你回去试试吧。”“嘛米么,米嘛么,嘛嘛米么……”猫头鹰巫婆念起了咒语。猫头鹰一念完咒语,小花猪呼呼噜就飞也似的跑回家。他躺在床上,想象自己有一座宏伟的城堡。果然,一座神奇的城堡一下子出现在他的身边。他想城堡里应该有很多漂亮的家具。果然,每个房间里都有了崭新的家具。他想,每件家具的抽屉里、橱门里,都放着新奇有趣的玩具和好吃的东西。果然……呼呼哗想要的东西,都一件件出现在城堡里。呼呼噜停止了幻想,他想下床享受一下自己幻想的成果了。可是,当他的脚刚一接触地面,这城堡,这家具,这玩具和好吃的东西,一下子都消夫得无影无踪。小花猪呼呼噜又试了几次,每次都这样。呼呼噜很失望,他去找猫头鹰巫婆。猫头鹰巫婆说:”只能是这样。你在幻想中创造出来的东西,只能在幻想中享用。只要你的脚一踩实地,那些东西就像风一样地消失,即使再有魔力的咒语,也都帮不了忙。”猫头鹰巫婆看着垂头丧气的呼呼噜说:“假如你要享受实际存在的东西,你只有实际地去创造。你用一砖一瓦造的房子,你用一点一滴的努力积累下来的财富,再厉害的咒语也不能使它消失……”猫头鹰巫婆看着若有所思的呼呼噜说:“这是我教你的最有用的咒语,你懂了吧!”“我懂了!”小花猪呼呼噜坐在一棵大橡树下,他手托着下巴,在自言自语:“我是应该像猫头鹰奶奶说的那样,去现实世界努力呢,还是继续我的幻想……”,小朋友,你说呼呼噜该怎么办呢?ผู้เขียน Yi Ming(ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง)แปลและเรียบเรียง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เมชฌ สอดส่องกฤษ
Posted on November 2, 2020สมาชิกตัวสำรอง 候补队员 สัตว์ตัวน้อยๆมักจะรวมตัวกันเตะฟุตบอลกันอยู่บ่อยๆน้องหมีก็ชอบเตะฟุตบอลเหมือนกัน แต่ว่ามันวิ่งช้ามาก อุ้ยๆอ้ายๆ ตามลูกบอลไม่ทัน บางครั้งควรจะเตะบอลเข้าประตู แต่มันก็เตะออกนอกขอบสนามไปเสียนี่ พอต่อมาลูกบอลมาถึงน้องหมี ทุกคนก็ตะโกนว่า “บอลเสีย บอลเสีย” แต่น้องหมีก็ไม่โกรธ ก็เพราะว่าน้องหมีชอบเตะบอล ถึงแม้ว่าไม่มีใครส่งบอลให้น้องหมี แต่น้องหมีก็วิ่งไปมาๆอยู่ข้างหลังเมืองสัตว์น้อยน่ารักก่อตั้งทีมฟุตบอลขึ้น น้องหมีก็ไปสมัครเข้าร่วมทีมกับเขาด้วยทีมสีแดงเลือกนักฟุตบอล 10 คน ทีมน้ำเงินก็เลือกนักฟุตบอล 10 คน ไม่มีทีมไหนเลือกน้องหมีเลย“ผมอยู่ทีมไหนเหรอฮะ” น้องหมีร้องถามด้วยความร้อนใจ“แกน่ะเหรอ เป็นตัวสำรองก็แล้วกัน ฮิฮิ” เจ้าลิงเกเรหัวเราะเยาะ“แล้วผมจะได้ลงสนามเตะบอลมั้ยฮะ” น้องหมีถามต่อ“แน่นอน ไม่ว่าทีมไหนขาดคนขึ้นมาเมื่อไหร่ นายก็จะได้ลงเล่น” เจ้าลิงร้องตอบ“อ๋อ ดีจังเลย” น้องหมีพึมพำๆด้วยความดีใจการซ้อมเริ่มต้นขึ้นแล้วทุกคนถอดเสื้อผ้ากองโตให้น้องหมีเฝ้า น้องหมีก็พับเสื้อผ้าแต่ละตัวเก็บให้เรียบร้อย แล้วก็กอดเสื้อผ้าเอาไว้ ตอนที่เพื่อนๆเตะบอล น้องหมีก็ตะโกนสุดแรงว่า “สู้ ๆ ” หมดแรงมากกว่าลงไปเตะบอลเองเสียอีกบางครั้ง ลูกบอลลอยออกไปนอกสนามไกลๆ ไม่มีใครยอมวิ่งไปเก็บ ก็จะตะโกนเรียก “น้องหมี ช่วยเก็บบอลกลับมาหน่อยสิ” น้องหมีก็จะรีบวิ่งไปเก็บบอลมาทันที รีบวิ่งให้เร็วที่สุดเอาลูกบอลมาคืน เพื่อให้เพื่อนๆได้รีบเตะบอลต่อไป ทุกครั้งที่ทุกคนซ้อมบอลเสร็จ น้องหมีก็เหนื่อยจนหมดแรงวันเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ฝีเท้าของทีมฟุตบอลก้าวหน้าไปมาก ความสามารถในการวิ่งเก็บบอลของน้องหมีก็ดีขึ้นด้วยเช่นกัน ถ้ามีใครเรียก “น้องหมี ช่วยเก็บบอลมาให้หน่อย” น้องหมีก็จะรีบวิ่ง “เฟี้ยว” ไปเก็บมาให้ได้อย่างรวดเร็ว แล้วก็เตะลูกบอลไปให้ผู้รับ แถมยังเตะได้อย่างแม่นยำด้วยนะ เพื่อนพากันชมน้องหมี “อืม ความสามารถในการเก็บบอลของนานดีขึ้นทุกวัน” น้องหมีได้ยินดังนั้นก็หัวเราะ เหอๆ ๆ ด้วยความชอบใจมาถึงวันนี้ เป็นวันลงแข่งจริงแล้ว น้องหมีมาถึงสนามแต่เช้าก่อนใครเพื่อน เพราะว่าน้องหมีจะรีบมาฝึกซ้อมการเก็บบอลนั่นเองอันดับแรกน้องหมีเตะบอลออกไปจากเส้นขอบสนาม “นี่เป็นบอลที่เจ้าโฮ่งเตะออก ตุ๊บ” แล้วน้องหมีก็วิ่งตามลูกบอล ตะโกนบอกว่า “ลูกบอลเก็บมาแล้ว ตุ๊บ” แล้วน้องหมีก็เตะบอลเข้าสู่สนาม“นี่เป็นบอลที่เจ้าเหมียวเตะออก ตุ๊บ” แล้วน้องหมีก็วิ่งตามลูกบอล ตะโกนบอกว่า “ลูกบอลเก็บมาแล้ว ตุ๊บ”เตะไปเตะมา จนน้องหมีลืมเรื่องราวทุกอย่างเพื่อนๆมาถึงกันแล้ว “ว้าว การฝึกเก็บบอลของน้องหมี ฝึกแบบนี้เองหรือนี่” เพื่อนๆยืนมองด้วยความตะลึง“น้องหมีเตะบอลเข้าประตูได้มั้ย” เจ้าลิงร้องถาม“เดี๋ยวฉันลองดู” น้องหมีพูดจบก็โยนบอลลงที่เท้า แล้วก็ “ตุ๊บ” เตะบอลเข้าประตูอย่างแม่นยำ“โอ้โห ช่างเป็นนักบอลที่วิเศษจริงๆเลย” เพื่อนๆต่างพากันชมน้องหมีกันใหญ่“นี่ๆ มาเป็นสมาชิกในทีเราสิ”เพื่อนๆต่างพากันแย่งน้องหมีไปเป็นสมาชิกในทีมฟุตบอลของตัวเอง“อ้อ ฉันต้องเก็บบอลน่ะ” น้องหมีตอบอย่างเกรงใจ“เฮ้อ ไม่น่ามองข้ามน้องหมีเลย คิดถึงตอนที่พวกเราใช้น้องหมีวิ่งไปวิ่งมาเก็บลูกบอล เพื่อนๆต่างรู้สึกผิดอย่างมาก”“เฮ้ พวกเราเปลี่ยนกันเป็นคนเก็บบอลก็แล้วกัน” เจ้าลิงออกความเห็น“ถ้างั้น ฉันควรจะไปอยู่ในทีมไหนล่ะ” น้องหมีถาม“อิอิ ง่ายนิดเดียว ครึ่งแรกนายเตะทีมแดง ครึ่งหลังก็เตะทีมน้ำเงิน” เจ้าลิงออกความคิด“อ๋อ ที่แท้ตัวสำรองก็เป็นแบบนี้นี่เอง” น้องหมีพูดด้วยความดีใจ เพื่อนๆต่างพากันหัวเราะชอบใจอย่างมีความสุข小动物们常常在一起踢足球。 小熊也喜欢踢足球,不过他跑得很慢,常常追不上球。有时球该往球门里踢,他会一脚踢到界外去。后来球一到他的脚下,大家就喊:”臭啊!臭啊!”可是小熊不生气,他就是喜欢踢足球。别人不把球传给他,他就跟在别人后面跑来跑去。小动物村成立足球队了,小熊也去报名。红队挑了10名队员,蓝队挑了10名队员,哪个队也没挑小熊。“我算哪个队的队员呢?”小熊着急地问。“你呀,当候补队员吧!嘻嘻!”小猴说。“我能上场踢球吗?”小熊问。“当然啦,不管哪个队缺人,你都可以上场!,小猴说。“噢,太好啦!”小熊听了很高兴。训练开始了。大家把一大堆衣服交给他。小熊就把衣服一件件整理好,抱在怀里。别人踢球的时候,他就拼命地喊”加油”,真比他自己踢球还要卖力呢:有时候,球被踢到界外好远好远的地方,谁也不高兴去捡,就喊:”小熊,帮忙把球捡回来!”小熊马上就跑去捡。尽可能地跑得快点,好让大伙儿赶快接着踢。每次大家练完了球,小熊也累得要命。日子一天天地过去了,大伙儿的球艺进步得快,小熊捡球的本领也提高了不少。如果谁叫:”小熊,帮忙把球捡回来!”他就会飞跑过去,”啪”的一脚把球停下来,然后把球踢到人家的怀里,而且踢得绝对准确,大伙儿都夸他,”嗯,你捡球的本领真是越来越高啦 “小熊听了就憨憨地笑。这天要正式比赛了,小熊早早地来到球场。他要再练练捡球的本领。他先一脚把球踢出了界外:”这是小狗踢的球:””——砰!”然后,他追上球说:”球捡回来啦!””——评!”又一脚把球踢回球场。“这是野猫踢的球!””——砰!””球拾回来啦!”踢呀,踢呀,他把什么都忘记了,小动物们也来了。哇,小熊捡球的本领原来是这么练的呀!大伙儿都看愣了。“小熊,能把球踢到球门里吗?”小猴问。“我试试吧 “小熊说完,把球”啪”的定在脚下,然后”砰”的一脚,踢进了球门。“哈,真是个天才的足球队员呀 “大伙儿说。“哎,来我们队踢球吧!”“还是来我们队好!” 大伙儿七嘴八舌地说。“噢,我还得捡球呢!”小熊有些为难地说。咳,真不该看不起小熊呀!想到总是让小熊跑来跑去地捡球,大伙儿心里都有些歉意了。“哎,大伙儿都轮流捡球就是啦!”小猴说。“那,我该去哪个队踢球呢?”小熊问。“嘻嘻,好办,好办。上半场你踢红队,下半场你踢蓝队!”小猴想了个好办法。“哈,原来这就是候补队员呀!”小熊开心地说。大伙儿也笑了。ผู้เขียน Yi Ming(ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง)แปลและเรียบเรียง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เมชฌ สอดส่องกฤษ