Posted on November 2, 2020 by adminตั๊กแตนตำข้าวเรียนวิชา 小螳螂学艺 เจ้าตั๊กแตนตำข้าวรูปร่างแข็งแกร่งบึกบึน มันมุ่งมั่นว่าเมื่อโตขึ้นจะต้องมีอนาคตไกลเป็นแน่ ก็เลยทำตัวมองไม่เห็นหัวใครเลยอยู่มาวันหนึ่ง แม่ตั๊กแตนพูดกับเจ้าตั๊กแตนน้อยว่า “เจ้าก็โตขึ้นทุกวัน คิดจะทำอะไรแล้วหรือยัง”เจ้าตั๊กแตนน้อยตอบว่า “มือของผมมีมีดคมสองด้าม อยากฝึกวิทยายุทธ์ อนาคตอยากเป็นวีรบุรุษผู้กล้าแกร่ง”“ดีมาก มีใจแน่วแน่เด็ดเดี่ยว” และแล้ว แม่ตั๊กแตนก็ส่งเจ้าตั๊กแตนน้อยไปสำนักวิทยายุทธ์ของปรมาจารย์วานรเพื่อศึกษาศิลปะการต่อสู้เจ้าตั๊กแตนน้อยภาคภูมิใจยิ่งนัก ตั้งมั่นว่าจะต้องประลองยุทธ์กับปรมาจารย์วานรให้จงได้ แต่ท่านปรมาจารย์วานรกลับให้ลูกศิษย์ที่ตัวเล็กที่สุดมาประลองนึกไม่ถึงเลยว่า เจ้าลิงน้องสี่ มีวิทยายุทธ์แก่กล้า มีหมัดแข็งแกร่ง ตะลุมบอนเจ้าตั๊กแตนน้อยเสียจนน่วมไปหมดทั้งตัว แถมยังขาหักอีกข้างหนึ่งด้วยเจ้าตั๊กแตนถูกส่งเข้าไปรักษาอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาล ท่านปรมาจารย์วานรปลอบเจ้าตั๊กแตนน้อยว่า “เจ้าเด็กน้อย เจ้าลิงน้องสี่หมัดหนักไปหน่อย ทำร้ายเจ้าจนบาดเจ็บ รักษาเนื้อรักษาตัวให้หายดี ค่อยมาเรียนกับข้าใหม่นะ”เจ้าตั๊กแตนน้อยหน้าแดง พูดว่า “อาจารย์ครับ ผมคงเรียนศิลปะวิทยายุทธ์ไม่ไหวแล้วล่ะ ผมอยากเปลี่ยนมาเรียนเป็นช่างไม้ดีกว่า”เมื่อรักษาตัวหายดีแล้ว เจ้าตั๊กแตนก็อำลาปรมาจารย์วานร เดินทางไปฝากตัวเป็นศิษย์กับท่านอาจารย์หมี ท่านอาจารย์หมีเห็นว่ามือทั้งสองข้างของเจ้าตั๊กแตนเหมือนกับเลื่อยแหลมคม จึงรับไว้เป็นศิษย์อาจารย์หมีพูดกับเจ้าตั๊กแตนน้อยว่า “เจ้าเด็กน้อย ข้าจะทำลังไม้สองลัง เจ้าช่วยเลื่อยไม้กองนี้สักหน่อยก็แล้วกัน”เจ้าตั๊กแตนน้อยก็เอามือเลื่อย เลื่อยไม้ เลื่อยอยู่นานแต่ทำยังไงก็เลื่อยไม้ไม่ขาดเสียทีท่านอาจารย์หมีเห็นดังนั้นก็รู้สึกขัดหูขัดตา เกิดอะไรขึ้นเหรอเนี่ย ทำงานจะมาแกล้งทำเหลาะแหละอย่างงี้ไม่ได้นะ“อาจารย์ครับ ดูแล้วผมคงทำงานช่างไม้ไม่ไหวแล้วล่ะครับ” เจ้าตั๊กแตนบอกลาอาจารย์หมี เดินคอตกกลับบ้านยอดข้าวเขียวขจี ปลิวไสวอยู่ในทุ่งนา แม่ตั๊กแตนกำลังจับแมลงอยู่ในทุ่ง มองเห็นลูกกลับมาจากเรียนวิทยายุทธ์ ก็ดีอกดีใจรีบวิ่งไปรับลูก “ลูกจ๋า ลูกได้ไปร่ำเรียนวิชาอะไรกลับมาบ้าง”เจ้าตั๊กแตนน้อยพูดกับแม่ว่า “แม่ครับ …ผมไม่ได้เรียนอะไรเลย ก็คงกลับมาเรียนจับแมลงกับแม่ดีกว่า”แม่ตั๊กแตนฟังลูกเล่า ก็ไม่ได้ตำหนิติเตียนอะไร แล้วก็ยังบอกลูกอีกว่า “แบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ ถ้าลูกเป็นนักจับแมลงมือฉมังละก็ จะต้องมีอนาคตไกลแน่ๆเลย”นับแต่นั้นมา เจ้าตั๊กแตนน้อยก็ตั้งอกตั้งใจเรียนจับแมลงกับแม่ ในที่สุดมันก็กลายเป็นนักจับตั๊กแตนมือฉมัง เจ้าตั๊กแตนน้อยได้เรียนรู้และแสวงหาสิ่งที่เหมาะสมกับตัวเองได้แล้ว小螳螂长得很威武,他认定自己长大了会有出息,所以谁也看不起。一天,妈妈对小螳螂说:”你一天天地长大了,想干点什么呢?”小螳螂说:”我手里有两把大刀,想练武,将来当个英雄!”“好!有志气!”妈妈把他送到武术教师猴先生那里学习武艺。小螳螂很骄傲,一定要跟猴先生比试比试武艺。猴先生让他最小的徒弟猴四和小螳螂比武。没想到猴四的猴拳特别厉害,他三拳两脚就打伤了小螳螂的一条腿。小螳螂被送进医院养伤,武术教师猴先生安慰他说:”孩子,猴四的手重,误伤了你,好好养伤,等你的伤好了再跟我学习武艺。”小螳螂红着脸说:”老师,看来,我学不了武艺,我想改行学木匠。”养好了伤,小螳螂向猴先生告辞,来到木匠熊先生那里拜师。熊先生见小螳螂手中的两把大刀像锯子,就收留了他。熊先生对小螳螂说:”孩子,我要打两个箱子,请你把这几块木板锯开。”小螳螂用自己手中的锯子锯呀,锯呀,锯了半天,也没有锯开一块木板。熊先生不高兴了:”怎么搞的?于活可不能装样子啊!”“老师,看来,我干不了木匠活儿。”他向熊先生告辞,垂头丧气地往家走去。田野里,麦苗儿青青,螳螂妈妈正在田野里捉虫。她一眼看见学艺归来的儿子,高兴地迎了上去:”孩子,你学到了什么本领?”小螳螂说:”妈妈……我什么也没有学到,还是跟您学习捕虫吧!”妈妈听了儿子的诉说后,并没有责备小螳螂,而是说:”这样也好,你要是成了捕虫能手,也会很有出息的!”从此,小螳螂专心跟妈妈学习捕虫,终于成为一名捕虫能手,他在生活中找到了适合自己的位置。ผู้เขียน Yi Ming(ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง)แปลและเรียบเรียง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เมชฌ สอดส่องกฤษ