เรื่องกลุ้มของพี่ลิง 猴哥的烦恼

พี่ลิงเป็นผู้ที่มีความฉลาดหลักแหลมที่สุดแห่งป่าใหญ่ พี่ลิงมีน้องลิงหนึ่งตัว แต่น้องลิงกลับตรงกันข้าม เป็นลิงที่โง่ที่สุด พี่ลิงมักจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ๆเพราะความโง่ของน้องชายตัวเองอยู่เสมอๆ “เฮ่อ….ไอ้น้องชายเอ๋ย เมื่อไหร่แกถึงจะฉลาดขึ้นกับเขาบ้างนะ”
เมื่อใดก็ตามที่สัตว์น้อยใหญ่ในป่าพบเจอกับปัญหาต่างๆ ต่างพากันมาหาพี่ลิงให้ช่วยแก้ปัญหาให้ อย่างเช่น น้องหมูอู๊ดๆจะสร้างบ้านบ้างล่ะ น้องจิ๊บๆจะเรียนดนตรีบ้างล่ะ น้องแพนด้าตาดำจะเรียนวาดรูปบ้างล่ะ ….พี่ลิงก็จะอธิบายให้กับเพื่อนๆฟังอย่างอารมณ์ดีว่า ไม่เห็นจะยากเลยนี่นา ก็แค่ดูว่าบ้านจะสร้างยังไง โน้ตเพลงจะอ่านยังไง วาดรูปด้วยสีอะไรเท่านั้นเอง
น้องอู๊ดๆ ก็ตั้งอกตั้งใจเรียนสร้างบ้าน น้องจิ๊บๆก็ตื่นแต่เช้าทุกวันฝึกร้องเพลง ส่วนน้องแพนด้าตาดำก็ออกไปวาดรูปตามท้องทุ่งหญ้าทุกวัน
อยู่มาวันหนึ่ง น้องลิงออกไปข้างนอก แต่ไม่รู้ว่าไปทำอะไรที่ไหน
มีเพียงพี่ลิงอยู่บ้านคนเดียว ดื่มชา นอนหลับตาพักผ่อนฟังเพลงอย่างสบายใจอยู่บนเตียง
ผ่านไปสักช่วงเวลาหนึ่ง พี่ลิงรู้สึกว่า เพื่อนๆสัตว์ป่าไม่มีใครมาหาเลย พวกมันไปทำอะไรที่ไหนกันหมดแล้วเหรอเนี่ย
ต่อมา พี่ลิงหยิบหนังสือพิมพ์ฉบับใหม่ขึ้นมาอ่านจึงได้รู้ว่า ตอนนี้น้องหมูกลายเป็นสถาปนิกแล้ว น้องจิ๊บๆก็เป็นนักร้องชื่อดัง น้องแพนด้ากลายเป็นจิตรกรลือชื่อ แม้แต่น้องลิง ก็เป็นคุณหมอเปิดสถานพยาบาลรักษาคนป่วยแล้ว
“เฮ่อ แต่ก่อนพวกนี้โง่เง่าจะตาย แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นคนมีชื่อเสียงเสียแล้ว แล้วฉันล่ะ ฉันออกจะฉลาดหลักแหลมกว่าใคร ทำอะไรก็ไม่สำเร็จ เพราะอะไรเหรอเนี่ย”
พี่ลิงคิดๆยังไงก็คิดไม่ออกเสียที
小猴哥哥是森林里最聪明的人。小猴哥哥有一个小猴弟弟,要多笨有多笨。小猴哥哥常为笨头呆脑的弟弟叹气:”弟弟呀弟弟,你什么时候才能变聪明点儿呢!”
森林中的小动物遇到什么难题,都来找小猴哥哥解决。比如小猪要盖房子啦,黄鹏要学五线谱啦,熊猫想学画画啦……小猴哥哥总是一笑说:”这个简单哩!”就把房子怎么盖,五线谱怎么识,画上怎样着颜色,都告诉了小动物们。
小猪便专心学起盖房子来,黄鹏也每天起得早早的练歌喉,熊猫也每天都到野外去画画……
有一天,小猴弟弟也出了门,不知干什么去了。
只有小猴哥哥仍在家里,喝茶听者乐,躺在床上闭目养神。
过了些时候,小猴哥哥觉得小动物们好久没来他家了。他们都干什么去了呢?
后来,小猴哥哥拿起新出的晚报,才发现,原来小猪已经成了建筑师,黄鹏成了红歌星,熊猫也成了画家……就连他的笨头呆脑的小猴弟弟,也开起诊所当起医生来。
“原来他们有多笨呀,可现在都成了名人。我呢,我这么聪明却什么也没干成,这到底是为什么呢?”
聪明的小猴哥哥怎么也想不明白。
ผู้เขียน Yi Ming(ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง)
แปลและเรียบเรียง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เมชฌ สอดส่องกฤษ

น้องหมีแลกไข่ไก่ 黑熊换鸡蛋

น้องหมีเข็นรถเข็นล้อเดียวไปตามถนนในป่าใหญ่ เข็นรถไปก็ตะโกนร้องแลกไข่ไก่ “แลกไข่ไก่จ้า ข้าวสาร แลกไข่ไก่จ้า”
“อ้อ เจ้าหมีนี่เอง” คุณป้าจิ้งจอกตัวโตตั้งบ้านอยู่ริมถนน ได้ยินเสียงตะโกนร้องแลกไข่ก็ออกมาดู ยืนขวางหน้ารถเข็น เปิดดูข้าวสารที่อยู่ในรถเข็น ดูแล้วดูอีก แล้วก็พูดว่า “อ้อ ข้าวสวยดี แลกยังไงเหรอ”
“ข้าวถุงนี้ แลกไข่ไก่หนึ่งลังครับ” น้องหมีตอบ
“ได้จ๊ะ รอเดี๋ยวนะ ฉันเข้าไปเอาไข่ไก่มาแลก” คุณป้าจิ้งจอกพูดเสร็จก็เดินเข้าไปในบ้าน
น้องหมียืนอยู่ข้างถนน คิดเตือนสติตัวเอง “เจ้าหมีเอ๋ย ใครๆก็บอกว่าจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ ชอบโกหกหลอกลวง พูดคุยกับมันต้องระมัดระวังให้มากสักหน่อย …. ” ในขณะที่น้องหมีกำลังคิดอยู่นั้นเอง คุณป้าจิ้งจอกก็ถือเอาไข่ไก่มาหนึ่งลัง
น้องหมีมองดูไข่ไก่อย่างละเอียดแล้วก็รู้สึกแปลกใจว่า “เอ๊ะ ไข่ไกนี่ทำไมมีลูกใหญ่ ลูกเล็ก ลูกใหญ่ก็ใหญ่เท่ากับผลแตงหอม แต่ลูกเล็กก็เล็กกว่าเม็ดท้อเสียอีก” ยังไม่ทันที่น้องหมีจะเอ่ยปากถาม คุณป้าจิ้งจอกก็รีบพูดขึ้นมาว่า “ไข่ไก่ฟองใหญ่เนี่ยน่ะเหรอ ก็เป็นไข่ของแม่ไก่ตัวใหญ่ไง แล้วก็ไข่ฟองเล็กนี่ก็เป็นไข่ของแม่ไก่ตัวเล็กไงล่ะ ไม่เห็นจะแปลกตรงไหนเลย”
“อืม ใช่จริงๆด้วย ก็ไม่เห็นจะมีอะไรแปลกเลยนะครับ” น้องหมีตอบอย่างเขินๆ “แต่ เอ….”
“แต่อะไรเหรอจ๊ะ” คุณป้าจิ้งจอกจ้องหน้าน้องหมีตาเขม็ง แล้วก็พูดว่า “ดูท่า หนูจะไม่ค่อยเชื่อใจป้าใช่มั้ยเนี่ย หนูลองดูดีๆก็แล้วกัน ป้าเนี่ยเหมือนพวกหลอกลวงเหรอ”
“ตกลงครับ แลกก็แลกครับ” แล้วน้องหมีก็แบกข้าวสารกระสอบหนึ่งเข้าไปไว้ในบ้านของป้าจิ้งจอก แล้วก็ยกไข่ไก่ลังนั้นขึ้นรถเข็น พอกลับไปถึงบ้านน้องหมีก็เอาไข่ไก่วางไว้บนตู้อบ น้องหมีอยากจะฟักไก่ออกมาเป็นลูกเจี๊ยบฝูงหนึ่ง จะได้ทำกิจการเลี้ยงไก่
และแล้ว ก็มีเรื่องประหลาดเกิดขึ้น
วันแรก มีเต่าน้อยออกมาจากไข่ 30 ตัว เต่าน้อยพากันคลานออกไปจากบ้านน้องหมี คลานลงคลองน้ำหนีไปจนหมด
วันที่สอง มีงูเขียวออกมาจากไข่ 60 ตัว งูเขียวเลี้อยว่องไว เลื้อยขึ้นเนินเขาหนีเข้าป่าไป
วันที่สาม มีจระเข้น้อยออกมาจากไข่ 90 ตัว จระเข้น้อยกระโดดเหยงๆ คลานลงน้ำไป ไม่โผล่หน้ามาอีกเลย
วันที่สี่ ตัวใหญ่ที่สุด และก็เป็นไข่ใบใหญ่ที่สุดเริ่มแตกออก นกกระจอกเทศตัวหนึ่งกระโดดออกมาจากไข่ ลูกนกกระจอกเทศพูดกับน้องหมีว่า “ถ้าว่างๆ ก็ไปเที่ยวที่ทะเลทรายบ้านผมนะฮะ บ๊ายบาย” พูดจบ นกกระจอกเทศตัวน้อยก็กระโดดตุ๊บ ๆ ๆ จากไป
น้องหมีมองดูเปลือกไข่บนตู้อบ ก็อดขำไม่ได้ ได้แต่บ่นพึมพำกับตัวเองว่า “จิ้งจอกเอ๋ย จิ้งจอก ไม่รู้จะทำยังไงกับแกดี”
黑类熊推着一辆独轮车,在森林里边走边喊:”换鸡蛋!大米换鸡蛋!”
“哟,是黑熊呀 “听见喊声,狐狸大娘从路边的木房子里钻出来。她拦住独轮车,解开车上的米袋子,看了看说:”好米呀,怎么换?”
“这袋子米要换一筐鸡蛋。”黑熊瓮声瓮气地回答。
“好吧,你等着,我去取蛋来。”狐狸大嫂说罢,又钻进了木房子。
站在路边的黑熊,这时在心里悄悄地提醒自己:”黑熊呀黑熊,人们都说狐狸狡猾,爱撒谎,爱骗人,和她打交道,可得小心点……”黑熊正这么想着呢,狐狸大嫂端着一筐蛋出来了。
黑熊一看,咦!这蛋怎么有大有小?大的比香瓜还大,小的比核桃还小。没等黑熊开口,狐狸大嫂就说了:”这大蛋嘛,是大鸡下的;小蛋嘛,是小鸡下的,没啥奇怪。”
“是没啥奇怪。”黑熊挺不好意思,说:”不过……”
“不过什么?”狐狸大嫂瞪了黑熊一眼,说:”看样子你还是信不过我,是吧?你仔细看看,大嫂像骗子吗?”
黑熊仔细一看,可不,狐狸大嫂系着白围裙,穿着红花袄,脸上笑眯眯的,一点儿也不像骗子。
“好吧,换啦。”黑熊把一袋大米扛进木房子,又把一筐鸡蛋装上了独轮车。回到家里,黑熊把蛋放在热炕上,他想孵一群小鸡,办个养鸡场。
奇怪的事情发生了。
第一天,从蛋壳里钻出30只小乌龟。小乌龟离开黑熊家,顺着溪水游走了;.
第二天,从蛋壳里钻出60条小青蛇,小青蛇哧溜、哧溜爬上山坡,钻进草丛不见了;
第三天,从蛋壳里钻出90条小鳄鱼,鳄鱼扑通、扑通跳进湖里,再不露面了;
第四天,最大、也是最后的一个蛋裂开了,从蛋壳里蹦出一只小鸵鸟,小鸵鸟对黑熊说:”有空闲到沙漠去找我玩儿,再见!”说罢,迈开长腿跑了。
望着满炕的空蛋壳,黑熊”扑哧”笑了,他自言自语地说:”狐狸呀狐狸,真拿你没办法!”
ผู้เขียน Yi Ming(ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง)
แปลและเรียบเรียง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เมชฌ สอดส่องกฤษ

ของวิเศษ 好东西

น้องลิงมีของวิเศษอยู่อย่างหนึ่ง เป็นของวิเศษที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ของดีขนาดนี้ จะให้ใครเห็นไม่ได้เป็นอันขาด ถ้าทุกคนมาที่บ้าน จะทำยังไงดีล่ะ
ใช่สินะ เอาไปซ่อนไว้ดีกว่า เอาไปซ่อนในที่ที่ลับตาคนก็แล้วกัน
วันแรก น้องลิงเอาของวิเศษไปซ่อนไว้ในโพรงไม้
วันที่สอง น้องลิงเอาของวิเศษไปซ่อนไว้หลังก้อนหินข้างๆแม่น้ำ
วันที่สาม ……..
วันที่สี่ …………
น้องลิงซ่อนของวิเศษทุกวัน อยู่มาวันหนึ่ง ซ่อนเอาไว้จนกระทั่งแม้แต่ตัวน้องลิงเองก็หาของไม่เจอ
“ฮือ ๆ เจี๊ยก ๆ ” น้องลิงร้องไห้ด้วยความร้อนใจ
“ใครเห็นของวิเศษของฉันบ้าง ฮือ ๆ ”
“ของวิเศษเหรอ ของวิเศษนองนายเป็นแบบไหนเหรอ” น้องจิ๊บๆ บินเข้ามาถาม
น้องลิงบอกว่า “ ของ ของ ของวิเศษของฉันมีผมสีทอง…ฮือ ๆ ”
น้องจิ๊บๆ ได้ยินดังนั้นก็ตอบว่า “ตามฉันมา ฉันเห็นของวิเศษของนายแล้วล่ะ”
น้องจิ๊บๆ บินขึ้นบนฟ้า น้องลิงก็วิ่งตามไป น้องจิ๊บๆบินไป ๆ น้องลิงก็วิ่งไปๆ แล้วก็มาถึงที่หน้าถ้ำแห่งหนึ่ง
ท่านสิงโตจ้าวป่ากำลังนอนหลับอยู่ที่หน้าปากถ้ำ แสงอาทิตย์ส่องผมสีทองของสิงโตส่องประกายแวววาว
น้องจิ๊บๆ พูดกับน้องลิงว่า “นั่นไง ของวิเศษของนาย”
เสียงเอะอะทำให้สิงโตจ้าวป่าตื่นขึ้นมา ลืมตาขึ้นมามองจิ๊บๆกับน้องลิงด้วยความประหลาดใจ
น้องลิงรีบส่ายหัวบอกว่า “นี่ไม่ใช่ของวิเศษของฉัน ของ ของวิเศษของฉันสวมเสื้อเยอะๆ หลายๆชั้น”
บังเอิญมีเต่าตัวหนึ่งคลานต้วมเตี้ยมผ่านมา ได้ยินคำพูดของน้องลิง ก็เลยบอกว่า “ตามฉันมา ฉันเห็นของวิเศษของนาย”
เต่าหลังตุงคลานต้วมเตี้ยมๆ ไปข้างหน้า น้องลิงก็เดินตามไปด้วยความหวังว่าจะหาของวิเศษเจอไวๆ
เต่าหลังตุงพาน้องลิงไปถึงทุ่งกว้างแห่งหนึ่ง ชี้ไปที่ของสิ่งหนึ่งแล้วบอกว่า “นั่นน่ะ ของวิเศษของนายอยู่นั่นไง”
บนทุ่งหญ้า มีหน่อไม้ลำโตๆ หัวแหลมๆ เต่าหลังตุงคลานเข้าไปใกล้ๆ ปอกเปลือกหน่อไม้ออกแผ่นหนึ่ง ยังมีข้างในอีกหลายแผ่น หน่อไม้อ้วนๆ จริงๆแล้วเป็นเพราะว่าสวมเสื้อผ้าตั้งหลายชั้นนี่เอง
แต่น้องลิงก็ส่ายหัวบอกว่า “นี่ไม่ใช่ของวิเศษของฉัน ของ ของวิเศษของฉันมีไข่มุกอยู่เต็มตัวเลยล่ะ”
บรรดาสัตว์ตัวอื่นๆที่มามุงดู แต่ละตัวตากลมแป๋ว ว้าว มีไข่มุกทั่วทั้งตัวเลยเหรอ จะต้องเป็นของวิเศษมากๆเลยล่ะ แต่ว่า ของดีขนาดนี้ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อนเลย ก็เลยไม่รู้จะช่วยน้องลิงยังไงดี ไม่มีใครช่วยได้เลย
เป็นเพราะแบบนี้นี่เอง ของวิเศษของน้องลิงก็หายไป
แต่ผ่านไปไม่นาน ด้วยนิสัยร่าเริงสนุกสนานของน้องลิง ก็ทำให้มันลืมเรื่องเศร้าใจไปสนิท นั่นสินะ ทุกๆวันมีเพื่อนเล่นมากมาย มีเรื่องราวที่สนุกสนานให้ทำอยู่ทุกวัน ใครจะมัวมาคิดเรื่องที่ทำให้เศร้าใจล่ะ
วันแล้ววันเล่าผ่านไปเรื่อยๆ สวนหลังบ้านของน้องลิงมีกล้าไม้ต้นหนึ่งงอกขึ้นมา ในสวนดอกไม้ก็มีดอกไม้นานาชนิดงอกขึ้นมาเหมือนกัน ใครบ้างจะไปใส่ใจต้นกล้าเล็กๆแต่ละต้นว่าเป็นต้นอะไร
แต่ว่า ในวันหนึ่งของฤดูร้อน เมื่อน้องลิงกับเพื่อนๆพากันมาเที่ยวเล่นที่สวนหลังบ้าน น้องลิงก็ต้องตกตะลึงจนตาโต แล้วก็ตะโกนออกมาด้วยความดีใจ “ของวิเศษของฉัน ๆๆ ”
เพื่อนๆพากันตามน้องลิงไปยืนอยู่ที่หน้าต้นไม้ต้นหนึ่ง ก็เห็นเพียงกิ่งไม้และใบไม้ที่ทั้งยาวทั้งอ้วน กำลังงอกเป็นฝักข้าวโพดออกมา ข้าวโพดมีฝักสีทอง ข้างนอกเป็นสีเขียว สวมเสื้อผ้าหลายๆชั้น จึงจะเห็นเม็ดเล็กๆ เหมือนกับไข่มุกอยู่ต็มตัว
อ๋อ ที่แท้ของวิเศษของน้องลิงก็คือข้าวโพดแก่นี่เอง
เป็นเพราะว่าน้องลิงเอาข้าวโพดมาซ่อนแล้วก็ลืมไว้ที่สวนหลังบ้านนี่เอง มีเมล็ดข้าวโพดอยู่หนึ่งเมล็ดออกราก แตกหน่อ เติบโต ออกดอก แล้วก็ออกผลข้าวโพดฝักใหม่ออกมานี่เอง
小猴子有个好东西,一个顶好顶好的东西。
这么好的东西,可不能给别人看见,要是大家都来要,那可怎么办?
对,对,把它藏起来,藏在一个谁也找不着的地方。
第一天,小猴子把好东西藏在大树洞里。
第二天,小猴子把好东西藏在河边的石头后边。
第三天……
第四天……
藏来藏去,有一天,连小猴子自己也找不着好东西了。
“呜——呜——”小猴子着急地哭起来。
“谁看见了我的好东西?”
“好东西?你的好东西是什么样的?”一只小鸟飞来问。
小猴子说:”我的,我的好东西,它有金黄色的头发……”
小鸟一听,说:”跟我来,我见过你的好东西。”
小鸟在天上飞,小猴子跟在地上跑,飞呀飞呀,跑呀跑呀,他们来到一个山洞前。
一只狮子正伏在洞口的岩石上睡觉,他那金黄色的长头发在阳光照耀下闪闪发光。
小鸟对小猴子说,”喏,这是你的好东西。”
狮子被吵醒了,睁开疲倦的眼睛,惊奇地望着小鸟和小猴子。
小猴子忙摇头说:”这不是我的好东西。我的,我的好东西,穿了好多好多层衣服。”
一只乌龟刚好经过这里,听见小猴子的话,就说:”跟我来,我见过你的好东西。”
乌龟一扭一扭地向前爬,小猴子心急地跟在他后面,真盼望早点儿见到自己的好东西。
乌龟把小猴子带到一块空地上,指着一个东西说:”喏,这是你的好东西。”
空地上,立着一个又肥又尖的大竹笋。乌龟爬过去,剥开它的外皮,剥了一层,还有一层,竹笋鼓鼓囊囊的身子,确实是穿了好多好多层衣服。
可是小猴子摇摇头说:”这不是我的好东西,我的,我的好东西,全身长满了珍珠。”
围过来看热闹的小动物们,一个个睁大了眼睛。哇!全身长满珍珠,那可真是个好东西!不过,这么好的东西,谁也没见过,谁也帮不上小猴子的忙。
就这样,小猴子丢了他的好东西。
不过,没过几天,活泼好动的小猴子就忘了这件伤心事儿。是啊,每天有那么多伙伴来找他玩,有那么多快乐的事儿要做,谁还老想着一个丢了的东西呢?
日子一天天过去,谁也没有注意到,小猴家屋后的花园里,长出了一棵小苗。花园里长满了各种各样的花草,谁会去注意一棵不知名的小苗呢?
不过,夏季里的一天,当小猴子和他的伙伴们来到花园玩耍时,他突然惊讶地睁大了眼睛,激动地叫起来:”好东西,我的好东西。”
大家跟着小猴子跑到一棵高高的植物前,只见在那粗壮的茎杆和又长又宽的叶子之间,结着一穗穗老玉米。它们有金黄色的穗子,绿色的外衣,剥开一层层外衣,就露出了黄灿灿的珍珠一样的颗粒。
原来小猴子的好东西,是一个老玉米。
一定是小猴子把它丢在了花园里,于是,有一粒种子就在土里生根、发芽、成长、开花,结出了新的老玉米。
ผู้เขียน Yi Ming(ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง)
แปลและเรียบเรียง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เมชฌ สอดส่องกฤษ

สาวน้อยนางนวล 海鸥姑娘

นกนางนวลงดงามมาก และมันก็รักสวยรักงามมากด้วยเช่นกัน
เวลาเช้าตรู่ นกนางนวลทั้งหลายจะกระพือปีกบินร่อนอยู่บนผืนน้ำทะเล
นี่ก็เป็นเพราะว่า ท้องทะเล เป็นกระจกของนกนางนวลนั่นเอง ทุกๆวัน นกนางนวลจะต้องบินมาเล่นน้ำและแต่งตัวที่นี่เป็นประจำ
นกนางนวลมองดูกระจกผืนนี้ ส่องแล้วส่องอีก บิดตัวดูซ้ายทีขวาที ไซ้ขนอรชรอ้อนแอ้น มันคิดว่า ในโบกนี้ไม่มีใครสวยงามเท่ามันอีกแล้ว
ในขณะที่นกนางนวลกำลังภาคภูมิใจอยู่นั่นเอง ก็มีเสียงพูดที่ฟังแล้วไม่เข้าหูดังมาจากฝั่ง “หลงตัวเอง หลงตัวเอง” หันไปดูก็เห็นนกนางแอ่นกำลังทำรังอยู่นินทาเสียงแจ้ว “งานการไม่ทำ ไม่มีใครชอบแกหรอก”
“เชอะ พวกแกอิจฉาฉันล่ะสิ ” นกนางนวลไม่สนใจ หันไปบิดซ้ายบิดขวาส่องกระจกเหมือนเดิม
ถึงเวลากลางวัน นกนางนวลก็บินไปเกาะบนโขดหิน เพื่อหาปลาหากุ้งที่ตากเอาไว้ ทันใดนั้นนกนางแอ่นรีบวิ่งเข้ามาใกล้ “จอมขี้เกียจ ไม่ให้กิน นี่เป็นปลาและกุ้งที่เราหามานะ”
นกนางนวลนั่งร้องไห้อยู่บนโขดหิน เสียอกเสียใจเป็นอย่างมาก นกนางนวลที่อยู่ในกระจกไม่ได้สวยงามเลยแม้แต่น้อย
คุณแม่มหาสมุทรพูดกับนกนางนวลว่า “การทำงานเป็นคุณธรรมอันสูงส่ง แล้วทำไมลูกไม่ทำงานเหมือนคนอื่นๆเขาล่ะ”
นกนางนวลพยักหน้ารับคำสอน
ต่อมา คนงานแห่งท้องทะเลแห่งนี้ก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งตัว นั่นก็คือนกนางนวลแสนสวยนั่นเอง
小海鸥十分漂亮,她特别爱美。
早晨,小海鸥拍打着翅膀飞到大海上。
大海是小海鸥的镜子,她每天都到这儿来梳洗打扮。
小海鸥对着这面镜子瞧啊,照啊,她一会儿扭动身躯,一会儿梳理羽毛,自以为是天底下最美的姑娘。
正在小海鸥十分得意的时候,几句刺耳的话从海岸的岩石那边儿飞过来:”臭美:臭美:”造燕窝的小雨燕七嘴八舌地议论,”不劳动,没人喜欢你!”
“哼,你们嫉妒我!”小海鸥不服地扭过身子,继续照镜子。
中午,小海鸥飞到海礁上,啄食岸边晾晒的鱼虾。突然,海燕跑过来说:”懒家伙,不许吃,那是我们捕的鱼虾!”
小海鸥坐在岸边的礁石上哭了,哭得好伤心哟!镜子里的她一点儿也不美。
大海妈妈对她说:”劳动,是最高尚的美德,你为什么不和他们一起劳动呢?” 小海鸥点了点头。
后来,海鸟劳动者的队伍里又多了一只美丽的海鸟,她就是小海鸥。
ผู้เขียน Yi Ming(ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง)
แปลและเรียบเรียง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เมชฌ สอดส่องกฤษ

คุณพ่อม้าน้ำ 海马爸爸

ปลาช่อนทะเลตัวหนึ่งหนีออกไปจากเรือของมัน เรือของมันก็คือ ปลาฉลามนั่นเอง ปลาช่อนอยากจะออกไปหาอาหารอื่นเปลี่ยนรสชาติบ้าง แต่ไปได้เพียงครึ่งทางก็ว่ายกลับมาอย่างรวดเร็ว ว่ายมาพลางพร้อมกับตะโกนเอะอะโวยวายว่า “เกิดเรื่องประหลาดแล้ว พ่อม้าน้ำออกลูกได้ด้วย”
เสียงร้องของปลาช่อนทะเลสร้างความตกตะลึงให้กับปลาธง ปลาดาบ บรรดาปลาต่างพากันล้อมเข้ามาถาม “อยู่ที่ไหนเหรอๆ”
“อยู่ข้างหน้าโน่นน่ะ” ปลาช่อนทะเลกลับหลังหันชี้ไปข้างหน้า
แต่ไหนแต่ไรมามีแต่แม่เท่านั้นที่จะออกลูกได้ พ่อจะออกลูกได้ยังไงกัน
ปลาดาบไม่เชื่อ พูดว่า “แกดูผิดหรือเปล่า พ่อจะออกลูกได้ยังไง”
“นั่นน่ะสิ ไม่แน่นะ แกอาจจะเห็นแม่ม้าน้ำเป็นพ่อม้าน้ำก็ได้นะ” ปลาธงก็ออกความเห็นด้วยความสงสัย
ปลาช่อนทะเลเห็นว่าปลาธงกับปลาดาบไม่เชื่อก็ลุกลี้ลุกลนกระโดดไปมาอยู่ในน้ำ ตะโกนด้วยความโมโหว่า “ฉันจะดูผิดได้ยังไงกัน” ปลาช่อนทะเลมองเห็นปลาฉลามว่ายอยู่ไม่ไกล ก็พูดต่อไปว่า “ทุกครั้งที่ฉันนั่งเรือของฉันมาเที่ยวที่นี่ ก็จะได้พบกับม้าน้ำผัวเมียอยู่บ่อยๆ ใครเป็นแม่ม้าน้ำ ใครเป็นพ่อม้าน้ำ แม้แต่เอาไปเผาเป็นขี้เถ้า ฉันยังดูออกเลยว่าใครเป็นใคร แล้วจะดูผิดได้ยังไงกัน”
“พ่อออกลูกได้ ก็เป็นเรื่องแปลกประหลาดน่ะสิ พวกเราไปดูกันเถอะ” ปลาธงพูดกับปลาดาบ
“ไปสิ ฉันพาพวกนายไป” ปลาช่อนทะเลยืดอกอาสานำทาง ว่าแล้วก็ว่ายน้ำเข้าไปในปากแหลมๆของปลาดาบ
แม้แต่ระยะทางสั้นๆ ปลาช่อนทะเลก็ไม่ลืมที่จะ “นั่งเรือ” ไป
ปลาธงกับปลาดาบไปถึงบ้านคุณม้าน้ำ ก็เห็นม้าน้ำตัวเล็กๆพุ่งออกมาจากหางม้าน้ำ
“เห็นมั้ยล่ะ ฉันไม่ได้หลอกพวกนายใช่มั้ย” ปลาช่อนทะเลว่ายออกมาจากปากของปลาดาบ ชี้ไปที่ม้าน้ำที่กำลังออกลูกอยู่
“ขอถามหน่อยเถอะครับ คุณเป็นแม่ม้าน้ำ หรือว่าเป็นพ่อม้าน้ำ” ปลาธงถามด้วยความไม่มั่นใจ
“พวกแกไม่เห็นเหรอว่าฉันกำลังคลอดลูกอยู่ ก็ต้องเป็นพ่อม้าน้ำน่ะสิ” พ่อม้าน้ำพูดไปพลางก็คลอดลูกออกมาอีกหนึ่งตัว
“อ้อ ฉันรู้แล้ว พวกม้าน้ำ พ่อม้าน้ำจะเป็นคนคลอดลูก ส่วนแม่ม้าน้ำออกลูกไม่ได้” ปลาดาบพูดเหมือนกับเพิ่งจะนึกขึ้นมาได้
คุณปลาดาบ คุณจะมาว่าแม่ปลาดาวแบบนี้ไม่ได้นะ มีเสียงแว่วมาจากม้าน้ำตัวหนึ่งยืนมองปลาดาบด้วยความโกรธ ปลานิลเห็นดังนั้นก็ร้องตะโกนออกมาด้วยความตกใจ “นี่ไงล่ะ แม่ม้าน้ำ”
“นี่ …นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย” ปลาดาบกับปลาธงยิ่งงงเข้าไปใหญ่ ทั้งสองมองดูแม่ม้าน้ำที่ไม่คลอดลูก มองดูพ่อม้าน้ำที่กำลังคลอดลูกอยู่
แม่ม้าน้ำเห็นดังนั้น ก็หัวเราะเสียงดังฮ่า ๆ พร้อมกับบอกว่า “ลูกๆน่ะเหรอ ฉันนี่แหละคลอดออกมา แต่ว่า ตอนที่ฉันคลอดพวกเขา ยังเป็นไข่ฟองเล็กๆน่ะ ฉันคลอดพวกเขาแล้วก็เอาไปไว้ในท้องของพ่อม้าน้ำ ลูกๆก็เติบโตอยู่ในท้องของพ่อเขา จนกลายเป็นม้าน้ำตัวเล็กๆออกมาให้เห็นนี่แหละ”
“ฮ่าๆๆ พ่อคลอดลูก ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง” ปลาดาบกับปลาธงมองหน้ากันหัวเราะร่า
“แต่ลูกๆที่น่ารักทั้งหลาย ในที่สุดก็ออกมาจากท้องฉันนี่นา” พ่อม้าน้ำ “คลอด” ลูกตัวสุดท้ายเสร็จแล้วก็ชี้ให้ทุกคนดูท้องฟักไข่ของตัวเอง แล้วก็มองดูฝูงปลาด้วยความยียวน ปลาธงมองดูแม่ม้าน้ำแล้วก็พูดว่า “ดูแล้วสามีของเธอจะไม่ยอมเสียตำแหน่งคุณพ่อคลอดลูกนะเนี่ย”
แต่จะว่าไป สามีของฉันยังเป็นพ่อที่ดีอีกด้วยนะ เขาไม่เพียงช่วยฉันเลี้ยงลูก แล้วก็ยังดูแลความปลอดภัยให้กับลูกๆอีกด้วย เวลาที่อากาศหนาว หรือมีภัยอันตราย ลูกๆก็จะเข้าไปหลบในถุงท้องของพ่อเขา” พูดจบ แม่ม้าน้ำก็มองพ่อม้าน้ำด้วยความซาบซึ้งใจ แล้วก็พูดต่ออีกว่า “จนกว่าลูกๆจะโตพอ ถึงจะออกมาจากท้องพ่อเขาได้น่ะ”
“โอ้โห ช่างเป็นคุณพ่อที่เยี่ยมจริงๆเลย” ปลาธง ปลาดาบและปลาช่อนอำลาครอบครัวม้าน้ำ ว่ายน้ำจากไป แน่นอนอยู่แล้ว ปลาช่อนก็ไม่ลืมที่จะ “นั่งเรือ” แต่รอบนี้มันว่ายเข้าไปในครีบของปลาธง เพื่อจะกลับไปที่เดิม มันจะไปหาปลาฉลาม เพราะมันจะต้องตามปลาฉลามไปเที่ยวรอบมหาสมุทรยังไงล่ะ
鮣鱼离开自己的船——鲨鱼,想去找一点儿吃的,换涣口味,半路上就逃了回来,她边逃边叫:”出怪事啦,海马爸爸生孩子啦!”
她这一叫,惊动了旗鱼、剑鱼,他们纷纷游过来问:”在哪里?”
“在前面。”鮣鱼回过身子,向前面一指。
自古只有妈妈会生孩子,爸爸怎么会生孩子呢?
剑鱼不相信,说:”你看错了吧,爸爸怎么会生孩子呢?”
“说不定你是把海马妈妈看成海马爸爸了?”旗鱼也怀疑起来。
鮣鱼见剑鱼和旗鱼都不相信自己,急得在水里跳着,大声说:”我怎么会看错哩!”鮣鱼看一眼不远处的鲨鱼,接着往下说:”我每次乘着自己的’船’到这儿来游玩,总少不了要同海马夫妇见上几次面,他们哪一位是海马妈妈,哪一位是海马爸爸,就是烧成了灰,我也认得出来,怎么会看错呢。”
“爸爸会生孩子,倒是天下奇事,我们去看看。”旗鱼对剑鱼说。
“我带你们去。”鮣鱼自告奋勇,她游到了剑鱼的嘴巴里。
连这么一点点路,鮣鱼也没忘记”乘便船”。
旗鱼和剑鱼来到那个海马身边,看见一个个小海马,正从海马的尾部下两弹出来。
“我没有赖你们吧。”鮣鱼从剑鱼嘴巴里出来后,指着正在生孩子的海马说。
“请问……你是海马妈妈,还是海马爸爸?”旗鱼还有些不放心地问。
“你没看见我在生孩子吗,当然是海马爸爸啰。”海马爸爸说着,又生出了一个小海马。
“哦,我知道啦,你们海马是爸爸生孩子,妈妈不会生孩子的。”剑鱼好像恍然大悟地说。
“剑鱼先生,你可别往我们海马妈妈身上泼脏水呀2″忽然,有个不生孩子的海马气呼呼地在看着剑鱼。郭鱼一看,惊奇地叫起来:”她才是海马妈妈哩。”
“这……这到底是怎么回事呀?”剑鱼和旗鱼更加糊涂了,他们看看不生孩子的海马妈妈,又看看正在生孩子的海马爸爸。
海马妈妈看看剑鱼他们,突然哈哈哈地大笑起来。她边笑边说道:”孩子嘛,确实是我生的。不过,我生他们的时候,还是一颗颗的卵呢。我把他们生在他们爸爸的育儿袋里,孩子们在他们爸爸的育儿袋里成长,变成一个个小海马……”
“哈哈,爸爸生孩子,原来是这么一回事呀!”旗鱼和剑鱼都大笑起来。
“可这活泼泼的孩子,终究是从我这里出去的呀。”海马爸爸”生”完了最后一个小海马,指着自己的育儿袋,调皮地看看绅鱼他们。旗鱼看看海马妈妈,风趣地说:”看样子,你丈夫还不肯放弃这个会生孩子的名誉哩。”
“不过话说回来,我丈夫是个好爸爸,他不但帮助我养儿育女,今后还要负责保护孩子们的安全,一旦他们受惊,或者遇到危险,又会躲进他的育儿袋里去。”海马妈妈深情地看了自己丈夫一眼,补充说,”一直要到孩子们都长大了才离开育儿袋。”
“哦,真是个好爸爸。”旗鱼、剑鱼和鮣鱼告别了海马夫妇,向来的地方游去。当然吗,鮣鱼是不会放弃她”乘便船”的机会的,不过这一回,她钻到了旗鱼的鳃孔里,打算一回到老地方,马上去寻找鲨鱼,因为还要跟着他到各地去旅游呢。
ผู้เขียน Yi Ming(ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง)
แปลและเรียบเรียง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เมชฌ สอดส่องกฤษ

คุณชายไก่งวงคอแดงกับคุณนายห่านคอยาว 火鸡先生和鹅太太

กุญแจบ้านของคุณชายไก่งวงเสียอีกแล้ว ซ่อมยังไงก็ไม่ได้ ก็เลยตอกตะปูปิดประตูมันซะเลย แล้วตัวเองก็บินเข้าออกทางหน้าต่าง
บ่ายวันหนึ่ง คุณนายห่านกลับจากเดินเล่นริมลำธาร เดินผ่านมาที่บ้านของคุณไก่งวง เดินมาตั้งไกลก็รู้สึกเหนื่อย เข้าไปพักที่บ้านคุณไก่งวงสักหน่อยดีกว่า
คุณนายห่านเข้าไปเคาะประตู “คุณไก่งวงอยู่บ้านหรือเปล่าคะ ทำไมปิดประตูซะแน่นเลยล่ะคะ”
คุณไก่งวงตอบว่า “กุญแจประตูเสียน่ะครับ เข้าออกได้ทางหน้าต่างทางเดียวครับ”
คุณนายห่านได้ยินดังนั้นก็เดินไปที่หน้าต่าง แล้วก็ออกแรงปีนขึ้นหน้าต่าง กว่าจะเข้าไปข้างในบ้านได้ก็เหนื่อยแทบแย่
“คุณยังไม่ได้กินของหวานใช่มั้ยครับ เชิญเลยครับวันนี้ผมเลี้ยง มีเค้ก ชอกโกแลต แล้วก็น้ำส้มคั้นด้วยนะครับ” คุณไก่งวงเชิญคุณนายห่านกินขนมหวาน
คุณนายห่านได้ยินดังนั้นก็ดีใจพูดกับคุณไก่งวงว่า “ขอบคุณมากนะคะ ฉันจะกินทุกอย่างเลยค่ะ” จากนั้นคุณไก่งวงก็เอาขนมมาวางไว้บนโต๊ะ “ว้าว ช่างหอมหวานน่ากินเหลือเกิน ฉันเพิ่งเคยกินเป็นครั้งแรกนะเนี่ย” พูดจบคุณนายห่านก็คาบเค้กก้อนใหญ่เข้าปาก ง่ำ ๆ ๆ
“อ้าว คุณก็กินด้วยกันสิ” คุณนายห่านหั่นเค้กออกเป็นชิ้นเล็กๆ แต่ของตัวเองหั่นเป็นชิ้นโตๆ ดูสิ คุณนายห่านกินเค้กอย่างเอร็ดอร่อย จนเนยเลอะเทอะอยู่ตามปาก จมูก คิ้ว เต็มไปหมดทั้งหน้า
“เอิ้ก……” เสียงคุณนายห่านเรอ เสียงดัง เอ้อๆๆ อิ่มแปล้ “อร่อยมากๆเลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะ ฉันต้องไปแล้วล่ะ”
จากนั้นคุณนายห่านก็บินออกไปทางหน้าต่าง หัวโผล่ออกหน้าต่างไปแล้ว แต่ท้องยังติดอยู่ข้างในออกไปไม่ได้สักที “ฉัน…ฉันถูกหน้าต่างหนีบ ช่วยด้วยๆ ๆ เป็นเพราะเค้กแน่ๆเลย” คุณนายห่านติดอยู่ที่หน้าต่างร้องเสียงดัง ก๊าบ ๆ ๆ
“โอ้โห คุณเหมือนกับขวดเลยครับ ถูกหน้าต่างหนีบเข้าให้แล้วไง” คุณไก่งวงกระโดดออกทางหน้าต่างหลังบ้านออกไปช่วยคุณนายห่าน
“อึ๊บๆ ๆ” คุณไก่งวงออกแรงดึงคอคุณนายห่าน “โอ้โห ถ้าขืนดึงแบบนี้คุณไม่ไหวแน่ๆเลย เราต้องคิดหาวิธีอื่นแล้วล่ะ”
สักครู่หนึ่ง คุณไก่งวงก็เอาสบู่กับน้ำมาถูกที่คอของคุณนายห่าน จนคุณนายห่านจั๊กจี้หัวเราะก๊าก ๆ ๆ ไม่หยุด
“หนึ่ง สอง สาม” คุณไก่งวงจับคอของคุณนายห่านไว้แน่น “อึ๊บเดียว” คุณนายห่านก็ถูกดึงออกมาจากหน้าต่าง “เฮ้อ ออกมาได้เสียที จริงๆแล้วท้องฉันก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไร หน้าต่างของคุณน่ะเล็กเกินไปแล้วนะคะ”
“ใช่ครับๆ เดี๋ยวผมจะไปเปลี่ยนกุญแจประตู ครั้งต่อไปคุณมาบ้านผมจะได้ไม่ต้องเบียดหน้าต่างเข้าไปอีก”
คุณนายห่านลูบคอตัวเอง แล้วก็เดินกลับบ้านด้วยความดีใจ
火鸡先生家的门锁又坏了,怎么也修不好,他干脆把门钉住了,自己从窗口里飞进飞出。
有一天下午,鹅太太从河边散步回来,路过火鸡先生的家,她想:我走累了,到火鸡先生家歇一会儿去。
鹅太太敲敲门问:”火鸡先生在家吗?您干吗关着门?”
火鸡先生回答:”我门上的锁坏了,只能从旁边的小窗口里进进出出。”
鹅太太只好走到小窗口那儿,她用力爬呀,拼命挤呀,好不容易才进了屋。
“你还没吃点心吧,我请你吃蛋糕、巧克力,还有橙汁。”火鸡先生说。
鹅太太一听高兴地说:”谢谢,我都要吃!”为鸡先生把东西一样样放在桌子上,”啊,这么甜美的蛋糕,我还是第一次吃呢。”鹅太太说着把一大块蛋糕塞进嘴里去。
“喂,你也来点儿!”鹅太太帮火鸡先生切了一小块蛋糕,她自己也切了一大块蛋糕。瞧,鹅太太吃得多香呀!她的嘴上、鼻子上、眉毛上都沾了奶油,看上去真滑稽。
“嗝,嗝,嗝……”鹅太太打着饱嗝说,”太好吃了,谢谢您,我该走了。”
鹅太太走到小窗口那边,她的头和上半个身子伸到了窗外。可是肚子怎么也出不去了。”我,我被夹住了,快来救救我,都是蛋糕害了我!”鹅太太卡在小窗户那儿大叫着。
“哇,你像个瓶塞似的把窗口堵住了!”火鸡先生只得从后面的窗户里跳出去救鹅太太。
“哎哟,哎哟,”火鸡先生用力拔着鹅太太的头颈,”呀,这样拉你会吃不消的,我另外想个办法。”
一会儿,火鸡先生拿来肥皂和水,在鹅太太的肚子口抹来抹去,鹅太太觉得痒痒的,笑个不停。
“一、二、三,”火鸡先生拽住鹅太太的上半身,”噗”的一声,鹅太太像塞子一样被拔了出来。”嗨,总算出来了,其实我的肚子一点也不大,是你的窗口开得太小了。”
“对,对!我马上去换一把门锁,你以后来就不用再从窗口里挤进挤出了。”
鹅太太摸摸自己的肚子,很高兴地回家去了。
ผู้เขียน Yi Ming(ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง)
แปลและเรียบเรียง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เมชฌ สอดส่องกฤษ

แพนด้าน้อยมิ๊มี๊ผู้โดดเดี่ยว 孤独的熊猫咪咪

บนภูเขาสูงแห่งหนึ่ง มีต้นไผ่ขึ้นหนาแน่นเต็มไปหมด ที่นี่เป็นบ้านของคุณแพนด้า ในบ้านมีคุณพ่อแพนด้า คุณแม่แพนด้า แล้วก็น้องแพนด้าน้อยชื่อว่า มิ้มิ้
เพราะว่าครอบครัวแพนด้ามีลูกคนเดียว พ่อแม่จึงรักและห่วงใยน้องมิ้มิ้มาก ดูแลเหมือนกับไข่ในหินเลยทีเดียว ไม่ว่ามิ้มิ้อยากได้อะไร พ่อแม่ก็หามาให้ทุกอย่าง แม้กระทั่งดวงดาวบนท้องฟ้าก็อยากจะเอามาให้น้องมิ้มิ้ ตั้งแต่เช้าจรดเย็น พ่อแม่ก็จะอยู่ข้างกายตลอดเวลาไม่เคยห่าง น้องมิ้มิ้เป็นเหมือนกับเทวดาตัวน้อยๆเลยเชียวล่ะ
เช้าวันสดใสวันหนึ่ง คุณแม่หมีดำพาน้องหมีดำมาเยี่ยมครอบครัวแพนด้า คุณแม่แพนด้าก็ต้อนรับแขกที่มาเยือนด้วยความอบอุ่น แถมยังเอากล้วยสีเหลืองทองหวีโตๆ มาให้น้องหมีดำกินอีกด้วย แต่น้องแพนด้ากลับวิ่งไปแย่งกล้วยมาจากมือของแม่แพนด้า “นี่เป็นกล้วยของผมนะฮะแม่ ” น้องมิ้มิ้กอดกล้วยเอาไว้แน่น ปอกเปลือกกล้วยกินทีละลูก ๆ แล้วยังแกล้งทำเสียงจ๊อบแจ๊บๆ ๆ กินอย่างเอร็ดอร่อย
พ่อแพนด้าเอาลูกบอลมาให้น้องหมีดำเล่น น้องมิ้มิ้เห็นดังนั้นก็โยนกล้วยทิ้งรีบวิ่งไปแย่งลูกบอลคืนมา “ไม่ให้ ไม่ให้”
“น้องมิ้มิ้จ๊ะ อย่าเสียมารยาทแบบนี้สิจ๊ะ” คุณแม่แพนด้าดุน้องมิ้มิ้
น้องมิ้มิ้เห็นว่าวันนี้พ่อแม่ไม่ยอมเอาใจ น้องมิ้มิ้ร้องไห้โฮเสียงดังลั่น กลิ้งไปกลิ้งมา ไม่ว่าพ่อแม่จะปลอบยังไง น้องมิ้มิ้ก็ไม่ยอมหยุดร้องเสียที
ช่างน่ารำคาญจริงๆ คุณแม่หมีดำก็พาน้องหมีดำกลับบ้าน
น้องมิ้มิ้ทำเรื่องเสียมารยาทในครั้งนี้ ไม่มีใครอยากมาเที่ยวบ้านของครอบครัวแพนด้าอีกเลย แต่ว่า น้องมิ้มิ้ก็ชอบความสนุกสนาน เพราะว่าอยู่ที่บ้านคนเดียวเหงามาก น้องมิ้มิ้ก็เลยวิ่งออกไปเล่นกับเพื่อนๆข้างนอกบ้าน
เพิ่งจะเดินออกจากประตูบ้าน น้องมิ้มิ้ก็ได้ยินนกคีรีบูนร้องเพลงเสียงหวานเจื้อยแจ้ว
“ตะวันกลมๆ ปีนขึ้นภูเขา….ลา ลัน ลา”
น้องมิ้มิ้มองไปทางตะวันออก ก็เห็นพระอาทิตย์สีแดงโผล่ขึ้นมาครึ่งดวง เชอะ เห็นชัดๆว่าแบนนี่นา เจ้านกนี่ร้องเพลงมั่วจริงๆ ดังนั้น น้องมิ้มิ้ก็ตะโกนดุด้วยเสียงดังว่า “หยุดเดี๋ยวนี้นะ พระอาทิตย์แบนจะตาย ไม่ใช่กลมซะหน่อย”
“อะไรนะ พระอาทิตย์แบนเหรอ ฮ่า ๆๆ” นกร้องเพลงที่เกาะอยู่บนต้นไม้หัวเราะเสียงดังลั่น
“แกกล้าหัวเราะฉันเหรอ” น้องมิ้มิ้วิ่งไปที่ใต้ต้นไม้ เขย่าต้นไม้สุดแรง แล้วก็พูดว่า “ฉันว่าแบนก็ต้องแบนสิ” นกคีรีบูนตกใจจนบินหนีไป
น้องมิ้มิ้เดินมาถึงสนามหญ้า น้องลิงและเพื่อนๆกำลังขี่รถเล่นกัน น้องมิ้มิ้เดินเข้าไป “เรามาแข่งขี่รถกันเอามั้ย”
การแข่งขันเริ่มต้นขึ้นแล้ว น้องลิงขี่จักรยานอย่างคล่องแคล่วว่องไว แต่น้องมิ้มิ้ยังขี่ไม่คล่องรั้งท้ายอยู่ตั้งไกล ด้วยความโกรธ น้องมิ้มิ้โยนจักยานทิ้ง “ขี่จักรยานไม่นับ เรามาแข่งปีนต้นไม้กันดีกว่า”
“หนึ่ง สอง สาม….” น้องมิ้มิ้เพิ่งปีนขึ้นไปได้สามก้าว แต่น้องลิงปีนขึ้นไปจนถึงยอดไม้แล้ว
“น้องมิ้มิ้ขี้แพ้ น้องมิ้มิ้ขี้แพ…”
น้องมิ้มิ้โกรธมาก ชกเข้าไปที่หน้าน้องลิงหนึ่งครั้ง จนน้องลิงเอามือกุมหน้าร้องไห้โฮๆ น้องมิ้มิ้ก็เดินโยกไปย้ายมาจากไปเหมือนกับเป็นผู้ชนะยังไงยังงั้น
นับแต่นั้นมา ไม่มีใครสนใจน้องมิ้มิ้อีกเลย แค่เห็นน้องมิ้มิ้เดินมา ทุกคนก็จะพากันหนีไปไกลๆ น้องมิ้มิ้เสียเพื่อนไปหมด รู้สึกว่าตัวเองโดดเดี่ยวเดียวดายมาก น้องมิ้มิ้ไปหาคุณปู่ช้างงวงยาว แล้วก็เล่าเรื่องความในใจให้คุณปู่ช้างฟัง เล่าไปก็น้ำตาไหลไปด้วยความเสียใจ คุณปู่ช้างใจดีมองดูน้องมิ้มิ้ด้วยดวามสงสาร แล้วก็พูดอบรมสั่งสอนน้องมิ้มิ้ว่า “เจ้าเด็กโง่ ลองคิดดูดีๆสิ ว่าทำไมเพื่อนๆถึงไม่ยอมเล่นด้วย เมื่อคิดออกแล้ว หนูก็จะไม่โดดเดี่ยวอีกแล้วนะ”
在一座高高的山上,长满了密密的竹子。这里住着熊猫的家。家里有熊猫爸爸、熊猫妈妈和他们的小宝宝——咪咪。
因为只有咪咪这么一个孩子,爸爸妈妈把他看做是掌上明珠,对他百般宠爱。咪咪要什么,就给他什么,恨不得把天上的星星也摘下来给他。从早到晚,爸爸妈妈都围着他转,听他使唤,咪咪简直成了家里的小霸王。
一个晴朗的日子,黑熊妈妈带着小黑熊来到熊猫家做客。熊猫妈妈十分热情地接待了他们,还拿出一串黄澄澄的香蕉请小黑熊吃,咪咪猛地从妈妈手里夺下香蕉:”这是我的!”他把香蕉全抱在怀里,一根接一根地剥着吃,嘴里还故意发出”叭叭”的声响。
爸爸又拿出花皮球给小黑熊玩,咪咪扔下香蕉,又抢过皮球:”不给!不给!”
“咪咪,不许这么没礼貌!”妈妈生气了。
看着爸爸妈妈今天没依着他,咪咪放声大哭,遍地乱滚,无论对他说多少好话他都不肯起来。
真扫兴!黑熊妈妈只好带着小黑熊回家了。
咪咪这般无礼,谁也不愿再到他家做客了。可是,咪咪偏偏爱热闹,家里太寂寞了,他就跑出去找小伙伴玩。
刚走出门,他听见一只百灵鸟在歌唱:
“圆溜溜的太阳爬上坡……”
他朝东边一看,鲜红的太阳才露出一半儿,明明是扁的嘛!这小小的百灵乌竟敢乱唱,咪咪大喝一声:”住嘴!太阳是扁的,不是圆的。”
“什么,太阳是扁的?哈哈哈!”树上的百灵鸟大笑起米。
“你敢笑我?”咪咪抱着树猛摇起来,一边摇一边叫:”我说扁的就是扁的:”
百灵鸟被吓跑了。
咪咪来到草地上,一群小猴子正在那里骑车玩。咪咪走过去:”我们来比赛骑车!,
比赛开始了。小猴子们把车蹬得飞快,咪咪笨拙地蹬着丰,远远地落在了后面,他把车重重地摔在地上:”骑车不算数,我们来比爬树!”
“一、二、三……”咪咪才爬了三步,小猴子们已上了树顶。
“咪咪输了!咪咪输了!”
咪咪恼羞成怒,他一掌打在一个小猴子的脸上,小猴子捂着脸呜呜直哭,他却像一个胜利者似的,大摇大摆地走了。
从此,没有谁再理睬咪咪了,只要见他来了,大家都躲得远远的。味咪失去了所有的朋友,感到十分孤独。他找到老象爷爷,向他诉说心中的痛苦,还流下了伤心的眼泪。老象爷爷慈爱地看着他,语重心长地说:”孩子,好好想一想,大伙为什么不愿和你在一起?想明白了,你就不再是孤独的咪咪了。”
ผู้เขียน Yi Ming(ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง)
แปลและเรียบเรียง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เมชฌ สอดส่องกฤษ

แมวเหมียวของเจ้าหญิง 公主的猫

นิทานเรื่องนี้เกิดขึ้นในประเทศที่ไม่มีแมว
มีอยู่วันหนึ่ง คุณย่าชาวต่างชาติคนหนึ่งมาเที่ยวที่ประเทศแห่งนี้ คุณย่าเอาแมวเหมียวน่ารักตัวหนึ่งมามอบเป็นของขวัญให้กับพระราชา พระราชาก็มอบแมวเหมียวให้กับพระธิดา เจ้าหญิงน่าน่า
เจ้าหญิงน่าน่าชอบแมวตัวนี้มากเหลือเกิน แม้ว่าจะมีใครเอาพระอาทิตย์กับพระจันทร์มารวมเข้าด้วยกัน แล้วเอามาแลกกับแมวตัวนี้ เจ้าหญิงน่าน่าก็ไม่มีทางยอมเป็นแน่ แต่ว่า มีอยู่คืนหนึ่ง แมวเหมียวไม่รู้หายไปไหน เจ้าหญิงน่าน่าเสียใจเป็นอย่างมาก ร้องไห้สะอึกสะอื้นทำให้คนในวังตกใจกันหมด
พระราชาก็ร้อนใจมาก สั่งให้ทหารออกไปติดประกาศ “หาแมว” ทั่วทุกซอกทุกมุม บนประกาศเขียนว่า “น้องเหมียวของเจ้าหญิงน่าน่าหายไป ใครเก็บได้ให้รีบเอามาคืน มีรางวัลเป็นทองคำหนึ่งหมื่นตำลึง โปรดจำให้ดี จุดเด่นของแมวเหมียวคือ อายุน้อยๆ แต่หนวดไม่น้อยเลย”
เช้าวันต่อมา ทหารองครักษ์ก็รายงานว่ามีคนเอาแมวเหมียวมาคืน พระราชาพอพระทัยมาก รีบวิ่งออกมาดูรองเท้าก็ไม่ทันได้สวม แต่พอเห็นก็ต้องตกใจ เพราะสัตว์ที่เอามาคืน คือสัตว์ที่อายุน้อยๆ แต่หนวดยาวๆ ไม่ใช่แมว “แกะ” นั่นเอง
ไม่ได้การแล้ว ป้ายประกาศหาแมวแผ่นที่แล้วเขียนจุดเด่นของแมวไม่ชัดเจน พระราชาจึงมีบัญชาให้ทหารรีบเอาประกาศใบที่สองไปติด ครั้งนี้ในประกาศเขียนว่า “โปรดจำให้ดี จุดเด่นของแมวก็คือ ตาโต ปีนต้นไม้เก่ง แล้วยังรู้จักจับหนูด้วย”
หลังจากติดประกาศไปได้ไม่นาน ก็มีคนจูงแมวมารับรางวัลอีกแล้ว แต่พอพระราชาเห็นก็บอกว่า “ผิดอีกแล้ว ไอ้ตัวนี้ก็ตาโต ปีนต้นไม้ได้ จับหนูเป็น แต่ตัวนี้มันเป็นนกฮูกต่างหากล่ะ”
ไม่ได้การแล้ว ประกาศใบที่สองก็ยังบอกจุดเด่นของแมวไม่ชัดเจนอีก พระราชาออกคำสั่งให้ติดประกาศแผ่นที่สาม บนประกาศวาดรูปแมวลงไป แล้วเขียนว่า “เห็นแล้วหรือยัง นี่แหละคือแมวเหมียว”
ไม่นาน ก็มีคนมาขอรับรางวัล พวกเขาพากันแบกกรงขนาดใหญ่มากรงหนึ่ง ข้างในกรงมีรูปตามประกาศ และสัตว์ที่เหมือนกับในรูปผิดเพี้ยน แต่ว่าตัวใหญ่กว่ามาก บนหน้าผากยังมีตัวหนังสือ 王 เขียนอยู่ด้วย เฮ้อ ผิดอีกแล้ว นี่ไม่ใช่แมว นี่เป็นเสือ
เจ้าหญิงน่าน่าหาแมวที่รักไม่เจอ เสวยอะไรไม่ได้ ตาทั้งสองข้างทั้งบวมทั้งแดงเพราะร้องไห้เสียใจ กำลังนั่งเศร้าสร้อยอยู่หน้ากระจก และแล้วก็ได้ยินเสียงประหลาดดังมาทางหน้าต่าง “เมี้ยว….ว้าวแมวเหมียวโผล่มาทางหน้าต่าง เจ้าหญิงน่าน่ารีบตรงไปที่หน้าต่าง อุ้มแมวขึ้นมา แล้วก็จูบซ้ายทีขวาทีด้วยความคิดถึง
พระราชามองดูอยู่ข้างๆ เคาะหัวตัวเอง พูดกับตัวเองว่า “ทำไมฉันถึงคิดไม่ออกนะ เสียงร้อง เมี้ยว เมี้ยว นี่ต่างหากล่ะที่เป็นจุดเด่นของแมวเหมียว”
这个故事发生在一个没有猫的国家里。
有一天,一位外国老太太到这个国家来旅游,她给国王带来一只可爱的小猫。国王把小猫送给了自己的女儿娜娜公主。
娜娜公主别提多么喜欢这只小猫了,反正你就是用太阳和月亮加在一块儿换她的小猫,她也肯定不乐意。可是,有一天晚上,小猫突然不见了。娜娜公主特别伤心,呜呜的哭声惊动了整个王宫。
国王非常着急,派人连夜上街贴《寻猫布告》。布告是这样写的:娜娜公主的小猫丢了,有谁捡到赶紧送来,奖黄金一万两。记住,小猫的特点是:别看年纪小,胡子可不少。
第二天一早,卫兵报告说,有人带小猫来领奖来了。国王高兴极了,连拖鞋都来不及穿就跑出了王宫。可是一看就傻了眼,原来,面前这只”别看年纪小,胡子可不少的动物不是小猫,而是一只小山羊。
不行:第一张《寻猫布告》没把猫的特点说清楚。国王下令,马上去贴第二张《寻猫布告》。这回,布告上写着:”记住,小猫的特点是’大眼睛,会上树,还会捉老鼠’!”
布告刚贴出不一会儿,又有人带着小猫来领奖。国王一看,又错了!这个”大眼睛,会上树,还会捉老鼠的,原来是只猫头鹰。
不行!第二张《寻猫布告》还没把猫的特点说唐楚。国王又下令,贴第三张!第三张布告是一幅画。上面写着:”瞧见了吗一-这就是猫!”
很快,又有人来领奖了,他们抬来一个大铁笼子,里面关着的那只动物和画上的猫一模一样,只是个头儿要大几十倍,脑门上还有一个”王”字。唉,又错了。这不是猫,是虎大王。
娜娜公主找不到心爱的猫,饭也吃不下,两眼哭得又红又肿,正坐在镜子前发呆呢!忽然,窗外传来一个奇怪的声音——”喵!”啊,小猫出现在窗台上,娜娜公主扑过去,紧紧地搂住小猫,快活地亲呀,亲呀……
国王在一旁拍着脑瓜,自言自语地说:”我怎么就没有想到呢?’喵喵’叫才是猫的特点呀!
ผู้เขียน Yi Ming(ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง)
แปลและเรียบเรียง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เมชฌ สอดส่องกฤษ

เรื่องราวของตุ๊กตาเล่นลม 风娃娃的故事

น้องตุ๊กตาลมโตแล้ว คุณแม่ตุ๊กตาบอกว่า “ลูกไปที่ทุ่งนาก็แล้วกัน ลูกอยู่ที่นั่นจะได้ช่วยผู้คนทำงานได้มากมาย”
น้องตุ๊กตาลมมาถึงทุ่งนา ก็พบกับกังหันลมที่กำลังหมุนไปช้า ๆ ข้างใต้กังหันมีน้ำไหลรินเอื่อยๆ ไม่ขาดสาย น้องตุ๊กตาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ จนแก้มป่อง แล้วก็เดินไปหากังหันลม พ่นเข้าใส่กังหันลมจนกังหันหมุนเร็วขึ้น น้ำก็ไหลแรงขึ้น ไหลลงสู่ท้องนา ต้นกล้ายืดเอวยาวๆ ส่ายหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส น้องตุ๊กตาชื่นใจเป็นที่สุด
ริมทะเลสาบ ชาวประมงโก่งเอวโค้งๆ ลากเรือเข้าฝั่ง เหงื่อไหลย้อย ตะโกนให้สัญญาณ แต่ว่า เรือก็ลอยช้ามากๆ น้องตุ๊กตาลมเห็นเข้าก็รีบเข้าไปช่วย เป่าลมแรงๆให้กับใบเรือ จนเรือลอยละลิ่วในน้ำอย่างรวดเร็ว ชาวประมงยิ้มแย้มดีใจ ทุกๆคนต่างหันหลังกลับมาโบกมือขอบคุณตุ๊กตาลม
น้องตุ๊กตาลมคิดว่า ช่วยเหลือผู้อื่นช่างง่ายดายเหลือเกิน ขอเพียงมีกำลังเป็นใช้ได้
ในขณะที่น้องตุ๊กตาลมกำลังคิดไปเพลินๆ ก็พัดไปถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่งโดยไม่รู้ตัว เด็กๆในหมู่บ้านกำลังวิ่งเล่นว่าวกันอยู่ ตุ๊กตาลมเห็นดังนั้นก็รีบเข้าไปช่วยพัด น้องตุ๊กตาลมออกแรงเป่าลมเหมือนกับที่เป่ากังหันลม เหมือนกับที่เป่าใบเรือ พัดแรงจนว่าวขาดลอยไป แถมว่าวบางตัวยังถูกลมพัดจนขาด ลอยไปไกลจนไม่เห็นแม้แต่เงา
น้องตุ๊กตาลมพัดเสียจนเสื้อผ้าที่คนตากเอาไว้ลอยกระจุยกระจายไปทั่วทิศ พัดเอาต้นไม้ข้างทางหักล้มระเนระนาด ….มีเสียงด่าระงมไปทั้งหมู่บ้าน ด่าว่าตุ๊กตาลมแย่มากๆ
น้องตุ๊กตาลมไม่กล้าออกไปช่วยคนอีกต่อไป ก็เลยลอยขึ้นฟ้าไป ลอยไป ๆ แล้วก็คิดไปคิดมา จนในที่สุดก็เข้าใจว่า การทำดี ไม่เพียงแต่มีความปรารถนาดีเท่านั้น แต่ต้องมีวิธีการที่ดีด้วยจึงจะประสบผลสำเร็จ
风娃娃长大了,风妈妈说:”到田野上去吧,到那里,你可以帮助人们做许多好事。”
风娃娃来到田野上,看见一个大风车正在慢慢转动,风车下边,一股湍湍细水断断续续地流着。风娃娃深深吸了一口气,鼓起腮,使劲向风车吹去。哈哈,风车转快了!风车下的水流立刻变大了,奔跑着、跳跃着,向田里流去。秧苗儿挺起了腰,点着头笑,风娃娃高兴极了。
河边,许多船工正拉着一艘船前进。船工们弯着腰,流着汗,喊着号子,可是,船却走得慢极了。风娃娃看见,急忙赶过去,用更大的力气对着船帆吹起来。船在水面上飞,快地跑起来,船工们笑了,一个个都回过头来,向风娃娃表示感谢。
风娃娃想:帮助人们做好事,真容易,有力气就行。
他这么想着,不觉来到一个村子里。那里,几个孩子正在放风筝。风娃娃看见了,赶紧过去帮着吹。他像吹风车那样用力,像吹船帆那样使劲。结果,风筝线吹断了,几只风筝都让他扯得粉碎,飞得无影无踪了。
就这样,风娃娃吹跑了人们晾的衣服,折断了路边新栽的小树……。村子里,一片责骂声,都说风娃娃太可恶!
风娃娃不敢再去帮助人们做事了,他在天上转着、想着,想来想去,终于明白了:做好事,不但要有好的愿望还得有好的方法。
ผู้เขียน Yi Ming(ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง)
แปลและเรียบเรียง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เมชฌ สอดส่องกฤษ

บ้านแสนสวยตามหาบ้านของตัวเอง 房子找房子

มีบ้านอยู่หลังหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่ริมถนนด้วยความภาคภูมิใจยิ่งนัก บ้านหลังนี้งดงามมาก ผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาล้วนชมไม่หยุดปากว่า “โอ้โห ช่างเป็นบ้านที่สวยงามจริงๆ” รถยนต์ที่วิ่งขวักไขว่ผ่านไปมาต่างก็ลั่นแตรเสียงดังว่า “ปู๊นๆ สวัสดีครับ คุณบ้านแสนสวย”
คุณบ้านแสนสวยมีความสุขมาก เธอชอบทุกอย่างของที่นี่
วันนี้ คุณบ้านแสนสวยกำลังคุยอยู่กับรถยนต์คันสีแดงที่จอดอยู่ฝั่งตรงกันข้ามด้วยความสุข ทันใดนั้นมีห่านตัวหนึ่งบินมาเกาะที่หลังคา “ห่าน ห่าน ฉันสร้างรังเสร็จแล้ว สวยมากเลยล่ะ ” คุณห่านพูดด้วยความภาคภูมิใจ
“รังคืออะไรเหรอ” คุณบ้านถาม
“เธอนี่ช่างไม่รู้อะไรเสียเลย รังก็คือบ้านของฉันยังไงล่ะ บ้านของฉัน”
“ถ้าอย่างนั้น แล้วฉันล่ะจะอยู่ที่ไหนเหรอ บ้านของฉันล่ะอยู่ไหนเหรอ” คุณบ้านร้องถามด้วยความสงสัย
คุณห่านก็พูดด้วยความเห็นอกเห็นใจว่า “ห่าน ๆๆ บ้านจะพักอยู่ในบ้านไม่ได้หรอกนะ คุณไม่สามารถมีมีบ้านได้หรอก”
“ทำไมล่ะ” คุณบ้านแสนสวยผู้น่าสงสารถาม
“ก็เพราะว่าคุณเป็นบ้านน่ะสิ คุณเป็นได้เพียงบ้านของคนอื่น ฉันสงสารคุณจริงๆ” คุณห่านกระพือปีกผับๆ ตอบด้วยความเห็นใจ “ห่านๆ ๆ ลาก่อนนะ ฉันจะต้องกลับรังแล้วล่ะ”
คุณรถยนต์สีแดงก็บอกว่า “ปรื้นๆ ลาก่อนนะครับ ผมก็ต้องกลับบ้านผมแล้ว”
คุณบ้านแสนสวยก็ได้แต่คอตกด้วยความเสียใจ
“ฉันอยากจะมีบ้านสักหลัง บ้านฉันไม่ต้องกว้างขวางมากก็ได้ ลา ลัน ลา” เสียงเพลงจากวิทยุดังมาจากบ้านใครสักคน
ตอนนี้จิตใจของคุณบ้านแสนสวยยิ่งแย่ลงไปกว่าเดิม ดูสิ บ้านช่างมีความสำคัญมากจริงๆ แม้แต่เพลงก็ยังต้องการบ้าน
ก่อนหน้านี้ คุณบ้านแสนสวยไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อน “ไม่ได้การล่ะ ฉันจะต้องหาตึกหลังหนึ่งเป็นบ้านให้กับตัวเอง หาบ้านของฉันเองให้ได้” ความคิดนี้ รบกวนจิตใจของคุณบ้านแสนสวยอยู่ทุกเวลานาที
ในเวลาดึกคืนหนึ่ง ผู้คนหลับหมดแล้ว คุณบ้านแสนสวยถอนตัวเองขึ้นจากดิน
คุณบ้านแสนสวยเดินไปตามถนน และพบกับตึกสูงแห่งหนึ่ง “อืม ตึกนี้ก็ไม่เลวนะ ทั้งสูงใหญ่ โอ่อ่า เหมาะที่จะเป็นบ้านให้ฉันเหลือเกิน” คุณบ้านแสนสวยหยุดอยู่ตรงนั้น ตะโกนถามด้วยความหวังว่า “คุณตึกสูงคะ สวัสดีค่ะ ขอให้คุณเป็นบ้านของฉันจะได้ไหมคะ”
ตึกสูงพูดว่า “ประตูของผมสร้างเอาไว้ให้คนเข้า เล็กและเตี้ยมาก คุณเข้าไม่ได้หรอกครับ”
คุณบ้านแสนสวยก็เดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ จนออกนอกเมืองไป
ตึกในป่ามีไม่มากเท่ากับตึกในเมือง คุณบ้านแสนสวยเดินตามหาอยู่นานจนในที่สุดก็เดินมาถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง แต่ก็ต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความหมดหวัง เพราะหลังคาของบ้านในชนบทเล็กกว่าตัวเองเสียอีก
คุณบ้านแสนสวยเดินต่อไปเรื่อย ๆ จนไปถึงภูเขาลูกหนึ่ง อ้อ ที่นี่มีอุโมงค์ เป็นอุโมงค์ที่มีขนาดใหญ่มาก “ฮ่า ๆๆ ในที่สุดฉันก็หาบ้านให้กับตัวเองได้เสียที” คุณบ้านเดินเข้าไปข้างในด้วยความดีใจ แต่ทันใดนั้นเอง กลับมีเสียงอันน่าสะพรึงกลัวดังออกมาจากข้างใน “โฮ่ง…ออกไป ออกไปเดี๋ยวนี้ แกเข้ามาในบ้านนี้โดยไม่ขออนุญาตได้ยังไงกัน ช่างไม่รู้ประสาเลย”
“อ้อ…ที่แท้ก็เป็นบ้านของเสือนี่เอง”
คุณบ้านแสนสวยรีบหนีออกมาจากถ้ำแทบไม่ทัน
คุณบ้านแสนสวยตามหาบ้านทั้งคืน เดินจนเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าไปหมดทั้งตัว บ้านที่เหมาะกับตัวเองก็หาไม่เจอเลยสักหลัง
คุณบ้านแสนสวยร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความเสียใจ “ฮือ ๆ ๆ ถ้าฉันเป็นคนก็ดีสินะ คนมีบ้านอยู่ ถ้าฉันเป็นนกก็ดีสินะ นกมีรังอยู่ ถ้าฉันเป็นผึ้งก็ดีสินะ ผึ้งก็มีรังอยู่ แต่ว่าฉันโชคร้ายจริงๆ บ้านอย่างฉัน ไม่มีบ้านเป็นของตัวเองเลย ฮือ ๆ ๆเป็นบ้านนี่มันช่างน่าสงสารจริงๆ”
“คุณบ้านแสนสวย คุณร้องไห้ทำไม” ผู้เฒ่าต้นไม้ถาม
“ฉันไม่มีบ้าน ไม่มีบ้านเป็นของตัวเองสักหลังเลยค่ะ ฮือ ๆ ”
ผู้เฒ่าต้นไม้หัวเราะร่า แล้วบอกว่า “ใครว่าเธอไม่มีบ้านเป็นของตัวเองล่ะ ดูสิ ท้องฟ้ากว้างใหญ่เป็นหลังคาบ้าน ผืนดินเป็นห้องของเธอ ในบ้านของธอมีข้าวของเครื่องใช้ครบทุกอย่าง บนฟ้ามีพระอาทิตย์ พระจันทร์ ดวงดาว บนผืนดินมีเมือง ภูเขา แม่น้ำ ป่าไม้ มีบ้านที่สมบูรณ์ขนาดนี้ เธอยังไม่มีความสุขอีกหรือไง”
คุณบ้านแสนสวยนิ่งไปชั่วครู่ แล้วก็คิดไตร่ตรองดู “ใช่สินะ ฉันมีบ้านเป็นโลกที่กว้างใหญ่ไพศาล” คุณบ้านแสนสวยดีใจมาก “เย้ ๆ ที่แท้ฉันก็มีบ้านเป็นของตัวเองเหมือนกัน บ้านของฉันช่างน่ารักเหลือเกิน”
คุณบ้านแสนสวยรีบเดินทางกลับเข้าไปในเมืองเหมือนเดิม จากนั้นเป็นต้นมา คุณบ้านแสนสวยก็อยู่ที่นั่นอย่างมีความสุข
有一幢房子骄傲地挺立在街道旁,她是那么美丽,来来往往的人总爱赞叹说:”哦,多么漂亮的房子呀!”东奔西跑的汽车经过这里也爱鸣一声喇叭说:”嘟——可爱的房子,你好啊!”
房子很快活,她喜欢这里的一切。
这天,她正同门口的一辆红汽车聊天聊得高兴,一只鸽子飞来停在屋顶上。”咕咕,我造了一个漂亮的窝。”鸽子骄傲地说。
“窝是什么?”房子间。
“傻瓜,窝就是我住的地方,就是我的家。”
“那么,我该住什么地方,哪儿是我的家?”房子问。
鸽子同情地说:”咕咕,房子是不能住房子的,你不会有家。”
“为什么?”可怜的房子瞪大眼睛问。
“就因为你是房子呀,你只能给别人做房子,我真为你感到难过。”鸽子外外翅膀说,”咕咕,咕咕,再见,我得回窝里去了。”
红汽车也说:”嘀——嘀——再见,我得回我的车房去了。”
房子闷闷不乐地垂着头。
“我想有个家,一个不需要太宽敞的地方……”一阵歌声,不知从谁家的录音机里飘出。
房子的心情糟透了,瞧,家是多么重要啊,连歌声也要找个家呢!
在此之前,房子从来都没有想过这个问题。”不行,我一定得为自己找一幢房子,找一个属于自己的家。”房子的这个念头,搅得她一刻也不得安宁。
趁着半夜人们都睡着了,她把自己的身体从地上拔起来。
房子走上大街,她看见一幢很高的楼房。”唔,这幢楼房不错,又高又大,做我的房子正合适。”房子站住了,她满怀希望地叫道:”高楼,你好,请你当我的房子好吗?”
高楼说:”我的门是专门为人修的,这么小,这么矮,你进不来呀!”
房子走呀,走出城。
野外的房子比城市少多了。房子好不容易找到一个村庄,天哪,她倒抽了一口气,这儿的房子个头还不如自己大呢!
她走呀,走呀,走到大山里面。嗬,这儿有一个大山洞,洞口好大好大,”哈哈,这下我找到自己的房子了!”房子高高兴兴往里走,突然,一个可怕的声音吼道:”哇呀呀,出去,出去,怎么能随随便便住到我家里来呢?真不像话!”
天哪,原来这是老虎的家!
房子赶快退出山洞。
房子找了一晚上,走得又累又疲倦,一个适合自己住的地方也寻不到。
房子非常伤心:”呜呜呜,我要是人就好了,人有房子住;我要是鸟就好了,鸟有自己的窝;我要是蜜蜂,也有一间小小的蜂房呀。可是,我是倒霉的房子,永远都没有自己的家,呜呜,当房子可怜呀……”
“房子呀,你哭什么?”一棵苍老的大树问道。
“我没有家,没有一座属于自己住的房子。”
大树哈哈笑着说:”谁说你没有家,没有房子呀?瞧,整个天空是你的屋顶,整个大地是你的房间。在你的家里,什么东西都应有尽有,上有太阳月亮星星,下有城市山水森林,拥有这样的家,难道还不能使你快乐吗?”
房子怔住了,她瞪大眼睛仔细想:”是的,我有世界上最大最大的房子!”她高兴了,”天哪,原来我的房子比所有的房子都可爱呀”
房子急急忙忙返回了城市。从此以后,她又成了一幢快快乐乐的房子。
ผู้เขียน Yi Ming(ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง)
แปลและเรียบเรียง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เมชฌ สอดส่องกฤษ